พ.ร.บ.นิรโทษกรรมลุกเป็นไฟอีกครั้ง หลังจากมีข่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยกำลังขับเคลื่อน ล้างความผิดให้คนเสื้อแดงทุกระดับ และจะคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย
แนวความคิดออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ถูกโยนหินถามทางมาตลอด พ.ต.ท.ทักษิณรอคอยจังหวะเหมาะๆ เสมอ และคิดว่า น่าจะพร้อมแล้ว สำหรับการล้างมลทินความผิดให้ตัวเองและพวกพ้อง
พร้อมแล้วที่จะเรียกเงินที่ถูกยึดเข้ารัฐ 4.6 หมื่นล้านบาทคืนมา โดยประเมินว่า ในสภาฯ ไม่มีใครขวางแล้ว การแก้รัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. การผลักดัน พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทก็ขับเคลื่อนมาได้
กระแสต่อต้านนอกสภาฯ ก็มองเป็นเพียงคนหยิบมือเดียว ใช้ตำรวจจัดการก็เอาอยู่
ไม่มีความจำเป็นที่ “ทักษิณ” ต้องรอต่อ จึงส่งสัญญาณให้นักการเมืองลูกสมุนบางคนเปิดประเด็น เดินหน้านิรโทษกรรมเต็มรูปแบบ
คดีความผิดหลังเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 จะได้รับการนิรโทษกรรมหมด ทั้งแกนนำและแนวร่วมคนเสื้อแดง ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณและลูกสมุน คดีเผาบ้านเผาเมือง ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มกระทรวงกลาโหม
คดีสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร หรือแม้แต่คดีทุจริตประมูลจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังอยู่ในข่ายได้ลบล้างความผิด
เงินจากการขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท จะถูกเรียกคืนให้พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมดอกเบี้ยปีละ 7.5% หรือปีละ 3,450 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2549 รวมเวลา 6 ปี
ทั้งหมดพ.ต.ท.ทักษิณจะได้เงินคืนไม่ต่ำกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท
นักการเมืองขี้ข้าที่ออกหน้าขับเคลื่อนไหว พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดลิ่มทิ่ม ประตู คงเล็งผลเลิศเหมือนกัน ถ้าข่มขืนกฎหมายสำเร็จ ทนเสียงสาปแช่งของประชาชนได้ “ทักษิณ” อาจแบ่งเศษเงินมาฟาดหัว หรืออาจโยนเก้าอี้รัฐมนตรีให้สัก 1 ตัว
การจุดพลุล้างมลทินคนเสื้อแดงตั้งแต่ระดับหัวยันหางครั้งนี้ ไม่แตกต่างจากการผลักดันครั้งก่อนๆ เพราะกระแสต่อต้านของสังคมปะทุขึ้นทันที ทั้งในและนอกสภาฯ
พรรคฝ่ายค้าน ส.ว.บางส่วน และประชาชนกลุ่มต่างๆ ประกาศตัวทันที พร้อมระดมพลต่อต้าน ไม่มีวันยอมให้ใครล้างความผิดหรือคืนเงินให้ “ทักษิณ” เป็นไงเป็นกัน
และกระแสต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เดือดปุด เหมือนรังแตนถูกแหย่ ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องชะงัก ปรับท่าทีใหม่ และส่งสัญญาณมาแล้วว่า จะถอย
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ล้างมลทินแบบเหมาเข่ง พ่วง “ทักษิณ” และหัวโจกแกนนำคนเสื้อแดงคงต้องพักไว้ก่อน
เพราะหากเดินหน้าต่อไป มีหวังรัฐบาลพังเร็วแน่
การแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. การเข็น พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท และประกาศดับเครื่องชนกับศาลรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนว่า ระบอบทักษิณกลืนกินประเทศไทยหมดแล้ว ซื้อได้ทุกอย่าง บงการได้ทุกคน คุมอำนาจรัฐไว้ทุกส่วน จะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครขวางอยู่แล้ว
จนย่ามใจเดินเกมรุกครั้งสุดท้าย ฟอกตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่ “ทักษิณ” และลูกสมุนจอมเชลียร์ทั้งหลายก็ประเมินผิด เพราะสังคมไม่ได้ยอมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปเสียทั้งหมด ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้อ่อนล้า จนยอมนิ่งดูดายให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อเรื่องบัดซบ
