xs
xsm
sm
md
lg

ครือข่ายราษฎรยื่นตีความ แก้มาตรา190ขัดรธน.68

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- เครือข่ายราษฎรปกป้อง 3 สถาบัน ยื่นศาลรธน.วินิจฉัยแก้รธน. 190 เข้าข่าย ขัดรธน. 68 ด้าน กวป. ยื่นวินิจฉัย สั่ง"เทือก-กปท." ยุติชุมนุม พร้อมยุบพรรคประชาธิปัตย์ เหตุประกาศปฏิวัติ ยึดอำนาจรัฐโดยประชาชน ปลุกระดมให้หยุดงาน-งดจ่ายภาษี


วานนี้ ( 13 พ.ย.) นายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่จำกัดอำนาจรัฐสภาในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการทำหนังสือสัญญาของฝ่ายบริหารซึ่ง นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมดำเนินการแก้ไข เข้าข่ายกระทำการเพื่อได้ให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการที่ไม่ได้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่
ทั้งนี้คำร้องของนายบวร ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ดังกล่าว นอกจากสมาชิกรัฐสภาจะยกอำนาจที่เป็นของรัฐสภาไปให้กับฝ่ายบริหารแล้ว ยังเป็นการตัดสิทธิรับรู้ของประชาชน ผ่านการประชุมของรัฐสภา ถือว่าการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาในกรณีนี้ ไม่เป็นไปโดยสุจริต เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อันเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 และแม้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จะเริ่มโดยสมาชิกรัฐสภา แต่ก็ทำเพื่อประโยชน์ฝ่ายบริหารโดยตรง นายกฯ ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร จึงไม่อาจปฏิเสธถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 นี้
จึงขอให้ศาลวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และสั่งให้บุคคลทั้งหมดยกเลิกการกระทำดังกล่าว และสั่งเพิกถอน ร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 3 เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ทันที
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกัน นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. และนายหนึ่งดิน วิมุตตินนท์ ทนายความชมรมผู้รักความเป็นธรรม ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยการกระทำของ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.รวม 9 ราย และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากระทำการเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง หรือกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิถีทางที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่
โดยนายศรรักษ์ กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. มีลักษณะคู่ขนาน แบ่งงานกันทำร่วมกับนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้นำการชุมนุมกลุ่มประชาชนต่อต้าน ร่าง พ.ร.บนิรโทษกรรม เข้าข่ายกระทำความผิดฐานเป็นกบฎ ตามมาตรา 113 มาตรา 116 มาตรา 83 มาตรา 86 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. แกนนำ กปท. ได้ออกประกาศปฏิวัติ ยึดอำนาจรัฐโดยประชาชนนั้น ถือว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะติชมโดยสุจริต แต่มุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐบาล เพราะมีการข่มขู่ว่า หากนายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่หยุดงาน และ ผบ.ทุกเหล่าทัพ ลัดกระทรวงทุกกระทรวง ไม่มาเข้าพบ คณะเสนาธิการร่วม กปท. ภายใน 4 ชม. จะเคลื่อนพลประชาชนไปในแต่ละกระทรวง ยึดอำนาจรัฐโดยเร่งด่วนเพื่อรักษาอธิปไตย ส่วนการชุมนุมต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีนายสุเทพ เป็นแกนนำก็ได้มีการประกาศบนเวทีเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ให้หน่วยราชการ เอกชน หยุดงานทั่วประเทศวันที่ 13-15 เพื่อมาร่วมชุมนุม รวมทั้งให้นักธุรกิจ ห้างร้าน เอกชน ชะลอการชำระภาษีกลางปีดำเนินการในขณะนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งหมดยุติเลิกการชุมนุม พร้อมมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉินสั่งให้ผู้ถุกร้องทั้งหมดยุติการชุมนุมไว้จนกกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
กำลังโหลดความคิดเห็น