รัฐบาลดันทุรังลุยเวทีปฏิรูปการเมือง หวังลดความร้อนแรงการชุมนุมค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม “พงศ์เทพ-วราเทพ” เดินสายดึงอดีตนายกฯและแกนนำกลุ่มต่างๆ เข้าร่วม ประเดิมเชิญ “อุกฤษ” พันธมิตรรัฐบาล ก่อนคุย “อุทัย” คาดได้ประชุมหลัง 12 สิงหาฯ เลี่ยงตอบ “วรชัย” เจ้าเล่ห์ ยินดีถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯ แต่ให้ออกเป็น พ.ร.ก.แทน อ้างเวทีปฏิรูปไม่ได้เชื่อมโยงกับร่างนิรโทษกรรม ขณะที่แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณไม่ร่วมประชุมเวทีปาหี่ของรัฐบาลแน่ เตือนถ้ารัฐบาลทำตามแกนนำแดงเสนอ เพิ่มดีกรีความร้อนแรงในการต่อต้านแน่
ความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์การชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบบทักษิณ และเครือข่าย ด้วยการประกาศตั้งเวทีปฏิรูปการเมือง โดยเชิญแกนนำกลุ่มต่างๆ เข้าหารือวางแนวทางปฏิรูปการเมือง เพื่อลดความร้อนแรงในการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและพวกยังคงดำเนินการแนวทางดังกล่าว แม้ส่วนใหญ่ต่างออกมาปฏิเสธที่จะร่วมเวทีดังกล่าว
ล่าสุดนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการประสานแกนนำกลุ่มต่างๆ ให้ร่วมมือกับรัฐบาลในการพูดคุยปฏิรูปการเมือง ยืนยันเดินหน้าเชิญแกนนำกลุ่มต่างๆ ร่วมเวทีปฏิรูปการเมือง โดยกล่าวว่า ตนและนายวราเทพ รัตนากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทุกกลุ่มสีเข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมือง ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะเดินทางไปพบนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) และ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และจะเริ่มหารือกันอย่างเป็นทางการ หลังวันที่ 12 สิงหาคม ส่วนจะชัดเจนวันใดนั้น ต้องรอการชักชวนเสร็จสิ้นก่อน โดยเวทีดังกล่าวไม่ได้จัดเพียง 1 หรือ 2 ครั้ง
“รัฐบาลไม่ได้ซื้อเวลา เพราะยังเหลือเวลาบริหารประเทศถึง 2 ปี ส่วนฝ่ายค้านจะร่วมเวทีด้วยหรือไม่ ทางรัฐบาลได้ส่งคนไปทาบทามแล้ว เหมือนกับกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ต้องมีการเชิญร่วมเวทีอย่างแน่นอน”
ส่วนที่นายวรชัย เหมะ ระบุว่ายินดีถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทันที โดยตั้งเงื่อนไขต้องออกเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมที่ไม่ต้องผ่านสภาฯ ขึ้นมาแทนนั้น นายพงศ์เทพกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้จัดเวทีนี้เพื่อเชื่อมโยงกับร่างนิรโทษกรรม และไม่มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนจาก พ.ร.บ.เป็น พ.ร.ก. เพราะจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น
ด้านนายบวร ยสินทร แกนนำกลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน หรือเครือข่าย อพส. หนึ่งในพันธมิตรร่วมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า การที่นายวรชัยบอกว่ายินดีถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ให้รัฐบาลออกเป็น พ.ร.ก.แทนนั้น เป็นการลักไก่ให้กฎหมายผ่านเร็วขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างสถานการณ์ภายในประเทศให้รุนแรงขึ้นและวุ่นวาย ทางกลุ่มกองทัพประชาชนฯ จะไม่ยอมและจะรุกสู้มากขึ้น และถ้าออกมาเป็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมจริง นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทั้งคณะต้องออกมารับผิดชอบ
นายบวรกล่าวว่า การชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนในวันนี้จะยังคงยึดเยื้อปักหลักยาวไปจนถึงวันที่ 7 สิงหาคม โดยในวันนี้จะนัดประชุมแกนนำเพื่อหารือการยกระดับชุมนุมต่อไป
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า จะไม่ไปร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองกับรัฐบาล เพราะเวทีดังกล่าวเป็นเวทีปาหี่ จึงอยากแนะนำให้รัฐบาลปฏิรูปตนเองว่าการทำงานเหมาะสมกับการมาจากเลือกตั้งหรือไม่ และการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในเพื่อสกัดกั้นการชุมนุม ยังถือเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชน เพราะยังไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้น ส่วนจะมีปฏิวัติหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เชื่อว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพมีความรักชาติ และมีวินัยเพียงพอ
พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าวันนี้จะมีการเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมไปบริเวณใดหรือไม่ แต่หากมีการเคลื่อน ยืนยันว่าจะเป็นไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนผู้ร่วมชุมนุมจะมีมาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับแกนนำที่เข้าร่วมในครั้งนี้
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ทวิตเตอร์ว่า แกนนำที่ร่วมม็อบเป็นนายทหาร ตำรวจ ที่ชวดตำแหน่งในปี 2544, 2545 และ 2546 นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่ได้ผิดหวัง เพราะแกนนำแต่ละคนล้วนมีความสามารถ และแสดงให้เห็นว่าไม่ยอม พ.ต.ท.ทักษิณ
