xs
xsm
sm
md
lg

“นิวัฒน์ธำรง” โต้จำนำไม่เจ๊ง 3.3 แสนล้าน ยันข้าวแลกรถไฟไม่ได้ประเคนให้จีน ระบุประเทศอื่นสนใจมาเจรจาได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นิวัฒน์ธำรง” โต้เจ๊งจำนำข้าว 3.3 แสนล้าน ซัดอนุปิดบัญชีหมกเม็ดตัวเลขทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ยันรถไฟแลกข้าวได้ข้อสรุปไตรมาส 3 ปีหน้า ไม่ได้ประเคนให้จีน หากประเทศไหนสนใจก็พร้อมเจรจา เพราะยังมีอีกหลายสาย

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าว 3 ฤดูกาลผลิต คือ โครงการรับจำนำข้าวนาปี 2554/55 นาปรัง 2555 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก 2555/56 ขาดทุนแล้ว 3.3 แสนล้านบาทว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าการดำเนินโครงการรับจำนำของรัฐบาลไม่ได้ขาดทุนมากถึงปีละ 2 แสนล้านบาท เพราะตัวเลขที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จัดทำขึ้นมามีการนำค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการมารวมไว้ แต่ความเป็นจริงแล้วต้องแยกออกมาจากกัน รวมทั้งต้องหักข้าวที่ยังไม่ได้นำเข้ามาคำนวณอีก 3 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 5-6 หมื่นล้านบาท

สำหรับราคาข้าวในตลาดที่กำลังตกต่ำขณะนี้เป็นไปตามภาวะตลาดโลก เพราะเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกก็ปรับตัวลดลง ซึ่งเชื่อว่าราคาข้าวตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล เพราะรัฐบาลกำหนดราคาขายตามราคาตลาด โดยไม่ได้ตั้งราคาขายที่ไม่มีความยืดหยุ่น และเชื่อว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะคืนเงินให้กระทรวงการคลังได้ตามแผน 2 แสนล้านบาท

นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า โครงการแลกเปลี่ยนรถไฟความเร็วสูงของจีนกับสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปี 2557 โดยเส้นทางที่มีการทำข้อตกลงระหว่างไทยกับจีน คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย เป็นเส้นทางที่จีนสนใจเพราะสามารถเชื่อมไปยังเวียดนามได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการยกเส้นทางนี้ให้แก่จีน หากมีประเทศไหนสนใจก็สามารถเข้ามาเจรจาได้ ซึ่งหากใช้วิธีการชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดและสินค้าเกษตรอย่างละครึ่งแบบเดียวกับจีนก็จะดี โดยไทยไม่ได้มีการลงทุนรถไฟความเร็วสูงแค่เส้นทางนี้เส้นทางเดียว ยังมีอีกหลายเส้นทาง ประเทศอื่นๆ ที่สนใจก็สามารถเข้ามาเจรจากับไทยได้ จะใช้วิธีเดียวกับจีนหรือประมูลแข่งขันก็ได้

“ที่มองว่าการแลกเปลี่ยนสินค้าในลักษณะนี้จะทำให้ประเทศอื่นเสียเปรียบเพราะไม่มีการประมูลแข่งขัน หรือไทยต้องลงทุนสูง เนื่องจากมีการตกลงราคากับจีนเพียงประเทศเดียว มองว่าวิธีดังกล่าวมีข้อดีตรงที่ไทยสามารถระบายสินค้าเกษตรออกไปได้จำนวนมาก อีกทั้งราคาที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันก็จะยึดตามราคาตลาดโลก เช่น ข้าว จะใช้ราคาข้าวตลาดโลกอ้างอิงในการแลกเปลี่ยนการลงทุน ส่วนการตีราคารถไฟของจีนก็จะให้หน่วยงานกลางอย่างธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เป็นผู้ประเมินราคา”

สำหรับการทำสัญญาซื้อขายข้าวกับจีน 1 ล้านตันนั้น ทางฝ่ายไทยและบริษัทคอฟโก ของจีนก็ได้มีการตลกลงทำสัญญาซื้อขายระหว่างกันแล้ว แบ่งออกเป็น 3 งวด คือ ธ.ค. 2556-เม.ย. 2557 ส่งมอบงวดแรก 5 แสนตัน พ.ค.-ต.ค. 2557 ส่งมอบ 3 แสนตัน และพ.ย.-ธ.ค. 2557 ส่งมอบ 2 แสนตัน โดยราคาที่ขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้แก่จีนจะกำหนดราคาขายแบบเอฟโอบี หรือราคาส่งมอบ ณ ท่าเรือ ซึ่งทางจีนและไทยจะมาหารือในการหาผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อส่งมอบตามสัญญาซื้อขายต่อไป ส่วนการซื้อขายข้าว 1.2 ล้านตันกับมณฑลเฮยหลงเจียงของจีนนั้น ยังติดปัญหาเรื่องขั้นตอนเอกสาร แต่ก็พยายามทำให้เสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น