xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

24 พ.ย.ไม่มีแล้วรัฐบาลของ“คนเสื้อแดง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อเวลา 19.12 น. วันที่ 24 พ.ย.2556 (ภาพจากทวิตเตอร์ @Juarawee แห่ง China Central Television, Bangkok Bureau)
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สงครามระหว่างฝ่ายมวลมหาประชาชนที่ออกมาขับไล่ระบอบทักษิณ กับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในขณะนี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นสงครามชิงความชอบธรรมก็คงไม่ผิด

นั่นเพราะ ฝ่ายประชาชนนั้นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออย่างอื่นที่จะเอามาต่อสู้ นอกจากประเด็นเรื่องความชอบธรรมเท่านั้น

ประชาชนมีความชอบธรรมในการออกมาขับไล่ เพราะคนในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศตัวอย่างชัดเจนไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อหลักการถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ

นอกจากนี้ ในช่วงการบริหารงานตลอด 2 ปีเศษที่ผ่านมา ยังได้ดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง มีพฤติกรรมทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงหลายกรณี ทั้งยังประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานให้แก่ประชาชน

และที่สำคัญคือ รัฐบาลชุดนี้อยู่ภายใต้อาณัติสั่งการจาก นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่เร่ร่อนหนีคุกอยู่ต่างประเทศ ด้วยการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญและออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้

ในขณะที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น อ้างความชอบธรรมได้อย่างเดียวว่าตนเองมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่อาจนำมาอ้างได้ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่เอาผลประโยชน์ไปหลอกล่อให้ประชาชนเลือกเข้ามา

นอกจากนี้ ยังกุมความได้เปรียบจากการมีอำนาจรัฐ และคุมสื่อส่วนใหญ่ไว้ได้

เครื่องมืออันเดียวที่ฝ่ายประชาชนจะเอาชนะอำนาจรัฐได้โดยไม่ต้องมีการนองเลือด ก็คือการออกมาแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลให้มากที่สุด ให้เห็นว่า มหาประชาชนไม่เอารัฐบาลนี้แล้ว

การประกาศระดมคนออกมาสู่ท้องถนนให้ได้ 1 ล้านคน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นกลยุทธหนึ่งที่จะทำให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เห็นว่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณนั้นมีมากมายมหาศาลแค่ไหน

ซึ่งนี่ก็เป็นยุทธวิธีที่ฝ่ายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์อ่านออก และไม่อยากให้การจัดชุมนุมคน 1 ล้านคน ประสบความสำเร็จ

แต่ครั้นจะใช้อำนาจรัฐไปสกัดกั้นการชุมนุมแบบทื่อๆ ก็จะทำให้เสียภาพลักษณ์ที่พยายามสร้างมาตลอดว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน ทางแก้จึงมีอย่างเดียวคือการระดมคนเสื้อแดง มวลชนม้าใช้ ออกมาแสดงพลังสู้กับมวลชนฝ่ายต่อต้านเท่านั้น

แกนนำคนเสื้อแดงจึงประกาศระดมคนอย่างกระทันหันให้ไปรวมตัวกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 24 พ.ย.เช่นเดียวกัน โดยหวังว่า คนเสื้อแดงจะเข้าไปเต็มความจุของสนาม ซึ่งถ้าหากรวมบริเวณพื้นสนามด้วยแล้ว ก็จะได้ราว 7-8 หมื่น พอจะเอาไปเคลมได้ว่าคนมาเป็นแสน

แต่เอาเข้าจริง เมื่อถึงวันนัดหมาย คนเสื้อแดงเข้าไปในราชมังคลากีฬาสถาน ไม่เต็มพื้นสนาม ส่วนบนอัฒจรรย์ก็มีคนนั่งอยู่เพียงประปราย ถ้านับจำนวนรวมกันจริงๆ ก็น่าได้ราว 1 หมื่นเศษๆ

ขณะฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ มากันเต็มพื้นที่ ตั้งแต่ตลอดแนวถนนราชดำเนินกลาง เลยสะพานผ่านฟ้าไปตามถนนราชดำเนินนอกถึงสะพานมัฆวานฯ และอีกทางจากแยกผ่านฟ้าฯ ไปตามถนนหลานหลวงจนถึงยมราช และอีกแยกก็ไปตามถนนนครสวรรค์ไปจนถึงแยกนางเลิ้ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ล้นไปถึงสนามหลวงขึ้นไปจนเต็มสะพานพระปิ่นเกล้า ขณะที่บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ล้นไปตามถนนดินสอ ไปถึงถนนมหรรณพ หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และบริเวณแยกคอกวัวก็ล้นไปตามถนนตะนาว ด้านหนึ่งไปถึงศาลเจ้าพ่อเสือ อีกด้านล้นไปถึงถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำพู

ส่วนจำนวนคนจะถึง 1 ล้านหรือไม่นั้น อาจถกเถียงกันได้ แต่ที่แน่ๆ นี่เป็นการออกมาสู่ท้องถนนของมวลมหาประชาชนที่มากมายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

การประลองกำลังด้วยการระดมมวลชน เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ผลการตัดสินจึงปรากฏว่า ฝ่ายปกป้องระบอบทักษิณแพ้หลุดลุ่ย แม้จะแอบใช้วิชามาร โปรยตะปูเรือใบสกัดมวลชนที่บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัดภาคใต้มาถ่วงไว้แล้วก็ตาม

ฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดง และรัฐบาลพยายามเยาะเย้ยว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระดมคนมาได้ไม่ถึง 1 ล้านคนตามเป้าหมาย แต่เมื่อถามถึงตัวเลขของคนเสื้อแดงที่ออกมาวันนั้น ตัวเลขที่พยายามปั้นออกมาสูงสุดก็คือ 4 หมื่นคน ซึ่้งก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะความจุของที่นั่งสนามราชมังคลากีฬาสถานหลังจากติดตั้งเก้าอี้แล้ว อยู่ที่ประมาณ 49,900 ที่นั่ง และบริเวณพื้นสนาม หากนั่งเต็มพื้นที่ก็ได้ประมาณ 2 หมื่นคน แต่ภาพที่เห็นในวันนั้น จนถึงช่วงไพรม์ไทม์ คือราว 1 ทุ่มแล้ว พื้นสนามก็ยังไม่เต็ม ส่วนที่นั่งบนอัฒจรรย์ก็ยังว่างอยู่เป็นส่วนใหญ่

จึงมีคำถามตามมาว่า ในยามที่ต้องระดมคนออกมาแสดงพลังสร้างภาพว่ายังเป็นรัฐบาลของคนส่วนใหญ่ของประเทศเช่นนี้ ทำไมคนเสื้อแดงจึงออกมากันหรอมแหรมเช่นนี้ ช่างไม่ช่วยกันรักษาหน้าบ้างเลย

คำตอบก็คงจะหาได้ไม่ยากนัก เพราะเมื่อเดือนก่อน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพิ่งแสดงธาตุแท้ออกมาให้คนเสื้อแดงที่พอมีปัญญาได้เห็น นั่นคือการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ยกเว้นความผิดให้คนทุกสีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นการสอดไส้ในขั้นตอนการแปรญัตติจากร่างเพิ่มที่จะนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 จนถึงปี 2554 เท่านั้น โดยไม่รวมแกนนำ คนสั่งการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนที่กระผิดคดีอาญา

การสอดไส้เนื้อหาให้เป็นการนิรโทษกรรมแบบยกเข่ง ด้วยข้ออ้างที่ว่าเพื่อให้ทุกอย่างกลับไปเป็นศูนย์และเริ่มนับหนึ่งประเทศไทยใหม่ หรือที่เรียกว่า set zero นั้น เท่ากับว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหักหลังคนเสื้อแดง เพราะบรรดาแกนนำ นปช.เคยประกาศย้ำนักย้ำหนาว่า จะเอาฆาตกรที่ทำให้คนเสื้อแดงเสียชีวิตระหว่างการชุมนุมในปี 2553 มาลงโทษให้ได้

คนเสื้อแดงที่พอมีปัญญายังได้ตาสว่างมองเห็นว่า การแปรญัตติให้เป็นการนิรโทษกรรมยกเข่งนั้น เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของ นช.ทักษิณเท่านั้น นั่นเพราะนายประยุทธ ศิริพานิชย์ ผู้แปรญัตติ ยอมรับเองว่า ที่แปรญัตติออกมาแบบนี้ ก็เพราะได้ไปพบกับ นช.ทักษิณ และ นช.ทักษิณบอกว่าอยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว

นอกจากนี้ การขยายช่วงเวลาการกระทำผิดที่จะได้รับการนิรโทษกรรมให้ย้อนหลังไปถึงปี 2547 และยืดระยะเวลามาจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นี้ในวาระแรก ย่อมทำให้เห็นเจตนาชัดเจนว่า ต้องการที่จะให้การกระทำผิดที่มี นช.ทักษิณเป็นต้นเหตุช่วงที่เกิดความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการกระทำผิดของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วย

แต่ผลจากการแปรญัตติปรับเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ให้เป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งนั้น ทำให้ร่าง พ.ร.บ.นี้ถูกต่อต้านจากคนทั้งประเทศ และในที่สุดร่าง พ.ร.บ.นี้ก็ถูกระงับไป จะฟื้นกลับคืนมาใหม่ก็ต้องรอให้ครบ 180 วัน หรือ 6 เดือนก่อน

นั่นเท่ากับว่า ความหวังของญาติพี่น้องคนเสื้อแดงที่หวังว่าจะญาติตนเองที่ถูกจับกุมจะได้ออกจากคุกด้วยผลของ พ.ร.บ.นี้ ก็ต้องรอไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน และเมื่อครบแล้วก็อาจจะถูกต่อต้านจากคนทั้งประเทศอีกครั้ง และที่สำคัญ คำสัญญาที่ว่าจะเอาฆาตกรมาลงโทษให้ได้นั้น ก็ยังลอยอยู่ในสายลมต่อไป

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การระดมคนเสื้อแดงไปที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 24 พ.ย.พ่ายแพ้ต่อการระดมคนต่อต้านระบอบทักษิณที่ถนนราชดำเนินและบริเวณใกล้เคียงอย่างหลุดลุ่ย

นี่เป็นสัญญาณที่ส่งไปบอกให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้รู้ว่า คนเสื้อแดงที่พอมีปัญญาและอุดมการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการชุมนุม และคนเสื้อแดงสายนักวิชาการนั้น ไม่มีความรู้สึกอยากจะปกป้องรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว หลังจากได้เห็นธาตุแท้ของรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และ นช.ทักษิณ ชินวัตร ในกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

หากสำรวจไปตามเครือข่ายสังคมออนไลน์ของคนเสื้อแดงในระยะนี้ ก็จะเห็นการถ่ายทอดความรู้สึกลักษณะนี้ออกมาอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะยิ่งข้อความที่ว่า “ไม่มีแล้วรัฐบาลของคนเสื้อแดง”


กำลังโหลดความคิดเห็น