ทุกคนพร้อมจะลุกขึ้นมาสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อขัดขวางแผนล้างมลทินให้พ.ต.ท.ทักษิณ และหัวโจกปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง
และปฏิกิริยาต่อต้านที่ประชาชนกลุ่มต่างๆ แสดงออก ก็ทำให้รัฐบาลประหวั่น ไม่แน่ใจว่าจะรับมือม็อบต่อต้านไหวหรือไม่ ไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้า
เพราะรัฐบาลอยู่ในจุดที่เปราะบางหลายด้าน ไม่เฉพาะปัญหาการทุจริตเท่านั้น แต่ปัญหาที่ประชิดตัวมากขึ้นทุกที คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ปัญหาความเดือดร้อนจากราคาข้าวของแพง
เสถียรภาพของนางสาวยิ่งลักษณ์สั่นคลอนลงทุกวัน ยุทธศาสตร์ในตอนนี้คือ พยายามประคับประคองให้อยู่นานที่สุด เพื่อสะสมทุน เพื่อให้ได้ใช้งบประมาณปี 2557 และรอกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทเข้ามาผลาญ ควบคู่ไปกับการรุกคืบ แทรกแซงระบบราชการและแทรกซึมองค์กรอิสระ
สมุนขี้ข้าทุกคนรู้ดีว่า “ทักษิณ” อยากกลับบ้าน อยากล้างมลทิน อยากได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน แต่เอาใจ “ทักษิณ” ไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยจะตายหมู่
รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะล่มสลาย ระบอบทักษิณจะย่อยยับไม่เหลือซาก
“ทักษิณ” จึงต้องหงุดหงิดทนรอต่อไป และไม่มีใครบอกได้ว่า จะต้องรอกันอีกกี่ชาติ เพราะชาตินี้ประชาชนไม่ยอมให้กลับมาโดยไม่ติดคุกแน่
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กำลังผลักดันกันอยู่ จึงช่วยแค่ลบล้างความผิดคนเสื้อแดงระดับปลาซิวปลาสร้อยแก้เขินไปเท่านั้น
ไม่กล้าดันกันสุดๆ เหมายกเข่งล้างผิดคนบงการเผาบ้านเผาเมืองหรอก เพราะดันกันสุดเมื่อไหร่ เท่ากับเริ่มนับหนึ่งวันตายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เชื่อก็ลองดู
แนวความคิดออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ถูกโยนหินถามทางมาตลอด พ.ต.ท.ทักษิณรอคอยจังหวะเหมาะๆ เสมอ และคิดว่า น่าจะพร้อมแล้ว สำหรับการล้างมลทินความผิดให้ตัวเองและพวกพ้อง
พร้อมแล้วที่จะเรียกเงินที่ถูกยึดเข้ารัฐ 4.6 หมื่นล้านบาทคืนมา โดยประเมินว่า ในสภาฯ ไม่มีใครขวางแล้ว การแก้รัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. การผลักดัน พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทก็ขับเคลื่อนมาได้
กระแสต่อต้านนอกสภาฯ ก็มองเป็นเพียงคนหยิบมือเดียว ใช้ตำรวจจัดการก็เอาอยู่
ไม่มีความจำเป็นที่ “ทักษิณ” ต้องรอต่อ จึงส่งสัญญาณให้นักการเมืองลูกสมุนบางคนเปิดประเด็น เดินหน้านิรโทษกรรมเต็มรูปแบบ
คดีความผิดหลังเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 จะได้รับการนิรโทษกรรมหมด ทั้งแกนนำและแนวร่วมคนเสื้อแดง ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณและลูกสมุน คดีเผาบ้านเผาเมือง ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มกระทรวงกลาโหม
คดีสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร หรือแม้แต่คดีทุจริตประมูลจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังอยู่ในข่ายได้ลบล้างความผิด
เงินจากการขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท จะถูกเรียกคืนให้พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมดอกเบี้ยปีละ 7.5% หรือปีละ 3,450 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2549 รวมเวลา 6 ปี
ทั้งหมดพ.ต.ท.ทักษิณจะได้เงินคืนไม่ต่ำกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท
