xs
xsm
sm
md
lg

สภาฯ เดือดใบสั่งลากยาวโต้รุ่ง “ขุนค้อน” สนองรวบรัดลงมติผ่านฉลุยวาระ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาฯ ถกนิรโทษฯ ลากยาว 19 ชม. ส.ส.เพื่อแม้วดีดบี้ประชุมต่อเนื่อง ปธ.สภารับลูก อาศัยช่วงดึกดันทุรังโหวต 5 มาตรารวดใน 1 ชม. ท่ามกลางสถานการณ์เดือดฝ่ายค้านจวกยับ ก่อนมีมติรับวาระ 3 ด้วยคะแนน 310 ต่อ 0 เสียง

วันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 02.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเริ่มพิจารณา มาตรา 3 ซึ่งถือว่าเป็นสาระสำคัญ โดยกรรมาธิการเสียงข้างมากได้ทำการแก้ไข มีเนื้อหาระบุว่า

“มาตรา 3 การกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือมีความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคณะบุคคล หรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 รวมถึงองค์กร หรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2547 ถึงวันที่ 8 ส.ค.2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวกลาง ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดโดยสิ้นเชิง ไม่รวมถึงการกระทำผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112”

ทั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงทันที โดยมีการตะโกนว่า “สภาทาส” โดยนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี ประท้วง โดยระบุว่า เร่งรีบอภิปรายผิดปกติ รับคำสั่งมาจากใคร

ด้านนายจุฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การะประชุมใช้เวลามานานแล้วตั้งแต่ 09.30 น.ถึง 03.00 น. ไม่เคยมีมาก่อน ประธานก็อ่อนล้า สมาชิกก็ล้าแล้ว ซึ่งอำนาจการสั่งพักประชุมเป็นของประธาน ไม่ต้องรอให้วิปหารือแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี นายเจริญ ไม่ได้ตอบโต้อะไร โดยมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้ประชุมต่อทันทีแม้ ส.ส.แต่ละคนจะมีสีหน้าที่อิดโรยก็ตาม

ทั้งนี้ เกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด โดยนายเจริญ ได้ขอพักการประชุม 10น าที ในเวลา 03.04 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เมื่อเวลา 03.20 น.ที่ประชุมกลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า คงต้องเอาให้จบ เพราะหากทำตามฝั่งหนึ่งก็จะต้องโดนอีกฝั่งหนึ่งว่า ดังนั้น ต้องเป็นอำนาจของประธานที่จะวินิจฉัยซึ่งตนวินิจฉัยให้ประชุมต่อ พร้อมทั้งให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา อภิปราย แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายสิบราย เช่น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นายสุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง เป็นต้น ได้ลุกฮือประท้วง กรูไปหน้าบัลลังก์ ชี้หน้า นายสมศักดิ์ ทำให้นายชาดา ต้องอภิปรายด้วยเสียงดัง เพื่อกลบเสียงโหวกเหวกโวยวายของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ แต่เมื่อ นายชาดา อภิปรายเสร็จ บรรดา ส.ส.ประชาธิปัตย์ ก็เริ่มตะโกนโวยวายเพื่อขอให้สั่งเลื่อนการประชุมอีกครั้ง

นายสมศักดิ จึงกล่าวขอพักประชุม เพื่อขอหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอม จะให้สั่งเลื่อนการประชุม นายสมศักดิ์ จึงให้ดำเนินการประชุมต่อ หลังจาก ที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสร็จ นายสหรัฐ กุลศรี ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติปิดอภิปราย นายสมศักดิ์ กดออกเรียกที่ประชุมลงมติทันที ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ตะโกนด่าทอประธาน ว่า ลงคะแนนเลยจะได้ปล่อยให้ฆาตกรลอยนวล ข้ามศพมันให้หมดเลย สุดซอย ของส.ส.ประชาธิปัตย์ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรา 3 ตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างเสนอแก้ไขด้วยคะแนน 307 ต่อ 0 คะแนน งดออกเสียง 4 เสียง

จากนั้นจึงให้เข้าสู่การอภิปรายต่อในมาตรา 4 ที่กำหนดให้ นายจิรายุ ลุกขึ้นอภิปราย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของ ส.ส.ปชป. ตะโกนว่า “ขี้ข้า” ทำให้ นายจิรายุ พูดขึ้นว่า “ปชป.มุกเดิมอีกแล้ว ตะโกนในโรงหนัง” ทั้งนี้ ภายหลังจากนายจิรายุ อภิปรายเสร็จ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายอย่างมีอารมณ์ว่า ตนเข้าใจถึงสาเหตุของการออก พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตนยอมรับว่าไม่พอใจที่กรรมาธิการเสียงข้างมากมีการแก้ไขเ พราะตนได้สูญเสียบุพการีไป และยังมีญาติผู้สูญเสียด้วย แต่ว่าไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ มือของท่านได้เปื้อนเลือดไปแล้ว แม้ว่าท่านจะดีต่อประเทศชาตินี้ขนาดไหน แต่มือท่านก็เปื้อนเลือดไปแล้ว ทุกคนในสภาฯแห่งนี้ไม่มีใครสูญเสีย มีตนเพียงคนเดียวที่เป็นผู้สูญเสีย ดิฉันของใช้โอกาสสุดท้ายที่ในสภาฯแห่งนี้ เพื่อเรียกร้องหาคนฆ่าพ่อของตน แม้ว่าที่ผ่านมา จะถูกข้อครหาว่าเหยียบศพพ่อของตัวเองเข้ามาที่สภาฯ แห่งนี้ แต่ตนก็อยากให้กรรมาธิการทบทวนเพื่อเรียกความยุติธรรมเพื่อให้ความยุติธรรมให้เกิดขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่มีผู้อภิปรายต่อ ทำให้ นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติปิดอภิปราย โดยที่มติเสียงข้างมากเห็นชอบให้มีการปิดอภิปราย กระทั่งที่สุด ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 309 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง เห็นชอบตามร่างที่กรรมาธิการได้มีการแก้ไข

ต่อด้วยการอภิปรายในมาตรา 5 ไม่มีผู้อภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 311 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง ส่วนมาตรา 6 ไม่มีผู้ขออภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 314 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ต่อด้วยมาตรา 7 ไม่มีผู้อภิปราย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน 315 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 เสียง และที่ประชุมได้มีมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในวาระที่ 3 ด้วยคะแนน 310 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง จากนั้น นายสมศักดิ์ จึงสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 04.25 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ในการพิจารณา 5 มาตรารวด รวมเวลาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวาระ 2 และวาระ 3 ทั้งสิ้น 19 ชั่วโมง จากนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองตรวจสอบในชั้นวุฒิสภาต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น