ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญไทยคือระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมของปวงชนหรือไม่มีจุดหมายร่วมโดยธรรมของปวงชนหรือของชาติ หรือไม่มีหลักนิติธรรมของปวงชน หรือไม่มีกฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐที่แท้จริง หรือไม่มีหลักการทางการเมืองของปวงชนมีแต่ความคิดของนักการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ตน ตระกูลและพวกพ้อง
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันเป็นความเชื่อทางรูปธรรมทางการเมือง พูดง่ายๆ ว่า มันมีแต่เปลือกหอย ไม่มีตัวหอยหรือลัทธิที่สร้างแต่เปลือกหอยให้เป็นหอย หรือเป็นลัทธิความเชื่อที่ว่า “สร้างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” หรือสร้างวิธีการไปสู่จุดหมายโดยที่จุดหมายของปวงชนยังไม่มีโดยปกติทั่วไป จุดหมายย่อมเกิดก่อนวิธีการไปสู่จุดหมาย เช่น เราไปวัดพระก็แก้วได้ ไปถึง เข้าถึงได้จริง สัมผัสได้ เพราะวัดพระแก้วมีอยู่ก่อน โรงพยาบาลศิริราช ฯลฯ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน อุปมา ดุจดัง ดาวเคราะห์ ปราศจากดวงอาทิตย์ มันจึงดำรงอยู่ไม่ได้ มันจึงถูกรัฐประหารทุกครั้งไป เพราะระบอบนี้ มันรับใช้ มันให้ประโยชน์เฉพาะนักการเมืองผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น
ลัทธิเผด็จการคือลัทธิความเชื่อเพียงรูปธรรมทางการเมืองได้แก่
1. กฎหมายรัฐธรรมนูญ แท้ที่จริง ความถูกต้องมันเป็นเพียงวิธีการปกครองหรือเป็นเครื่องของรัฐบาล ไม่สามารถเป็นหลักการปกครองได้ หรือระบอบการเมืองที่แท้จริงได้ หรือจุดหมายร่วมของประชาชนได้ ฯลฯ
2. ระบบรัฐสภา เป็นรูปการปกครอง เป็นสถาบันองค์กรแห่งการใช้อำนาจอธิปไตย (ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยก็เป็นของปวงชน หากเป็นระบอบเผด็จการ อำนาจอธิปไตยก็เป็นของพรรคการเมือง
3. องค์กรต่างๆ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้น ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว โดยปราศจากหลักการปกครองโดยธรรมหรือหลักนิติธรรมแห่งชาติ อันเป็นเหตุของกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงยากที่จะได้รับความยุติธรรมจากองค์กรนั้นๆ
4. การมีผู้แทนมาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้แสดงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป ผู้แทนในระบอบเผด็จการก็มีมากมาย เช่นการเลือกตั้งผู้แทนในประเทศเผด็จการทุกชนิด
การมีผู้แทนตามเจตจำนงของประชาชน หรือการมีผู้แทนโดยสัจธรรม ประชาชนคนคนหนึ่ง จะมีผู้แทนอยู่ 2 คน 2 ลักษณะ
1) ผู้แทนประชาชนคนแรกคือ ผู้แทนในพื้นที่ที่ตนเกิด เช่น หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ในเขตเลือกตั้งนั้น เรียกว่า ผู้แทนทั่วไป หรือ เรียกว่า ส.ส. เมื่อประชาชนเข้าใจการเมืองของตนเองดี ในเขตไหนมีกรรมกรมาก ก็จะได้ ส.ส.กรรมกร เป็นผู้แทน ผู้แทนพรรคนายทุนก็หายไป เขตไหนมีชาวนา ชาวสวน เกษตรกรจำนวนมาก ก็จะได้ ส.ส.เกษตรกร เป็นผู้แทน เป็นต้น
แต่ในปัจจุบัน ส.ส.ซื้อเสียงเข้าสภาฯ ก็จะได้แต่ตัวแทนนายทุนที่มีเงิน มาก เมื่อประชาชนยังไม่รู้การเมือง ยังขาดจิตสำนึกทางการเมืองเพราะความไม่รู้ รับเงิน 1,000-2,000 บาท เลือกผู้ซื้อเสียงเข้าสภาฯ ไม่กว่า 80% ของ ส.ส. ทั้งหมด