นักการเมืองขี้ข้าที่ออกหน้าขับเคลื่อนไหว พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดลิ่มทิ่ม ประตู คงเล็งผลเลิศเหมือนกัน ถ้าข่มขืนกฎหมายสำเร็จ ทนเสียงสาปแช่งของประชาชนได้ “ทักษิณ” อาจแบ่งเศษเงินมาฟาดหัว หรืออาจโยนเก้าอี้รัฐมนตรีให้สัก 1 ตัว
การจุดพลุล้างมลทินคนเสื้อแดงตั้งแต่ระดับหัวยันหางครั้งนี้ ไม่แตกต่างจากการผลักดันครั้งก่อนๆ เพราะกระแสต่อต้านของสังคมปะทุขึ้นทันที ทั้งในและนอกสภาฯ
พรรคฝ่ายค้าน ส.ว.บางส่วน และประชาชนกลุ่มต่างๆ ประกาศตัวทันที พร้อมระดมพลต่อต้าน ไม่มีวันยอมให้ใครล้างความผิดหรือคืนเงินให้ “ทักษิณ” เป็นไงเป็นกัน
และกระแสต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เดือดปุด เหมือนรังแตนถูกแหย่ ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องชะงัก ปรับท่าทีใหม่ และส่งสัญญาณมาแล้วว่า จะถอย
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ล้างมลทินแบบเหมาเข่ง พ่วง “ทักษิณ” และหัวโจกแกนนำคนเสื้อแดงคงต้องพักไว้ก่อน
เพราะหากเดินหน้าต่อไป มีหวังรัฐบาลพังเร็วแน่
การแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. การเข็น พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท และประกาศดับเครื่องชนกับศาลรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนว่า ระบอบทักษิณกลืนกินประเทศไทยหมดแล้ว ซื้อได้ทุกอย่าง บงการได้ทุกคน คุมอำนาจรัฐไว้ทุกส่วน จะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครขวางอยู่แล้ว
จนย่ามใจเดินเกมรุกครั้งสุดท้าย ฟอกตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่ “ทักษิณ” และลูกสมุนจอมเชลียร์ทั้งหลายก็ประเมินผิด เพราะสังคมไม่ได้ยอมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปเสียทั้งหมด ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้อ่อนล้า จนยอมนิ่งดูดายให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อเรื่องบัดซบ
ทุกคนพร้อมจะลุกขึ้นมาสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อขัดขวางแผนล้างมลทินให้พ.ต.ท.ทักษิณ และหัวโจกปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง
และปฏิกิริยาต่อต้านที่ประชาชนกลุ่มต่างๆ แสดงออก ก็ทำให้รัฐบาลประหวั่น ไม่แน่ใจว่าจะรับมือม็อบต่อต้านไหวหรือไม่ ไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้า
เพราะรัฐบาลอยู่ในจุดที่เปราะบางหลายด้าน ไม่เฉพาะปัญหาการทุจริตเท่านั้น แต่ปัญหาที่ประชิดตัวมากขึ้นทุกที คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ปัญหาความเดือดร้อนจากราคาข้าวของแพง
เสถียรภาพของนางสาวยิ่งลักษณ์สั่นคลอนลงทุกวัน ยุทธศาสตร์ในตอนนี้คือ พยายามประคับประคองให้อยู่นานที่สุด เพื่อสะสมทุน เพื่อให้ได้ใช้งบประมาณปี 2557 และรอกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทเข้ามาผลาญ ควบคู่ไปกับการรุกคืบ แทรกแซงระบบราชการและแทรกซึมองค์กรอิสระ
สมุนขี้ข้าทุกคนรู้ดีว่า “ทักษิณ” อยากกลับบ้าน อยากล้างมลทิน อยากได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน แต่เอาใจ “ทักษิณ” ไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยจะตายหมู่
รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะล่มสลาย ระบอบทักษิณจะย่อยยับไม่เหลือซาก
“ทักษิณ” จึงต้องหงุดหงิดทนรอต่อไป และไม่มีใครบอกได้ว่า จะต้องรอกันอีกกี่ชาติ เพราะชาตินี้ประชาชนไม่ยอมให้กลับมาโดยไม่ติดคุกแน่
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กำลังผลักดันกันอยู่ จึงช่วยแค่ลบล้างความผิดคนเสื้อแดงระดับปลาซิวปลาสร้อยแก้เขินไปเท่านั้น
ไม่กล้าดันกันสุดๆ เหมายกเข่งล้างผิดคนบงการเผาบ้านเผาเมืองหรอก เพราะดันกันสุดเมื่อไหร่ เท่ากับเริ่มนับหนึ่งวันตายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เชื่อก็ลองดู