ปัญหาอันใหญ่ยิ่งของชาติและประชาชน คือระบอบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นเหตุวิกฤตชาติในทุกด้าน มีด้านหลักๆ ใหญ่ๆ ได้แก่
1. ความขัดแย้ง ทำลายกันเอง นับแต่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
2. คอร์รัปชัน ในภาพรวมครึ่งหนึ่งของงบประมาณ คอร์รัปชันจากเงินพันเป็นแสนล้านในปัจจุบัน เคยซื้อเสียงปลาทูเพียงหนึ่งตัว รองเท้าหนึ่งข้าง เป็นหัวละ 1,000-2,000 บาท บางแห่งสูงถึง 3,000 บาทก็มี หรือมากกว่านั้นสำหรับหัวคะแนน
3. ความอ่อนแอของชาติและประชาชน เพราะสภาพของระบอบเผด็จการนั้น ทำให้ประชาชนไม่รู้จุดหมายของชาติ และจุดหมายปัจเจกบุคคลก็ไปกันคนละทิศละทาง ศาสตร์ต่างๆ ของชาติก็อ่อนแอ คนอ่อนแอ ศาสตร์อ่อนแอ อย่างรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในเมืองไทยอ่อนแอมากๆ และกลายเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามของหลักเหตุและผล คือ แทนที่รัฐศาสตร์จะเป็นเหตุของวิชานิติศาสตร์ แต่มันกลายเป็นว่า นิติศาสตร์เป็นของรัฐศาสตร์ นี่คือการจัดความสัมพันธ์ในระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ
4. อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเป็นพวกนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว คือเป็นของนายทุนกลุ่มหนุนหลังพรรคการเมือง พรรคการเมือง
5. อันเป็นเหตุให้อำนาจอธิปไตยด้านชาติอ่อนแอถึงขีดสุด ดูได้จากเมื่อมีกรณีพิพาทกับเพื่อนบ้านไทยจะเสียเปรียบและตกเป็นเบี้ยล่างเขามาตลอด
6. โครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรม เช่น การขนส่ง ซึ่งทุกรัฐบาลสนับสนุนให้มีรถสิบล้อเพราะได้ค่าคอมมิชชันจากชาวต่างชาติ แทนที่จะสนับสนุนเป็นรถไฟ เพราะเป็นการขนส่งที่ถูกที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด รถไฟไทยจึงล้าหลังที่สุด
7. พลังงาน เช่น น้ำมันแพงมาก ทั้งๆ ผลิตได้ในไทย นำขายต่างชาติราคาถูก แต่ขายคนไทยราคาแพง
8. ที่ดิน ที่ดินกระจุกอยู่ในมือคนรวย ที่ดินในประเทศไทย 100% ซึ่ง 90% เป็นของคนรวยเพียง 10% ส่วนที่ดินที่เหลืออีก 10% เป็นของคน 90% และส่วนหนึ่งตกอยู่ความครอบครองของชาวต่างชาติ
9. ฯลฯ เหล่านี้คือทุกข์ของแผ่นดินและของประชาชนไทย
สาเหตุหรือสมุทัยแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติและประชาชน มีเพียงประเด็นเดียวคือ ผู้ปกครองหลอกลวงว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย พวกเขาจึงร่างรัฐธรรมนูญและแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดกันง่ายๆ แก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลหรือของผู้ปกครองเท่านั้น
ทั้งๆ ที่ในความจริงประเทศไทยมีการปกครองแบบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ สองลักษณะคือ รัฐประหาร กับ การเลือกตั้งซื้อเสียง สลับสับเปลี่ยนกันยาวนานที่สุดในโลก 81 กว่าปี ทั้งสองแนวทางนี้ต่างก็ถือลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเหมือนกัน พิสูจน์ได้จาก
1) รัฐประหาร ยึดอำนาจแล้วร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นเครื่องมือในการปกครอง
2) เลือกตั้งซื้อเสียง ได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ก็แก้ไขบางมาตรา อย่างเช่น รัฐบาลบรรหาร รัฐบาลปู เป็นต้น
พวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันก็ทำได้แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เกิดจากลัทธิรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นลัทธิความเชื่อทางรูปธรรมและวิธีการทางการเมือง เช่น
เชื่อว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าระบบรัฐสภาคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าประมุขประเทศเป็นประมุขระบอบ ตามที่พวกเขาเขียนหลอกและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตรา 2