2) ผู้แทนอาชีพ เพราะประชาชนทุกคนมีอาชีพ ดังนั้นจึงต้องมีผู้แทนอาชีพเพื่อดูแลคุ้มครองปกป้องผลประโยชน์ของอาชีพนั้นๆ ผู้แทนอาชีพแต่ละอาชีพนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นผู้ชำนาญการในสาขาอาชีพนั้นๆ หากผู้แทนสาขาอาชีพ หรือ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการก็จะได้แต่ผู้แทนพรรค หรือผู้แทนนายทุนธุรกิจการเมืองเท่านั้น
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคนายทุน เป็นพรรคเสือ สิงห์ กระทิง แรด (ชัดเจนมาก) เป็นพรรคอบายภูมิ (อสุรกาย เปรต สัตว์นรก เดรัจฉาน) เขาจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะได้ ส.ว.เป็นผู้แทนนายทุน ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของทักษิณและพวก เพื่อกินรวบประเทศไทย มันเป็นการทำลายเจตจำนงของประชาชนและทำลายประชาชนแต่ประชาชน ปัญญาชน สื่อ ยังหลงอยู่ ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ จึงมีการต่อต้านน้อย พรรคเพื่อไทยนายทุนและพรรคอื่นที่ยอมรับระบอบเผด็จการนี้ มันจึงปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติและประชาชนให้เป็นทานทางการเมืองต่อไปได้
ผู้แทนประชาชนทั้งสองลักษณะนี้เป็นเป็นสัจธรรม เป็นเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง สื่อต่างๆ ที่อ่านช่วยๆ กันให้ความรู้แก่ประชาชนด้วยเถิด ท่านทั้งหลายจึงเห็นชัดว่าพรรคเพื่อไทยมันกำลังทำลายชาติ ทำลายประชาชน และกำลังวางแผนทำลายองค์กรอิสระต่างๆ และศาล เพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยโดยฝ่ายเดียว จงตื่นขึ้นช่วยกันคัดค้านเถิด
5. เลือกตั้ง การเลือกตั้งเป็นเพียงวิธีการหนึ่งในหลายๆ วิธี ในการคัดสรรคนเข้าสู่ความเป็นแทนของนักการเมือง เมื่อระบอบเป็นเผด็จการ การเลือกตั้งก็เป็นการเลือกตั้งเผด็จการ คือซื้อเอา บังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งทุกระดับไม่ใช่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยคือ ฟรีโหวต (Free Vote) และ วันแมน วันโหวต (One man,One vote)
การเลือกตั้งเขตเดียว เลือกผู้แทนเดียว อันตรายมากๆ ประชาชนในระบอบเผด็จการยังไม่ตื่นตัว จะเลือกกี่ครั้งๆ คนที่ได้ก็จะเป็นพรรคนายทุน เพราะเขาซื้อเสียงประชาชนเข้าสภาฯ ประชาชนยังไม่รู้เจตจำนงของตนเอง เพราะไม่มีใครสอน 81 ปี ยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนสอนให้มีความรู้ความเข้าใจการเลือกตั้ง สอนว่าให้เลือกคนดีเข้าสภาฯ ประชาชนเลยเข้าใจว่าคนแจกเงินซื้อเสียงคือคนดี ดุจดัง “เสือหลอกให้วัวเลือกเสือเป็นจ่าฝูง” เสือมันก็กินวัวทุกวัน โดยทั้งกดขี่ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ขูดรีด โดยขึ้นภาษี ขึ้นสินค้าทุกชนิด และกู้มาบริหารประเทศ และการคอร์รัปชันอันใหญ่โตและกว้างใหญ่ไพศาลทั่วทุกองค์กรของรัฐ “มีงบประมาณที่ไหนมีการคอร์รัปชันที่นั่น”
6. นอกจากนี้ พวกเผด็จการรัฐธรรมนูญยังเข้าใจผิดๆ และสอนผิดๆ บัญญัติไว้รัฐธรรมนูญผิดๆ ว่า “การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” การเขียน การพูดอย่างนี้ เป็นการลิดรอนทำลายพระบรมเดชานุภาพ และกดพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ให้ต่ำลงจากทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ให้กลายเป็นประมุขระบอบเผด็จการ ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนี้ มันทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยลนัก มาตั้งแต่แรกเริ่มปี 2475 แล้ว
