ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ไม่เหนือความคาดหมาย เมื่อแกนนำคนเสื้อแดงยอมกลับลำเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากประกาศตัดขาดจากพรรคเพื่อไทย เพราะไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง แต่วันถัดมาก็หันกลับไปจูบปากกันอย่างชื่นมื่นและยอมทำหน้าที่ขี้ข้าม้าใช้ให้ตามเดิม
นับจากสภาผู้แทนราษฎรรวบรัดลงมติตอนตี 4 วันที่ 1 พ.ย. ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยในวาระ 3 อันจะมีผลยกเว้นความผิดให้ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง ย้อนหลังไปถึงปี 2547 และลากยาวมาถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 วันที่สภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.นี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลขึ้นในวงกว้าง นั่นเพราะเนื้อหาตามร่าง พ.ร.บ.นี้เป็นการหักดิบกระบวนการยุติธรรมอย่างน่าเกลียด ยากที่คนระดับวิญญูชนจะยอมรับได้
รวมไปถึงแกนนำคนเสื้อแดงบางกลุ่มก็ออกมาต่อต้านด้วยแม้ว่าจะด้วยเหตุผลที่ต้องการเอาใจมวลชนคนเสื้อแดงที่ประสบความสูญเสียจากการชุมนุมปี 2552-2553 ไม่ใช่เพราะต้องการรักษาหลักนิติรัฐ แต่ก็แสดงออกด้วยท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ถึงขั้นประกาศจะไม่ปกป้องรัฐบาลอีกต่อไป
วันที่ 6 พ.ย.นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) องค์กรเคลื่อนไหวหลักของคนเสื้อแดงได้เปิดแถลงข่าว คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย โดยเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุมทางการเมือง ด้วยการออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อปลดปล่อยผู้ที่ถูกคุมขังโดยเร็ว พร้อมกับเหน็บแนมพรรคเพื่อไทยว่า หาเรื่องแท้ๆ ที่ทำให้เกิดกระแสคัดค้านรัฐบาลไปทั่วประเทศ จากประชาชนทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือพรรคประชาธิปัตย์
นางธิดายังได้เตือนพรรคเพื่อไทยว่า อย่าทำลายความชอบธรรมของประชาชนที่ต่อสู้ซึ่งทำให้ฝั่งระบอบอำมาตย์นำไปบิดเบือนว่าที่ต่อสู้นั้นเพื่อผลประโยชน์หรือเพื่อคนๆ เดียว และย้ำว่าอย่าผลักมิตรไปเป็นศัตรู นั่นคือการเป็นปฏิปักษ์ต่อการคืนอำนาจให้ประชาชน
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ที่แห้วเก้าอี้รัฐมนตรีมาตลอด แถลงต่อจากนางธิดา อย่างมีอารมณ์ว่า ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะรักษาอำนาจไว้ได้อีกกี่วัน ก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์เครือข่ายอำมาตยาธิปไตยไม่อาจระดมมวลชนได้เพราะไม่มีความชอบธรรม แต่คนที่มอบความชอบธรรมให้พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายอำมาตยาธิปไตยและต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ คือพรรคเพื่อไทยและฝ่ายรัฐบาล
นายจตุพรยังประกาศว่า ตนและแกนนำ นปช.จะไม่กลับไปจัดรายการในเอเชียอัพเดตอีกต่อไป หลังจากแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนถูกห้ามไปจัดรายการที่ช่องเอเชียอัปเดตเพราะไปแสดงความเห็นคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และวันที่ 1 ธันวาคมนี้จะเปิดช่องโทรทัศน์ของคนเสื้อแดงเอง
“พวกผมและพรรคเพื่อไทยของรัฐบาลนั้น เราเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะพวกเราประกาศกันชัดเจนว่า เราจะไม่ทรยศกับวีรชนที่ตายกับขบวนการคนเสื้อแดงที่ร่วมขบวนการต่อสู้ แล้วเราจะไม่มีวันปล่อยฆาตกรให้ลอยนวล
“ความหวังดีทั้งหมดนั้น ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ทั้งที่เวลานี้ คนเราถ้าไม่โง่จริงจะคิดไม่ได้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เครือข่ายอำมาตย์กระทืบเราอยู่เต็มๆ นั้น ปรากฏว่า เอานักรบของตัวเองที่คนเสื้อแดงเขาจะมาดู ออกจากจอ แล้วถามว่าคนเขาจะไปดูอะไร ก็ไปดูบลูสกายหมด ไปดูว่าเขาเคลื่อนอะไร”
“เวลานี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า การออกมาขับเคลื่อนของทุกกลุ่มทุกองค์กรนั้นมากกว่าปี 2548 และ 2549 เสียอีก มันกลายเป็นแฟชั่นว่าถ้าใครไม่ต้านนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่ผิด เวลานี้ฆาตกรซึ่งเป็นผู้ร้ายตลอดเวลา แต่ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยดันไปมอบตำแหน่งพระเอกให้กับฆาตกรแล้วตัวเองกลับไปแย่งบทผู้ร้ายมาแทน
“ผมต้องเรียนกับพี่น้องคนเสื้อแดงว่า ภาระหน้าที่ของเรา ผมยังไม่พูดว่าเราจะไม่ปกป้องรัฐบาล เพราะเขาไม่ให้ปกป้องและเราเองก็ไม่หน้าด้านพอที่จะปกป้อง เดี๋ยวพังแล้วมาโทษผมอีก แต่พวกเรามีหน้าที่ต้องปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ได้มีพรรคมีบุคคลหรือมีใครทั้งนั้น”นายจตุพรแถลงด้วยท่าทีขึงขัง
