สภาเริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ มท.1 แล้ว หลังเถียงกันเรื่องขอเอกสารถอดถอนก่อนพูด ประธานวิปค้านยันพร้อมให้เฉพาะประธานควบคุมการประชุม ก่อนเจอ “สมศักดิ์” สั่งเจ้าหน้าที่แจกเอกสารถอด อ้างช่วยกันดูอยู่ตามข้อบังคับหรือไม่ อ้างทำตาม กก.กม.สภา “จุรินทร์” ลุกอ่านญัตติซัดนายกฯ ไร้ประสิทธิภาพ ชอบแอบอ้างประชาธิปไตย ฉ้อราษฎร์บังหลวง ต่อต้านโกงแค่ปาหี่ ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์มิชอบ ส่วน “จารุพงศ์” ลุแก่อำนาจ ด้าน “อภิสิทธิ์” สับต่อ
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมโดยนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยสีหน้าแจ่มใส ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่ประชุมได้มีการถกเถียงในประเด็นการส่งเอกสารสำเนาคำร้องถอดถอนให้ก่อนอภิปราย โดยนายพีรพันธุ์ พาลุสุข แต่ฝ่ายค้านยังยืนยันว่าไม่สามารถให้ได้ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดแค่ให้ยื่นถอดถอนกับประธานวุฒิสภาเท่านั้น แต่ถ้ายืนยันว่าต้องการก็จะมอบให้ประธานที่ทำหน้าที่ในช่วงนั้นๆ เพราะถือว่าเป็นผู้ทำการควบคุมการประชุมแต่ ไม่สามารถแจกให้สมาชิกได้เพราะเท่ากับเป็นการบอกข้อสอบให้กับคนที่จะถูกอภิปราย
ในที่สุดนายสมศักดิ์ได้วินิจฉัยให้เจ้าหน้าที่แจกให้สมาชิกเพื่อช่วยกันดูว่าการอภิปรายอยู่ตามข้อบังคับหรือไม่
นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประท้วงว่าไม่เห็นด้วย เพราะกำลังวินิจฉัยสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการล่วงเลยที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ แต่นายสมศักดิ์แย้งว่าไม่ได้วินิจฉัยตามอำเภอใจ แต่ทำตามความเห็นของคณะกรรมการกฎหมายรัฐสภา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนเป็นมือเขียนร่างญัตติมาหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง ส.ป.ก.4-01 จนพรรคการเมืองพรรคหนึ่งยุบสภาโดยไม่ลงมติ และได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาคพรรคการเมือง พรรคมอบหมายให้ตนเป็นหัวหน้าทีม ตนไปยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ก็เอาหลักฐานมาร่วมกับญัตติไม่ไว้วางใจ แจกให้ฝ่ายค้าน และสื่อมวลชน และกรณีเลี่ยงภาษีนำเข้าบุหรี่ของบริษัทมอร์ริส
แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ประท้วงว่า วันนี้เป็นการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ประธานไม่ควรปล่อยให้ ร.ต.อ.เฉลิมมาอภิปรายฝ่ายค้าน แต่ ร.ต.อ.เฉลิมยังคงตะโกนอภิปรายต่อไป จนนายสมศักดิ์ต้องสั่งให้หยุด และพยายามตัดบทให้เริ่มดำเนินการอภิปราย
จนเวลาล่วงไป 11.00 น.จึงเริ่มเข้าสู่การอภิปรายญัตติ โดยนายจุรินทร์ได้ลุกขึ้นอ่านญัตติ โดยกล่าวถึงสาเหตุที่ต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้บริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้จริยธรรม ไร้คุณธรรม ไร้สำนึก ไร้ภาวะผู้นำ ไร้ความรับผิดชอบต่อสภาและประชาชน ลอยตัวหนีปัญหา เลือกปฎิบัติ พูดอย่างทำอย่าง ปากว่าตาขยิบ ชอบแอบอ้างประชาธิปไตย กระทำการอันไม่บังควรสมรู้ร่วมคิดกับพวกพ้อง ทำลายข่มขู่ ก้าวก่าย สถาบันหลักในระบอบประชาธิปไตยทั้งนิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรอิสระ มุ่งแก้ไขปัญหาบุคคลในครอบครัวมากกว่าประชาชน
อีกทั้งยังมีพฤติกรรรมฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละให้มีการทุจริต จงใจปกปิดข้อมูลเพื่อปิดบังการทุจริตและความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งเสริมและปกป้องฉ้อราษฎร์บังหลวง และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง ความร่ำรวยของครอบครัว ขณะที่ประชาชนยากจนลง เดือดร้อนแสนสาหัส นโยบายรณรงค์ต่อต้านทุจริตเป็นเพียงละครปาหี่ เป็นยุคที่คอร์รัปชันเบ่งบานที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยนายกรัฐมนตรีไม่แยแส ไม่ใส่ใจ ไม่จัดการตามหน้าที่
นอกจากนี้ยังกระทำผิดบ่อยซ้ำซาก วางแผนใช้อำนาจออกกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นการทุจริตในรูปแบบใหม่ที่ซับซ้อน ปล่อยให้บุคคลในครอบครัวกดปุ่มสั่งการตามอำเภอใจทุกรูปแบบจนประเทศไทยเสมือนมีนายกรัฐมนตรีหลายคนวนเวียนหาประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หากปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีจะปล่อยให้ประเทศนำไปสู่ความวิบัติ จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านดำรงตำแหน่งนายกฯ แทน
ส่วนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย มีเรื่องการบริหารราชการแผนดินบกพร่อง ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ลุแก่อำนาจ ขาดคุณธรรม จริยธรรม เล่นพรรคเล่นพวก เลือกปฏิบัติมุ่งสนองผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง และผลประโยชน์การเมืองมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน มีพฤติกรรมทุจริต จงใจผิดกฎหมายหากปล่อยให้บริหารราชการต่อไป ก็จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน
จากนั้นสมาชิกฝ่ายค้านได้ทยอยลุกขึ้นอภิปราย โดยเริ่มจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้กล่าวเปิดคนแรก