ดังนั้น การโค่นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคนการโค่นระบอบทักษิณ สมัคร สมชาย มาร์ค ปู ฯลฯ หรือที่พูดว่าโค่นระบอบเผด็จการรัฐสภาเหล่านี้ ล้วนเป็นเงาของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น จึงเป็นการยิงผิดเป้า ยิงไม่ถูกหัวใจของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญโค่นมันเท่าไร ก็ไม่ล้ม ไม่ตายรัฐประหารมจะกี่ครั้งๆ มันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ทุกครั้งไป เพราะทั้งฝ่ายพรรคการเมืองและฝ่ายรัฐประหาร ฝ่ายต่อต้านพรรคการเมืองก็เป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างก็เห็นผิด คิดผิด ทำผิดเหมือนกันคือร่างรัฐธรรมใหม่หรือไม่ก็แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผิดแล้วผิดอีกอย่างซ้ำซาก
การปกครองทุกชนิดย่อมมีจุดหมายลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันเป็นลัทธิวิธีการปกครอง มันเป็นวิธีการของผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว มันรับใช้ผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว เพราะผู้ปกครองเป็นจุดหมายของรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น การยิงให้ถูกเป้า ต้องยิงที่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ “โค่นรัฐบาล ปู สู่การสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9” หรือ “ร่วมมือรัฐบาลปู สู่การสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9”
ระบอบทักษิณ ฯลฯ ที่ประชาชนเกลียดชัง ก็จะหายสิ้นไป ได้ระบอบใหม่ถูกต้องโดยธรรม ได้หลักการปกครองโดยธรรมที่แท้จริง 9 ประการได้การเมืองของปวงชน ได้จุดหมายร่วมของปวงชน ได้กฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ ได้เอกภาพของปวงชนในชาติดังนั้นจงมาร่วมกันยกธนู (ปัญญา) ขึ้น แล้วเล็งไปที่เหตุแห่งความหายนะทั้งปวงของชาติ คือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ โดยมีระบอบทักษิณ ฯลฯ เป็นผลของมัน ช่วยกันยิงพร้อมๆ กันให้ถูกเป้า ดังรูป
ดังนั้น การต่อสู้ทั้งยุทธศาสตร์และยุทธวิธีอย่างนี้ เป็นการต่อสู้ทางปัญญา เป็นการต่อสู้อย่างสันติเป็นการช่วยให้คนเห็นผิด กลับมาเห็นถูก เป็นการช่วยให้คนเห็นผิดสำนึกผิด และทุกคนอยู่กันได้เมื่อเขาสารภาพผิด ไม่ทำลายคนไทยกันเอง ไม่ก่อให้เกิดการปะทะ เปลี่ยนจากการเผชิญหน้าเป็นการมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายเดียวกันคือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เพราะศัตรูที่แท้จริงของชาติ คือความเห็นผิดท่วมทับผู้ปกครองมายาวนานที่สุด 81 ปี คือ “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” อันเป็นความเห็นผิดร้ายแรงต่อชาติ จึงเป็นการโกหกที่ยาวนานที่สุดว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เป็นการหลงผิดเรื่องระบอบประชาธิปไตยที่ยาวนานที่สุดของโลก เป็นการกดขี่ขูดรีดที่ยาวนานที่สุด เป็นระบอบที่เปิดโอกาสให้มีคอร์รัปชันอย่างมากที่สุดในโลก เป็นการทำให้ประเทศชาติล้าหลังยาวนานที่สุด
