รายงานการเมือง
กระแสต่อต้านกฎหมายล้างผิดให้คนโกงที่ถั่งโถมมาจน"ปูกรรเชียง"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและรมว.กลาโหม รับไม่ไหว ประเมินแล้วทานกระแสไม่อยู่แน่ กลัวม็อบที่ทรงพลังจนขี้เยี่ยวราด ต้องฟ้องพี่สาว พี่ชาย โอดครวญ "ปูไม่ไหวแล้วนะ" เป็นที่มาของข่าวว่าน้องสาวจะถอยฉากหักลำพี่ชายที่ใจยังด้านอำมหิต
ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี ต้องปวดกบาลหนักในเวลานี้ จะปล่อยน้องสาวในฐานะนายกฯ ผู้ถืออำนาจบริหารประเทศ ให้เป็นเป้าล่อต่อไปหรือจะถอยดี หากเกิดอะไรขึ้นมา "ยิ่งลักษณ์" ต้องออกหน้ารับก่อนใครเสี่ยงจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ขณะเดียวกันความอดกลั้นเฝ้ารอจังหวะเวลากลับบ้านก็หมดไปแล้ว กระสันอยากกลับบ้านใจจะขาดรอนๆ แต่ขืนดันทุรังฝ่าดงแข้งไปแบบนี้ก็มีหวังพังกันทั้งแถบ
ด้วยความประมาทไม่หารือกันภายในจนตกผลึก "ทักษิณ"ก้มหน้าเดินดุ่มด้วยความคิดว่าไม่มีอะไรต้านทานหมากเกมนี้ได้ คิดว่าฝ่ายกองทัพ ที่ทรงพลังที่สุดในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เลือกสงบนิ่งแอบอิงรัฐบาล แต่ลืมคิดไปว่ากระแสสังคมจับตาดูอยู่ ไม่ยอมให้แผนชั่วร้ายผ่านไปแบบไม่ดูดำดูดี
กระแสคัดค้านต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเครือข่ายครูบาอาจารย์ กระบวนการยุติธรรม ทั้งหลายออกมาในทิศทางเดียวกันหมด หันซ้ายแลขวาไม่มีพวกสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแม้แต่น้อย กระทั่งพวกเดียวกันเองอย่างนปช. ก็หลบลี้หนีหน้า เพราะไม่กล้าแสดงคัดค้านตัวตนที่วางไว้มาตลอดได้ แกนนำนปช.ก็คิดถึงอนาคตตัวเองเหมือนกัน เพราะยังอยากอยู่บนเส้นทางการเมืองอีกยาวนาน
"ทักษิณ"เดือดดาลซ้ายขวาไม่มีมิตร มีแต่ศัตรูรอบด้าน
เมื่อเกมยิ่งเดินไปๆ ก็มีแต่จะถลำลึกสู่หุบเหว ที่สุดแล้วก็ต้องยอมเลือกถอยหลัง แต่ก็ต้องถอยแบบไว้เชิง ส่งซิกให้วุฒิสภาหาบันไดพาดลงให้ แล้วหนึ่งในลิ่วล้อที่จงรักภักดีอย่าง นิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ก็นำส.ว.ส่วนหนึ่งออกมาแถลงประกาศคว่ำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมตั้งแต่วาระแรก ตัดตอนแบบหักมุมจำนนกระแสต่อต้าน แล้วก็เร่งรีบทำเพื่อตัดไฟต้นลม เลื่อนมาคว่ำร่างกันวันที่ 8 พ.ย.นี้เลย
ปิดเกมเร็วลดกระแสต่อต้าน แต่ทว่ายังไม่น่าไว้วางใจ!!
ยังมีหมากกลซ่อนเล่ห์ไว้อยู่หรือไม่ ยังละสายตาไปจากหมากเกมนี้ไม่ได้ เพราะกว่าจะขบวนการลบโกง ล้างผิด จะเดินมาถึงขั้นนี้ได้ไม่ง่าย เสนอเป็นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระแรก แล้วสอดไส้หวังเล่นเกมเร็ว มันก็ฟ้องเจตนาชัดว่าจะเอาให้ได้ หากฝ่ายต่อต้านเผลอเมื่อไหร่ ก็เอวังเข้าทางหน้าเหลี่ยมสันดานโจร
สิ่งที่"ทักษิณ" ทำอาจเป็นเพียงเกมล่อเสือจากถ้ำ เป็นการทดสอบกำลังทั้งฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายตนเอง วันนี้รู้แล้วว่ากำลังรบ กำลังต้านเป็นอย่างไร เชื่อเหลือเกินว่า "ทักษิณ" ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะลงทุนไปเยอะในหลายๆส่วน การเดินเกม การล็อบบี้ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ควักจ่ายไปเท่าไหร่
เจอแค่นี้แล้วยกธงขาวทิ้งอาวุธยอมจำนนง่ายๆย่อมไม่ใช่นิสัย "ทักษิณ" อาจถอยไปก้าวหนึ่งเพื่อหยั่งเชิงดูสถานการณ์แล้วกลับมาโหมไฟสงครามขึ้นมาอีก
