ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อัยการประชาชนลาว สอบพบเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาและการเงินในแขวงหัวพัน จำนวน 20 คน มีความผิดฐานร่วมกันยักยอกเงิน 21,000 ล้านกีบ (อัตราแลกเปลี่ยน 252.22 กีบ/บาท) และทั้งหมดจะถูกนำขึ้นไต่สวนในศาลเร็วๆ นี้ สื่อของทางการรายงาน
เหตุเกิดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจตราประจำแขวง (จังหวัด) ภาคเหนือได้เปิดเผยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการสอบสวนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จำนวน 58 ราย ฐานต้องสงสัยสมคบคิดกินฉ้อโกงผันเงินงบประมาณของรัฐไปใช้ประโยชน์ส่วนตนกับหมู่คณะ สำนักข่าวสารปะเทดลาวกล่าว
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์สรายงานอ้างการเปิดเผยของนายคำผิว วงสะหวัน รองเลขาธิการพรรคสาขาแขวงหัวพันว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 58 คน จะถูกลงโทษทางวินัยในความผิดต่างๆ กัน
“มี 25 คนจาก 58 คน ถูกไล่ออกจาก (การเป็นสมาชิก) พรรค และไม่มีการเลื่อนขั้นตำแหน่งใดๆ จำนวนที่เหลือถูกไล่ออกจากตำแหน่งหน้าที่ปัจจุบัน และให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ต่ำลง” นายคำผิว กล่าวโดยไม่ได้อธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับระดับชั้น และตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ถูกลงโทษ
อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ 2 รายเสียชีวิตลงก่อนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประจำจังหวัดจะตรวจพบการฉ้อโกง อีกคนหนึ่งถูกจับก่อนหน้านี้ฐานค้ายาเสพติด นายคำผิวกล่าว
การฉ้อโกงเกิดขึ้นในแขนงที่เกี่ยวกับการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเงินเดือน และเงินช่วยเหลือค่าครองชีพสำหรับเจ้าหน้าที่ในระดับเมือง (อำเภอ) และแผนกการศึกษาแขวง รวมทั้งครูที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลด้วย
เจ้าหน้าที่ตรวจตราได้ตรวจพบความแตกต่างกันระหว่างเงินที่สำนักงานการศึกษาของแขวงรายงานกับเงินงบประมาณในส่วนนี้ และจำนวนเงินที่ใช้จ่ายจริง นอกจากนั้น ก็ยังตรวจพบความผิดปกติเกี่ยวกับชั่วโมงสอนที่บันทึกกับจำนวนครูผู้สอนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรับเงินเดือนกับเงินค่าตอบแทนต่างๆ
“นี่เป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงครั้งใหญ่ในแขวงของเราที่ตรวจพบเมื่อปีที่แล้ว และเราจะทำงานให้หนักยิ่งขึ้นเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมมิชอบแบบนี้” นายคำผิว กล่าวกับเวียงจันทน์ไทมส์
ในจำนวนเงิน 21,000 ล้านกีบที่ถูกฉ้อโกงไปนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบสามารถติดตามคืนได้แล้วจำนวน 9,000 ล้านกีบ จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และได้นำกลับเข้าสู่ระบบงบประมาณ ขณะนี้ยังคงติดตามเงินจำนวนที่เหลือต่อไป
กรณีในแขวงหัวพันนี้นับเป็นการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศคอมมิวนิสต์ลาว อย่างน้อยก็เท่าที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อของรัฐ
ในการประชุมใหญ่ครั้งมี่ 98 ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวต้นปี 2554 พรรคการเมืองพรรคเดียวนี้ได้ออกข้อมติที่จะป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในหมู่เจ้าหน้าท่าของรัฐอย่างเด็ดขาด
ในระบบของลาวในปัจจุบันมี 2 หน่วยงานสำคัญที่เป็นหัวหอกในการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งได้แก่ องค์การตรวจตรารัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยงานเทียบเท่ากระทรวง กับคณะกรรมการตรวจสอบพรรครัฐ หน่วยงานในสังกัดคณะกรรมการกลางพรรคที่มีกรมการเมืองพรรคผู้หนึ่งเป็นประธาน
ลาวอยู่ในอันดับที่ 160 จากทั้งหมด 174 ประเทศในบัญชี “ดัชนีคอร์รัปชัน” ประจำปี 2555 ที่จัดโดยองค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International) ตกลงไป 6 อันดับจากปี 2554 ซึ่งมีความหมายว่า การฉ้อราษฎร์บังหลวงในลาวย่ำแย่ลงอีกเมื่อปีที่แล้ว.