ขอให้ปัญญาชนทั้งหลายผู้ที่อ่านเข้าใจ เกิดปัญญา แกนนำทั้งหลาย ประชาชน ยกธนู (ปัญญา) ยิงให้ถูกเป้า เหตุแห่งวิกฤตชาติเถิด เราเชื่อว่า พรรคการเมืองทุกพรรค จะกลับมาหันหน้ารับฟังความเห็นที่เป็นปัญญาอันยิ่งนี้ เว้นแต่พรรคทุนเดรัจฉาน
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันเป็นความเชื่อทางรูปธรรมทางการเมือง พูดง่ายๆ ว่า มันมีแต่เปลือกหอย ไม่มีตัวหอยหรือลัทธิที่สร้างแต่เปลือกหอยให้เป็นหอย หรือเป็นลัทธิความเชื่อที่ว่า “สร้างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” หรือสร้างวิธีการไปสู่จุดหมายโดยที่จุดหมายของปวงชนยังไม่มีโดยปกติทั่วไป จุดหมายย่อมเกิดก่อนวิธีการไปสู่จุดหมาย เช่น เราไปวัดพระก็แก้วได้ ไปถึง เข้าถึงได้จริง สัมผัสได้ เพราะวัดพระแก้วมีอยู่ก่อน โรงพยาบาลศิริราช ฯลฯ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน อุปมา ดุจดัง ดาวเคราะห์ ปราศจากดวงอาทิตย์ มันจึงดำรงอยู่ไม่ได้ มันจึงถูกรัฐประหารทุกครั้งไป เพราะระบอบนี้ มันรับใช้ มันให้ประโยชน์เฉพาะนักการเมืองผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น
ลัทธิเผด็จการคือลัทธิความเชื่อเพียงรูปธรรมทางการเมืองได้แก่
1. กฎหมายรัฐธรรมนูญ แท้ที่จริง ความถูกต้องมันเป็นเพียงวิธีการปกครองหรือเป็นเครื่องของรัฐบาล ไม่สามารถเป็นหลักการปกครองได้ หรือระบอบการเมืองที่แท้จริงได้ หรือจุดหมายร่วมของประชาชนได้ ฯลฯ
2. ระบบรัฐสภา เป็นรูปการปกครอง เป็นสถาบันองค์กรแห่งการใช้อำนาจอธิปไตย (ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยก็เป็นของปวงชน หากเป็นระบอบเผด็จการ อำนาจอธิปไตยก็เป็นของพรรคการเมือง
3. องค์กรต่างๆ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้น ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว โดยปราศจากหลักการปกครองโดยธรรมหรือหลักนิติธรรมแห่งชาติ อันเป็นเหตุของกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงยากที่จะได้รับความยุติธรรมจากองค์กรนั้นๆ
4. การมีผู้แทนมาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้แสดงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป ผู้แทนในระบอบเผด็จการก็มีมากมาย เช่นการเลือกตั้งผู้แทนในประเทศเผด็จการทุกชนิด
การมีผู้แทนตามเจตจำนงของประชาชน หรือการมีผู้แทนโดยสัจธรรม ประชาชนคนคนหนึ่ง จะมีผู้แทนอยู่ 2 คน 2 ลักษณะ
1) ผู้แทนประชาชนคนแรกคือ ผู้แทนในพื้นที่ที่ตนเกิด เช่น หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ในเขตเลือกตั้งนั้น เรียกว่า ผู้แทนทั่วไป หรือ เรียกว่า ส.ส. เมื่อประชาชนเข้าใจการเมืองของตนเองดี ในเขตไหนมีกรรมกรมาก ก็จะได้ ส.ส.กรรมกร เป็นผู้แทน ผู้แทนพรรคนายทุนก็หายไป เขตไหนมีชาวนา ชาวสวน เกษตรกรจำนวนมาก ก็จะได้ ส.ส.เกษตรกร เป็นผู้แทน เป็นต้น
แต่ในปัจจุบัน ส.ส.ซื้อเสียงเข้าสภาฯ ก็จะได้แต่ตัวแทนนายทุนที่มีเงิน มาก เมื่อประชาชนยังไม่รู้การเมือง ยังขาดจิตสำนึกทางการเมืองเพราะความไม่รู้ รับเงิน 1,000-2,000 บาท เลือกผู้ซื้อเสียงเข้าสภาฯ ไม่กว่า 80% ของ ส.ส. ทั้งหมด
2) ผู้แทนอาชีพ เพราะประชาชนทุกคนมีอาชีพ ดังนั้นจึงต้องมีผู้แทนอาชีพเพื่อดูแลคุ้มครองปกป้องผลประโยชน์ของอาชีพนั้นๆ ผู้แทนอาชีพแต่ละอาชีพนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นผู้ชำนาญการในสาขาอาชีพนั้นๆ หากผู้แทนสาขาอาชีพ หรือ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการก็จะได้แต่ผู้แทนพรรค หรือผู้แทนนายทุนธุรกิจการเมืองเท่านั้น
