xs
xsm
sm
md
lg

จีนหนุนปปช.คุ้ยจีทูจี แก๊งโกงข้าวŽหนาว!-7พันล.แต่งบัญชี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (23 ต.ค.56) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอนุมัติเงิน 7.1 พันล้าน เพื่อมาทำข้าวถุงธงฟ้าราคาถูกตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลจะนำงบดังกล่าวมาทำข้าวถุงราคาถูกขายให้ประชาชน แต่ในข้อเท็จจริงข้าวถุงธงฟ้าและข้าวถุงราคาถูกชนิดอื่น ๆ รัฐบาลได้ทำมาตั้งแต่ปลายปี 2554 -2555 และต่อเนื่องถึงปลายปี 2556 แต่เกิดปัญหาข้าวถุงเหล่านี้หายไปจากตลาด คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้อนุมัติข้าวสารราคาถูกที่ตันละ 7.6 พันบาท เพื่อมาทำข้าวถุงเหล่านี้จึงดูเหมือนว่าครม.อนุมัติเงิน 7.1 พันล้านมาจ่ายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นค่าข้าว ซึ่งหากจะจ่ายจริงก็ต้องจ่ายตั้งแต่ปี 2555 ถึงต้นปี 2556 แล้ว
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า การที่ครม.เพิ่งอนุมัติเงินก้อนนี้ ก็เพราะ กขช.ปิดบัญชีไม่ลง เนื่องจากสิ้นเดือน ส.ค.2556 มีการตรวจสอบบัญชีและการใช้เงินในโครงการจำนำข้าวที่ไม่เกิน 5 แสนล้านบาท แต่โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลนี้กลับใช้เงินไปแล้ว 6.97 แสนล้านบาท เท่ากับว่าใช้เงินเกินกรอบที่ ครม.กำหนดไป 1.79 แสนล้านบาท ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวทำเงินได้เพียง 1.29 แสนล้านบาท จึงขาดเงินอีก 5 หมื่นล้านบาท เพื่อปิดบัญชีให้ลงตัว จึงต้องใช้วิธีการโยกเงินหลวงจากงบกลางมากลบบัญชีนี้ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือน คงไม่สามารถขายข้าวในมือได้ตามที่คุยไว้ จึงต้องหาเงินมาปิดบัญชีให้ลงตัว ดังนั้นเงิน 7.1 พันล้านบาท จึงไม่มีผลต่อการทำข้าวถุงราคาถูกเพื่อออกสู่ท้องตลาดเพื่อช่วยคนจนแต่อย่างใด แต่เป็นการช่วยปิดบัญชีงบดุลเพื่อช่วยรัฐบาลให้ตัวเลขลงตัวเท่านั้น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) มีมติอนุมัติเงิน 7,000 ล้าน ไปสนับสนุนในการระบายข้าวตามโครงการธงฟ้าว่า
ผมก็เพิ่งแถลงข่าวไปบอกว่า เรากำลังปล่อยให้ปัญหาการทุจริต และการจัดการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด มันเปิดช่องให้มีการเอื้อประโยชน์อะไรมากมายนั้น ทำ ให้เราสูญเสียมาก ตัวเลขของมหาวิทยาลัยหอการค้าที่บอกปีละ 2 แสน 3 หมื่น 5 พันล้านนี้จริงๆ พูดถึงเฉพาะเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง แต่เรื่องของข้าวนั้นดูจะเสียหายไม่รู้จบจริงๆ นะครับ เมื่อวานนี้ผมก็ยังไปพูดอยู่ที่การประชุมซึ่งดูเรื่องของเสรีภาพทางเศรษฐกิจ แล้วก็ได้มีการพูดถึงนโยบายจำนำข้าวกันเหมือนกัน ซึ่งหลายคนเขาก็แปลกใจว่าทำไมถึงมีการคิดทำนโยบายอะไรแบบนี้ ซึ่งมีความเสียหายหลายด้าน แล้วตอนนี้เราก็เห็นชัดเจนครับว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาล เหมือนแก้ไม่ตก เพราะไม่ยอมไปดูปัญหาพื้นฐานจริงๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็มีอีกแล้วครับมาตรการ จะหาทาง หาเงิน ต้องเสียเงินอีก 7 พัน 1 ร้อยล้าน เพื่อที่จะเอาข้าวไปทำข้าวธงฟ้าขายองค์กรรัฐ กลายเป็นเอาเงินภาษีอีก 7 พัน 1 ร้อยล้านเพื่อไปซื้อข้าว เพื่อมาขายข้าวในราคาถูก ไม่รู้จะซื้อกันเองในราคาเท่าไหร่ ปัญหาพื้นฐานไม่ได้รับการแก้ไข ที่มีพูดถึงปัญหาระยะยาวหน่อย ก็ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมาบอกว่า อาจจะต้องเลิกปลูกข้าวบางพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาขาดทุน
ทั้งหมดนี้ผมคิดว่าคือความสูญเสียที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ตัวเลขที่หลายท่านพูดออกมาว่า ถ้าไม่ใช่ดูเป็นรายปี ดูทั้งหมดตอนนี้ขาดทุนไปแล้วถึง 4 แสนกว่าล้าน อาจจะมากกว่านี้อะไรต่างๆ เราก็ยังไม่เห็นรัฐบาลมีความกระตือรือร้นที่จะหาทางออกกับเรื่องนี้ เพราะว่าเราก็มีความรู้สึกว่า มันมีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์นะครับ ไม่ใช่ชาวนานะครับ เพราะส่วนของชาวนานั้น เราสามารถให้ประโยชน์เขาได้เท่านี้โดยไม่ต้องทำโครงการนี้ แต่มันไม่จบ แล้วสุดท้ายมันก็จะลุกลามไป
ที่โรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลด้วยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบในส่วนของแคชเชียร์เช็คที่ผิดปกติทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากธนาคารที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะเริ่มตรวจสอบในส่วนของตัวบุคคลที่เชื่อมโยงกับแคชเชียร์เช็คดังกล่าว โดยจะตรวจสอบในบางรายที่ผิดปกติเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คสามารถระบุได้หรือไม่ว่าเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นายวิชา กล่าวว่า ต้องตรวจสอบลักษณะการซื้อขายแบบจีทูจี กับการซื้อขายในรับปกติอีกครั้ง โดย ป.ป.ช.ได้ขอความร่วมมือไปยังทางการจีน เพื่อให้ส่งข้อมูลและยืนยันว่า บริษัทที่อ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจจีนและมาดำเนินการแทนนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางการจีนก็ตอบรับและยินดีให้ความร่วมมือ ส่วนการสอบสวนเรื่องบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่มีสถานภาพล้มละลายไปแล้ว แต่ยังดำเนินการซื้อขายข้าวกับรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ก็ดำเนินการอยู่ โดยอาจจะแยกสำนวนออกไป
เมื่อถามต่อว่า จะสามารถสรุปคดีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวได้ในเร็วๆนี้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็ได้พยายามเร่งทำงานอย่างเต็มที่ และทำงานทุกวัน เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องลงไปในพื้นที่จริง เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทุจริตรุนแรง อย่างไรก็ดีจะเร่งดำเนินการให้เร็วและรัดกุมที่สุด แต่ในส่วนของข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อขายแบบจีทูจีให้เสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น