นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักไทย และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ( join statement)ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟในประเทศไทยโดยแลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรจากประเทศไทย ที่ทั้งสองฝ่ายลงนามไป เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2556 และการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับจีน ในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เมื่อวันที่ 11 –13 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.56 นายจาง เสี่ยวเฉียง รองประธานคณะกรรมการการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติจีน พร้อมด้วย นายลู่ ตงฝูง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจีน และผู้ว่าการการรถไฟจีน และนายหยู เจี้ยนหัว รองผู้แทนการค้าระหว่างประเทศจีน ได้ลงนามร่วมกันกับคณะผู้แทนฝ่ายไทย โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นหัวหน้าคณะ
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ได้หารือในเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางในการเจรจาและดำเนินความร่วมมือในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ –นครราชสีมา–หนองคาย โดยแลกเปลี่ยนกับข้าวและสินค้าเกษตร โดยขึ้นอยู่หลักการดังต่อไปนี้
1. ร้อยละ 50 ของการชำระค่าใช้จ่ายโครงการจะอยู่ในรูปข้าวหรือสินค้าเกษตรอื่นๆ จากไทย ในขณะที่อีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งข้าวหรือสินค้าเกษตรที่จะนำไปชำระค่าใช้จ่ายโครงการจะเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมจากปริมาณการค้าที่มีอยู่ปัจจุบันระหว่างทั้งสองประเทศ
2. มูลค่าข้าวและสินค้าเกษตรไทยจะอ้างอิงจากราคาตลาดโลกของสินค้าเกษตรไทยในปัจจุบัน
3. ส่วนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ในส่วนของการประเมินค่าใช้จ่ายโครงการจะทำโดยองค์กรสากลที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย เช่น ในส่วนของธนาคารโลก (เวิล์คแบงค์) เป็นต้น ที่จะหารือในกรอบชั้นต่อไป
4. ความร่วมมือนี้จะดำเนินไปตามกรอบเวลาและขั้นตอน ระเบียบวิธีการภายในประเทศของทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทยกับจีนจะหารือกันต่อไปเรื่องรูปแบบความร่วมมือต่าง ๆ รวมถึงเอกสารสัญญาต่างๆ ที่อาจต้องจัดทำขึ้นสำหรับดำเนินความร่วมมือต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าหากสามารถบรรลุข้อตกลงความร่วมมือนี้ได้เป็นรูปธรรมจะสามารถช่วยเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะข้าว ไปยังจีนเพิ่มเติมได้อีกมาก ซึ่งจะสามารถสนองตอบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาลได้ด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานร่วมอาจจะมีการลงนามสัญญาในอนาคต และจะมีการหารือในครั้งต่อไป โดยดูถึงระยะทาง สินค้าเกษตรที่จะนำไปแลกกับความร่วมมือ
ทั้งนี้ ไทยและจีนจะทำงานและพัฒนาร่วมกัน ยังไม่ได้หมายความว่าจะยกเส้นทางสายกทม.-นครราชสีมา-หนองคาย ให้จีน หรือเป็นการให้จีนจองรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายนี้ เชื่อว่าประมาณปี 2557 จะมีความชัดเจนขึ้นโดยมีการลงนามสัญญาต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.56 นายจาง เสี่ยวเฉียง รองประธานคณะกรรมการการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติจีน พร้อมด้วย นายลู่ ตงฝูง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจีน และผู้ว่าการการรถไฟจีน และนายหยู เจี้ยนหัว รองผู้แทนการค้าระหว่างประเทศจีน ได้ลงนามร่วมกันกับคณะผู้แทนฝ่ายไทย โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นหัวหน้าคณะ
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ได้หารือในเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางในการเจรจาและดำเนินความร่วมมือในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ –นครราชสีมา–หนองคาย โดยแลกเปลี่ยนกับข้าวและสินค้าเกษตร โดยขึ้นอยู่หลักการดังต่อไปนี้
1. ร้อยละ 50 ของการชำระค่าใช้จ่ายโครงการจะอยู่ในรูปข้าวหรือสินค้าเกษตรอื่นๆ จากไทย ในขณะที่อีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งข้าวหรือสินค้าเกษตรที่จะนำไปชำระค่าใช้จ่ายโครงการจะเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมจากปริมาณการค้าที่มีอยู่ปัจจุบันระหว่างทั้งสองประเทศ
2. มูลค่าข้าวและสินค้าเกษตรไทยจะอ้างอิงจากราคาตลาดโลกของสินค้าเกษตรไทยในปัจจุบัน
3. ส่วนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ในส่วนของการประเมินค่าใช้จ่ายโครงการจะทำโดยองค์กรสากลที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย เช่น ในส่วนของธนาคารโลก (เวิล์คแบงค์) เป็นต้น ที่จะหารือในกรอบชั้นต่อไป
4. ความร่วมมือนี้จะดำเนินไปตามกรอบเวลาและขั้นตอน ระเบียบวิธีการภายในประเทศของทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทยกับจีนจะหารือกันต่อไปเรื่องรูปแบบความร่วมมือต่าง ๆ รวมถึงเอกสารสัญญาต่างๆ ที่อาจต้องจัดทำขึ้นสำหรับดำเนินความร่วมมือต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าหากสามารถบรรลุข้อตกลงความร่วมมือนี้ได้เป็นรูปธรรมจะสามารถช่วยเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะข้าว ไปยังจีนเพิ่มเติมได้อีกมาก ซึ่งจะสามารถสนองตอบนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาลได้ด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานร่วมอาจจะมีการลงนามสัญญาในอนาคต และจะมีการหารือในครั้งต่อไป โดยดูถึงระยะทาง สินค้าเกษตรที่จะนำไปแลกกับความร่วมมือ
ทั้งนี้ ไทยและจีนจะทำงานและพัฒนาร่วมกัน ยังไม่ได้หมายความว่าจะยกเส้นทางสายกทม.-นครราชสีมา-หนองคาย ให้จีน หรือเป็นการให้จีนจองรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายนี้ เชื่อว่าประมาณปี 2557 จะมีความชัดเจนขึ้นโดยมีการลงนามสัญญาต่อไป
