ธ.ก.ส. ชง กขช. ไฟเขียวให้กู้เงินเพิ่มอีก 1.4 แสนล้านโป๊ะโครงการจำนำ หลังถังแตก ไม่มีเงินจ่ายให้เกษตรกร "นิวัฒน์ธำรง"โต้เจ๊งจำนำข้าว 3.3 แสนล้าน ซัดอนุปิดบัญชีหมกเม็ดตัวเลข ยันรถไฟแลกข้าวได้ข้อสรุปไตรมาส 3 ปีหน้า ระบุไม่ได้ประเคนให้จีน หากประเทศไหนสนใจก็พร้อมเจรจา เพราะยังมีอีกหลายสาย
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จะเสนอให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมจำนวน 1.4 แสนล้านบาทเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยธ.ก.ส. จะเสนอขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2556 ที่กำหนดว่าการบริหารเงินทุนหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวจะต้องไม่เกิน 5 แสนล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้มีการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวไปแล้ว 6.8 แสนล้านบาท แต่กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวได้เพียง 1.4 แสนล้านบาท ทำให้วงเงินที่ใช้ในโครงการเกิน 5 แสนล้านบาท และในระหว่างนี้ยังไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามา แต่เกษตรกรมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วกว่า 1.2 ล้านตัน และได้นำเข้ามาจำนำแล้ว
"จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณา หาก กขช. มีมติปรับปรุงแก้ไขดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ก็จะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป จากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ใช้เงินสำรองจ่ายของธนาคารระหว่างที่กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงิน ซึ่งเมื่อกระทรวงการคลังกู้เงินได้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้เงินในช่วงปลายเดือนธ.ค.2556-ม.ค.2557 ก็จะนำมาชดเชยให้กับ ธ.ก.ส.พร้อมอัตราดอกเบี้ย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมจะมีการประชุม กขช. วันนี้ (7พ.ย.) แต่ล่าสุด นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งยกเลิกการประชุมแล้ว
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรงได้กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าว 3 ฤดูกาลผลิต คือ โครงการรับจำนำข้าวนาปี 2554/55 นาปรัง 2555 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 2555/56 ขาดทุนแล้ว 3.3 แสนล้านบาทว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าการดำเนินโครงการรับจำนำของรัฐบาลไม่ได้ขาดทุนมากถึงปีละ 2 แสนล้านบาท เพราะตัวเลขที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จัดทำขึ้นมา มีการนำค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการมารวมไว้ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องแยกออกมาจากกัน รวมทั้งต้องหักข้าวที่ยังไม่ได้นำเข้ามคำนวณอีก 3 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 5-6 หมื่นล้านบาท
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า โครงการแลกเปลี่ยนรถไฟความเร็วสูงของจีนกับสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปี 2557 แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการยกเส้นทางนี้ให้กับจีน หากมีประเทศไหนสนใจก็สามารถเข้ามาเจรจาได้ ซึ่งหากใช้วิธีการชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดและสินค้าเกษตรอย่างละครึ่งแบบเดียวกับจีนก็จะดี
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จะเสนอให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมจำนวน 1.4 แสนล้านบาทเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยธ.ก.ส. จะเสนอขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2556 ที่กำหนดว่าการบริหารเงินทุนหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวจะต้องไม่เกิน 5 แสนล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้มีการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวไปแล้ว 6.8 แสนล้านบาท แต่กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวได้เพียง 1.4 แสนล้านบาท ทำให้วงเงินที่ใช้ในโครงการเกิน 5 แสนล้านบาท และในระหว่างนี้ยังไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามา แต่เกษตรกรมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วกว่า 1.2 ล้านตัน และได้นำเข้ามาจำนำแล้ว
"จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณา หาก กขช. มีมติปรับปรุงแก้ไขดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ก็จะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป จากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ใช้เงินสำรองจ่ายของธนาคารระหว่างที่กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงิน ซึ่งเมื่อกระทรวงการคลังกู้เงินได้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้เงินในช่วงปลายเดือนธ.ค.2556-ม.ค.2557 ก็จะนำมาชดเชยให้กับ ธ.ก.ส.พร้อมอัตราดอกเบี้ย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมจะมีการประชุม กขช. วันนี้ (7พ.ย.) แต่ล่าสุด นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งยกเลิกการประชุมแล้ว
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรงได้กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าว 3 ฤดูกาลผลิต คือ โครงการรับจำนำข้าวนาปี 2554/55 นาปรัง 2555 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 2555/56 ขาดทุนแล้ว 3.3 แสนล้านบาทว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าการดำเนินโครงการรับจำนำของรัฐบาลไม่ได้ขาดทุนมากถึงปีละ 2 แสนล้านบาท เพราะตัวเลขที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จัดทำขึ้นมา มีการนำค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการมารวมไว้ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องแยกออกมาจากกัน รวมทั้งต้องหักข้าวที่ยังไม่ได้นำเข้ามคำนวณอีก 3 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 5-6 หมื่นล้านบาท
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า โครงการแลกเปลี่ยนรถไฟความเร็วสูงของจีนกับสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปี 2557 แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการยกเส้นทางนี้ให้กับจีน หากมีประเทศไหนสนใจก็สามารถเข้ามาเจรจาได้ ซึ่งหากใช้วิธีการชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดและสินค้าเกษตรอย่างละครึ่งแบบเดียวกับจีนก็จะดี