แต่เพียง 1 วันให้หลัง หลังจากที่รัฐบาลยอมถอนร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับนิรโทษกรรม 6 ร่าง ที่ค้างอยู่ในสภาออกไป บรรดาแกนนำเสื้อแดงก็กลับไปจูบปากชื่นมื่นกับพรรคเพื่อไทยต่อไป ทั้งที่ตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่พวกเขาต่อต้านก็ยังค้างอยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภา ถึงแม้วุฒิสภาอาจจะตีกลับ แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเพื่อไทยครองเสียงข้างมากนั้นจะไม่หยิบเอาร่างฯ นี้ขึ้นมาพิจารณาอีกหลังจากผ่านไป 180 วัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ในการประชุมพรรคเพื่อไทยนัดพิเศษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะน้องสาว นช.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคตัวจริง ได้เดินทางไปร่วมประชุมพร้อมกับ 3 แกนนำ นปช.ได้แก่ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ด้วยบรรยากาศชื่นมื่น ท่ามกลางเสียงปรบมือยินดีของบรรดาสมาชิก
นายจตุพร อ้างว่า นายกรัฐมนตรีได้ชวนพวกตนปรึกษาหารือเพื่อหาช่องทางปลดปล่อยพี่น้อง ได้มีการตกผลึกในเรื่องต่างๆ เรื่องพระราชบัญญัตินั้นยุติแล้ว แต่การโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยซึงเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ายังไม่หยุด ถ้าเราไม่ผนึกกำลังกันรัฐบาลอาจล้ม เราจึงต้องปกป้องไม่ให้รัฐบาลล้ม
โดย นปช.จะจัดเวทีปราศรัยภายใต้ชื่อ "นปช.-เพื่อไทย ปกป้องประชาธิปไตย" วางกำหนดการแรก 5 เวที ประกอบด้วยวันที่ 10 พ.ย.ที่กรุงเทพฯ 11 พ.ย.ที่ขอนแก่น 12 พ.ย.ที่เชียงใหม่ 13 พ.ย.ที่อุดรธานี และ 14 พ.ย.ที่ชลบุรี
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย บอกว่า ผังรายการในช่องเอเชียอัพเดตจะคืนกลับไปสู่พิธีกรคนเดิมทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องของคนในครอบครัว วันนี้เข้าใจกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า ก่อนที่จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 7 พ.ย.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เรียกนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ เข้าพบที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งกฎหมายนิรโทษกรรม โดยใช้เวลาพูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ได้เดินทางไปสมทบนางธิดาที่โรงแรมเอสซีปาร์คเพื่อพูดคุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย นช.ทักษิณ และที่ปรึกษาคณะยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โดยการพูดคุยครั้งนี้มีคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภริยา นช.ทักษิณ และนายพานทองแท้ ลูกชาย นช.ทักษิณ ร่วมพูดคุยด้วย โดยมีนางธิดารออยู่ก่อนแล้ว
หลังจากใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ จึงเดินทางไปประชุมพรรคเพื่อไทยพร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยยังดีอยู่
ด้านแกนนำเสื้อแดงอีกคนอย่าง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่หวังขโมยซีนแกนนำคนอื่น ไปขึ้นเวทีปราศรัยปลอบใจคนเสื้อแดงที่สวนจตุจักรว่า ถึงแม้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยจะถูกวุฒิสภาตีกลับ แต่ก็ยังมีช่องทางที่จะเอานายใหญ่กลับบ้านได้ โดยจะรอให้ครบ 180 วันหลังจากวุฒิสภาตีกลับ แล้ว ส.ส.20 คนก็เสนอร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าไปใหม่ได้ หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ออกเป็นพระราชกำหนดโดยใช้มติ ครม.ก็ได้
คำปราศรัยของจ่าประสิทธิ์ เท่ากับเป็นการเผยไต๋ให้ฝ่ายต่อต้านรู้หมด และถูกนำไปขยายความจนส่งผลเสียต่อพรรค ในการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 7 พ.ย.จ่าประสิทธิ์ต้องเดินเข้าไปหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว นช.ทักษิณ พร้อมยกมือขึ้นไหว้และกล่าวขอโทษพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา
จ่าประสิทธิ์ให้สัมภาษณ์นักข่าวอย่างคนที่รู้สถานภาพของตัวเองดีว่า หากพรรคจะลงโทษอย่างไรก็พร้อมที่จะรับการลงโทษ เพราะตนเป็นแค่ปลายแถว อย่ามาโทษตน ถ้าจะโทษไปโทษหัวแถวคนที่เสนอร่างนี้ดีกว่า ตนเป็นแค่คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่ามาเอาอะไรกับตนเลย
ทั้งกรณีของแกนนำระดับสามเกลอหัวขวดที่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง และแกนนำระดับรองลงมาอย่างจ่าประสิทธิ์ที่ต้องหลั่งน้ำตาขอโทษแกนนำพรรค เป็นการพิสูจน์ชัดว่า แกนนำคนเสื้อแดงที่เก่งกาจกล้าหาญบนเวทีปราศรัยนั้น แท้ที่จริงก็มีฐานะแค่ทาสรับใช้ จะทำอะไรก็ต้องอยู่ในกรอบที่นายใหญ่วางไว้ให้เท่านั้น จะล้ำเส้นออกไปจากนั้นไม่ได้