นี่คือความเห็นผิดของผู้ปกครองอย่างร้ายแรงของชาติ ช่วยกันเถิดนะทำความเห็นให้ถูกต้อง
กฎหมายรัฐธรรมนูญ มันก็เป็นกฎหมายอย่างหนึ่ง เป็นเครื่องมือหรือวิธีการในการปกครอง เมื่อพิสูจน์ทราบชัดแล้วว่าเป็นระบอบเผด็จการ 1,000% กฎหมายรัฐธรรมนูญก็เป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการ มันก็คือเป็นเครื่องมือของนักการเมืองผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวมีตระกูลชินวัตรและเครือข่าย เป็นต้น
ระบอบเผด็จการ คือระบอบการเมืองที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมแสดงให้ประชาชนได้เห็นได้เข้าใจและเป็นของปวงชน เป็นเอกภาพของปวงชน เป็นจุดหมายร่วมของปวงในชาติ เป็นหลักนิติธรรมแห่งชาติ เป็นกฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ แต่มันไม่มีสักอย่าง มันจึงเป็นระบอบการเมืองที่มีแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว อุปมามีแต่ดาวเคราะห์อย่างเดียว มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้
ดวงอาทิตย์ ย่อมมาก่อน ดาวเคราะห์ ฉันใด
วัดพระแก้ว ย่อมเกิดก่อนวิธีการไปวัดพระแก้ว ฉันใด
จุดหมาย ย่อมเกิดก่อนวิธีการไป ฉันใด
หลักการปกครองโดยธรรม ย่อมเกิดก่อนวิธีการปกครองคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญฉันนั้น
หากท่านใด คณะใด มีปัญญาแล้วยกตัวอย่าง เช่น
- รัฐประหาร แล้วร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
- หรือชนะเลือกตั้งแล้ว ก็ร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
- หรือคณะปฏิวัติด้วยมวลชน ไล่รัฐบาลกดขี่ ขูดรีด ออกไปได้แล้ว ก็ร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
อมตวาจา “เราจะเข้าถึงสิ่งใดนั้น สิ่งนั้นต้องมีอยู่ก่อน” จึงเห็นชัดว่า ทักษิณ รัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ กำลังเป็นหัวขบวนของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญในปัจจุบันแล้วควรจะโค่นตรงไหนละที่เป็นเหตุ
1. ความขัดแย้ง ทำลายกันเอง นับแต่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
2. คอร์รัปชัน ในภาพรวมครึ่งหนึ่งของงบประมาณ คอร์รัปชันจากเงินพันเป็นแสนล้านในปัจจุบัน เคยซื้อเสียงปลาทูเพียงหนึ่งตัว รองเท้าหนึ่งข้าง เป็นหัวละ 1,000-2,000 บาท บางแห่งสูงถึง 3,000 บาทก็มี หรือมากกว่านั้นสำหรับหัวคะแนน
3. ความอ่อนแอของชาติและประชาชน เพราะสภาพของระบอบเผด็จการนั้น ทำให้ประชาชนไม่รู้จุดหมายของชาติ และจุดหมายปัจเจกบุคคลก็ไปกันคนละทิศละทาง ศาสตร์ต่างๆ ของชาติก็อ่อนแอ คนอ่อนแอ ศาสตร์อ่อนแอ อย่างรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในเมืองไทยอ่อนแอมากๆ และกลายเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามของหลักเหตุและผล คือ แทนที่รัฐศาสตร์จะเป็นเหตุของวิชานิติศาสตร์ แต่มันกลายเป็นว่า นิติศาสตร์เป็นของรัฐศาสตร์ นี่คือการจัดความสัมพันธ์ในระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ
4. อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเป็นพวกนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว คือเป็นของนายทุนกลุ่มหนุนหลังพรรคการเมือง พรรคการเมือง
5. อันเป็นเหตุให้อำนาจอธิปไตยด้านชาติอ่อนแอถึงขีดสุด ดูได้จากเมื่อมีกรณีพิพาทกับเพื่อนบ้านไทยจะเสียเปรียบและตกเป็นเบี้ยล่างเขามาตลอด
6. โครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรม เช่น การขนส่ง ซึ่งทุกรัฐบาลสนับสนุนให้มีรถสิบล้อเพราะได้ค่าคอมมิชชันจากชาวต่างชาติ แทนที่จะสนับสนุนเป็นรถไฟ เพราะเป็นการขนส่งที่ถูกที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด รถไฟไทยจึงล้าหลังที่สุด
7. พลังงาน เช่น น้ำมันแพงมาก ทั้งๆ ผลิตได้ในไทย นำขายต่างชาติราคาถูก แต่ขายคนไทยราคาแพง