ที่คิดว่าจนตรอก ยอมจำนนศิโรราบ คงเป็นไปไม่ได้ และเชื่อว่าไม่นานจะมีแผนร้ายกาจตามมา เพราะคำนวณจังหวะเวลาแล้ว "แม้ว"บอกคนใกล้ชิดเชิงปรามว่า "ไม่ลุยตอนนี้แล้วจะลุยตอนไหนว่ะ" รัฐบาลก็กำลังนับถอยหลังหมดอายุแล้ว ผลงานที่ผ่านมาบ่มิไก๊ เพราะนายกฯสมองกลวงคิดทำอะไรไม่เป็น ไม่มีผลงานไปขาย กระแสก็มีแต่สาละวันเตี้ยลง ประเมินแล้วแตกหักตอนนี้ยังพอมีกระแสกลับมาเป็นรัฐบาลได้ แต่ถ้ายิ่งนานไปๆ กระแสก็ต่ำลงๆ เลือกตั้งครั้งหน้าอาจแพ้รูดทะราด ดังนั้นต้องหาจังหวะลุยต่อ
หากมองมุมกลับการถอยครั้งนี้อาจเป็นหมากอีกชั้นหนึ่ง เป็นการบีบให้ฝ่ายตรงข้าม คือพรรคประชาธิปัตย์ต้องรุกคืบเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจู่ๆจะเลิกไปตอนนี้ไม่ได้ เนื่องจากมวลชนจุดติดเร่งเร้าให้รุกไล่โค่นล้มรัฐบาลต่อ แต่นั่นก็เป็นการเสี่ยงเอาชีวิตการเมืองของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปพัวพันคุก เพราะหากยกระดับการชุมนุม ย่อมต้องมีปฏิบัติการสุ่มเสี่ยงท้าทายกฎหมาย
เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมเล่นเกมนี้ ยังหวังส้มหล่น หวังฟลุ๊กพลิกขั้ว รอจังหวะเกมในสภามากกว่า เพราะประชาธิปัตย์ถึงอย่างไรก็ยังเก่งเกมในสภาส่วนการเมืองนอกสภา การนำม็อบต้องบอกว่ายังแค่เด็กอมมือ
น่าสนใจถึงทิศทางการนำของพรรคประชาธิปัตย์จะมีกลเม็ดวิธีการอย่างไร จะรุกคืบต่อด้วยประเด็นไหน สำคัญคือการรักษามวลชนเอาไว้อย่างหนาแน่นอย่างไร หลังจังหวะถอยของรัฐบาลประกาศไม่ลุยต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษ จะมีม็อบส่วนหนึ่งเลิกราไปด้วยเพราะเงื่อนไขนี้ แต่จะดึงส่วนใหญ่ให้ยกระดับโค่นล้มรัฐบาลต่อไปอย่างไร
การชุมนุมยืดเยื้อ เรื่องเสบียง ท่อน้ำเลี้ยงสำคัญสุดๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ฝ่ายรัฐบาลตอนนี้ก็ต้องถอยไปคุมเชิงเล่นเกมข่มขู่ทุบหม้อข้าวนายทุน ห้ามสนับสนุนม็อบตามสันดานเดิม หากคาดการณ์ล่วงหน้าเมื่อกฎหมายนิรโทษถูกตีกลับจากวุฒิสภา มวลชนก็จะยินดีกับชัยชนะ และเกิดความผ่อนคลาย โดยเฉพาะการประท้วงที่ยืดเยื้อจะทำให้อ่อนล้า เสบียงกรังก็ร่อยหรอ รัฐบาลก็เล่นบทวางเฉยปล่อยให้ชุมนุมกันไป กำชับไม่ให้ตำรวจเข้าปะทะ ปล่อยให้คนอีกส่วนหนึ่งเริ่มเอือมระอา สร้างสถานการณ์เพิ่มเติมให้รถติดมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น เช่นปิดถนนบางสาย คนอีกกลุ่มก็จะเริ่มเบื่อและเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานได้แล้ว
ฉะนั้นอย่าเพิ่งดีใจในชัยชนะเบื้องต้น อย่างที่ย้ำไว้พรรคประชาธิปัตย์ต้องคิดให้หนักจะรักษาเกมที่เป็นต่อไว้อย่างไร จะเลี้ยงกระแสรักษามวลชนอย่างไร แล้วจะมีวิธีการนำม็อบปลุกเร้าต่อเนื่องได้ขนาดไหน สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องไม่แสดงอาการรวนเรให้เห็น ต้องไม่มีถอย ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มกำลัง
วันนี้กระแสมวลชนรุดหน้าไปแล้ว พร้อมจะ “โค่นรัฐบาล”แล้ว แค่ระงับยับยั้งพ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ ก็ยังไม่สามารถทำให้มวลชนส่วนใหญ่พึงพอใจ ต้องได้อีก และได้อีกมากกว่านี้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินหน้าถือธงนำต่อไป ถ้าอารมณ์มวลชนไปแต่ประชาธิปัตย์ยังกั๊ก เดินสองขา หวังผลในสภาด้วย นอกสภาด้วย ถึงตอนนั้นมวลชนก็ระแวงสงสัย
มานำม็อบมวลชนเพื่อช่วยชาติ หรือเพื่อช่วยตัวเอง กลับไปมีอำนาจอีกรอบ ไปเป็นรัฐบาลอีกหนเป็นอันปิดจ็อบ เอวัง อนิจจาการเมืองเมื่อได้อำนาจก็จบ ชาติบ้านเมืองเอาไว้ทีหลัง แบบนั้นก็น่าอนาถใจ...