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคนายทุน เป็นพรรคเสือ สิงห์ กระทิง แรด (ชัดเจนมาก) เป็นพรรคอบายภูมิ (อสุรกาย เปรต สัตว์นรก เดรัจฉาน) เขาจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะได้ ส.ว.เป็นผู้แทนนายทุน ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของทักษิณและพวก เพื่อกินรวบประเทศไทย มันเป็นการทำลายเจตจำนงของประชาชนและทำลายประชาชนแต่ประชาชน ปัญญาชน สื่อ ยังหลงอยู่ ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ จึงมีการต่อต้านน้อย พรรคเพื่อไทยนายทุนและพรรคอื่นที่ยอมรับระบอบเผด็จการนี้ มันจึงปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติและประชาชนให้เป็นทานทางการเมืองต่อไปได้
ผู้แทนประชาชนทั้งสองลักษณะนี้เป็นเป็นสัจธรรม เป็นเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง สื่อต่างๆ ที่อ่านช่วยๆ กันให้ความรู้แก่ประชาชนด้วยเถิด ท่านทั้งหลายจึงเห็นชัดว่าพรรคเพื่อไทยมันกำลังทำลายชาติ ทำลายประชาชน และกำลังวางแผนทำลายองค์กรอิสระต่างๆ และศาล เพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยโดยฝ่ายเดียว จงตื่นขึ้นช่วยกันคัดค้านเถิด
5. เลือกตั้ง การเลือกตั้งเป็นเพียงวิธีการหนึ่งในหลายๆ วิธี ในการคัดสรรคนเข้าสู่ความเป็นแทนของนักการเมือง เมื่อระบอบเป็นเผด็จการ การเลือกตั้งก็เป็นการเลือกตั้งเผด็จการ คือซื้อเอา บังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งทุกระดับไม่ใช่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยคือ ฟรีโหวต (Free Vote) และ วันแมน วันโหวต (One man,One vote)
การเลือกตั้งเขตเดียว เลือกผู้แทนเดียว อันตรายมากๆ ประชาชนในระบอบเผด็จการยังไม่ตื่นตัว จะเลือกกี่ครั้งๆ คนที่ได้ก็จะเป็นพรรคนายทุน เพราะเขาซื้อเสียงประชาชนเข้าสภาฯ ประชาชนยังไม่รู้เจตจำนงของตนเอง เพราะไม่มีใครสอน 81 ปี ยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนสอนให้มีความรู้ความเข้าใจการเลือกตั้ง สอนว่าให้เลือกคนดีเข้าสภาฯ ประชาชนเลยเข้าใจว่าคนแจกเงินซื้อเสียงคือคนดี ดุจดัง “เสือหลอกให้วัวเลือกเสือเป็นจ่าฝูง” เสือมันก็กินวัวทุกวัน โดยทั้งกดขี่ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ขูดรีด โดยขึ้นภาษี ขึ้นสินค้าทุกชนิด และกู้มาบริหารประเทศ และการคอร์รัปชันอันใหญ่โตและกว้างใหญ่ไพศาลทั่วทุกองค์กรของรัฐ “มีงบประมาณที่ไหนมีการคอร์รัปชันที่นั่น”
6. นอกจากนี้ พวกเผด็จการรัฐธรรมนูญยังเข้าใจผิดๆ และสอนผิดๆ บัญญัติไว้รัฐธรรมนูญผิดๆ ว่า “การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” การเขียน การพูดอย่างนี้ เป็นการลิดรอนทำลายพระบรมเดชานุภาพ และกดพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ให้ต่ำลงจากทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ให้กลายเป็นประมุขระบอบเผด็จการ ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนี้ มันทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยลนัก มาตั้งแต่แรกเริ่มปี 2475 แล้ว