8. ที่ดิน ที่ดินกระจุกอยู่ในมือคนรวย ที่ดินในประเทศไทย 100% ซึ่ง 90% เป็นของคนรวยเพียง 10% ส่วนที่ดินที่เหลืออีก 10% เป็นของคน 90% และส่วนหนึ่งตกอยู่ความครอบครองของชาวต่างชาติ
9. ฯลฯ เหล่านี้คือทุกข์ของแผ่นดินและของประชาชนไทย
สาเหตุหรือสมุทัยแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติและประชาชน มีเพียงประเด็นเดียวคือ ผู้ปกครองหลอกลวงว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย พวกเขาจึงร่างรัฐธรรมนูญและแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดกันง่ายๆ แก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลหรือของผู้ปกครองเท่านั้น
ทั้งๆ ที่ในความจริงประเทศไทยมีการปกครองแบบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ สองลักษณะคือ รัฐประหาร กับ การเลือกตั้งซื้อเสียง สลับสับเปลี่ยนกันยาวนานที่สุดในโลก 81 กว่าปี ทั้งสองแนวทางนี้ต่างก็ถือลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเหมือนกัน พิสูจน์ได้จาก
1) รัฐประหาร ยึดอำนาจแล้วร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นเครื่องมือในการปกครอง
2) เลือกตั้งซื้อเสียง ได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ก็แก้ไขบางมาตรา อย่างเช่น รัฐบาลบรรหาร รัฐบาลปู เป็นต้น
พวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันก็ทำได้แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เกิดจากลัทธิรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นลัทธิความเชื่อทางรูปธรรมและวิธีการทางการเมือง เช่น
เชื่อว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าระบบรัฐสภาคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย
เชื่อว่าประมุขประเทศเป็นประมุขระบอบ ตามที่พวกเขาเขียนหลอกและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตรา 2
นี่คือความเห็นผิดของผู้ปกครองอย่างร้ายแรงของชาติ ช่วยกันเถิดนะทำความเห็นให้ถูกต้อง
กฎหมายรัฐธรรมนูญ มันก็เป็นกฎหมายอย่างหนึ่ง เป็นเครื่องมือหรือวิธีการในการปกครอง เมื่อพิสูจน์ทราบชัดแล้วว่าเป็นระบอบเผด็จการ 1,000% กฎหมายรัฐธรรมนูญก็เป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการ มันก็คือเป็นเครื่องมือของนักการเมืองผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวมีตระกูลชินวัตรและเครือข่าย เป็นต้น
ระบอบเผด็จการ คือระบอบการเมืองที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมแสดงให้ประชาชนได้เห็นได้เข้าใจและเป็นของปวงชน เป็นเอกภาพของปวงชน เป็นจุดหมายร่วมของปวงในชาติ เป็นหลักนิติธรรมแห่งชาติ เป็นกฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ แต่มันไม่มีสักอย่าง มันจึงเป็นระบอบการเมืองที่มีแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว อุปมามีแต่ดาวเคราะห์อย่างเดียว มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้
ดวงอาทิตย์ ย่อมมาก่อน ดาวเคราะห์ ฉันใด
วัดพระแก้ว ย่อมเกิดก่อนวิธีการไปวัดพระแก้ว ฉันใด
จุดหมาย ย่อมเกิดก่อนวิธีการไป ฉันใด
หลักการปกครองโดยธรรม ย่อมเกิดก่อนวิธีการปกครองคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญฉันนั้น
หากท่านใด คณะใด มีปัญญาแล้วยกตัวอย่าง เช่น
- รัฐประหาร แล้วร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
- หรือชนะเลือกตั้งแล้ว ก็ร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
- หรือคณะปฏิวัติด้วยมวลชน ไล่รัฐบาลกดขี่ ขูดรีด ออกไปได้แล้ว ก็ร่วมมือกับสถาบันหลักของชาติและประชาชนแล้วสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
อมตวาจา “เราจะเข้าถึงสิ่งใดนั้น สิ่งนั้นต้องมีอยู่ก่อน” จึงเห็นชัดว่า ทักษิณ รัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ กำลังเป็นหัวขบวนของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญในปัจจุบันแล้วควรจะโค่นตรงไหนละที่เป็นเหตุ