ดังนั้น การโค่นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคนการโค่นระบอบทักษิณ สมัคร สมชาย มาร์ค ปู ฯลฯ หรือที่พูดว่าโค่นระบอบเผด็จการรัฐสภาเหล่านี้ ล้วนเป็นเงาของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น จึงเป็นการยิงผิดเป้า ยิงไม่ถูกหัวใจของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญโค่นมันเท่าไร ก็ไม่ล้ม ไม่ตายรัฐประหารมจะกี่ครั้งๆ มันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ทุกครั้งไป เพราะทั้งฝ่ายพรรคการเมืองและฝ่ายรัฐประหาร ฝ่ายต่อต้านพรรคการเมืองก็เป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างก็เห็นผิด คิดผิด ทำผิดเหมือนกันคือร่างรัฐธรรมใหม่หรือไม่ก็แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผิดแล้วผิดอีกอย่างซ้ำซาก
การปกครองทุกชนิดย่อมมีจุดหมายลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ มันเป็นลัทธิวิธีการปกครอง มันเป็นวิธีการของผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว มันรับใช้ผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว เพราะผู้ปกครองเป็นจุดหมายของรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น การยิงให้ถูกเป้า ต้องยิงที่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ “โค่นรัฐบาล ปู สู่การสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9” หรือ “ร่วมมือรัฐบาลปู สู่การสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9”
ระบอบทักษิณ ฯลฯ ที่ประชาชนเกลียดชัง ก็จะหายสิ้นไป ได้ระบอบใหม่ถูกต้องโดยธรรม ได้หลักการปกครองโดยธรรมที่แท้จริง 9 ประการได้การเมืองของปวงชน ได้จุดหมายร่วมของปวงชน ได้กฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ ได้เอกภาพของปวงชนในชาติดังนั้นจงมาร่วมกันยกธนู (ปัญญา) ขึ้น แล้วเล็งไปที่เหตุแห่งความหายนะทั้งปวงของชาติ คือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ โดยมีระบอบทักษิณ ฯลฯ เป็นผลของมัน ช่วยกันยิงพร้อมๆ กันให้ถูกเป้า ดังรูป
ดังนั้น การต่อสู้ทั้งยุทธศาสตร์และยุทธวิธีอย่างนี้ เป็นการต่อสู้ทางปัญญา เป็นการต่อสู้อย่างสันติเป็นการช่วยให้คนเห็นผิด กลับมาเห็นถูก เป็นการช่วยให้คนเห็นผิดสำนึกผิด และทุกคนอยู่กันได้เมื่อเขาสารภาพผิด ไม่ทำลายคนไทยกันเอง ไม่ก่อให้เกิดการปะทะ เปลี่ยนจากการเผชิญหน้าเป็นการมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายเดียวกันคือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เพราะศัตรูที่แท้จริงของชาติ คือความเห็นผิดท่วมทับผู้ปกครองมายาวนานที่สุด 81 ปี คือ “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” อันเป็นความเห็นผิดร้ายแรงต่อชาติ จึงเป็นการโกหกที่ยาวนานที่สุดว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เป็นการหลงผิดเรื่องระบอบประชาธิปไตยที่ยาวนานที่สุดของโลก เป็นการกดขี่ขูดรีดที่ยาวนานที่สุด เป็นระบอบที่เปิดโอกาสให้มีคอร์รัปชันอย่างมากที่สุดในโลก เป็นการทำให้ประเทศชาติล้าหลังยาวนานที่สุด
ขอให้ปัญญาชนทั้งหลายผู้ที่อ่านเข้าใจ เกิดปัญญา แกนนำทั้งหลาย ประชาชน ยกธนู (ปัญญา) ยิงให้ถูกเป้า เหตุแห่งวิกฤตชาติเถิด เราเชื่อว่า พรรคการเมืองทุกพรรค จะกลับมาหันหน้ารับฟังความเห็นที่เป็นปัญญาอันยิ่งนี้ เว้นแต่พรรคทุนเดรัจฉาน