โอกาสที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะพ้นผิดสมบูรณ์แบบและได้เงินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทคืนพร้อมดอกเบี้ยใกล้มาถึงแล้ว อยู่ที่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯในสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 2, 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
คลัอยหลังจากอดีตอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายไม่กี่วัน คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯของสภาผู้แทนราษฎรก็มีมติแก้มาตรา 3 ในสาระสำคัญที่สุดแตกต่างไปจากร่างฯเดิมที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะโดยสิ้นเชิง จากการเสนอแก้ไขของนายประยุทธ ศิริพาณิชย์ กรรมาธิการที่มาจากพรรคเพื่อไทยปีกพรรคความหวังใหม่เดิม
โปรดดูภาพประกอบว่าแก้ไขของเดิมแบบเขียนใหม่เลย
รูปธรรมที่เกิดขึ้นคือ
ให้รวมนิรโทษกรรมคดีที่มาจากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หรือ คตส. ด้วยทั้งหมด
ให้นิรโทษกรรมคดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ให้นิรโทษกรรมเหมายกเข่งรวมแกนนำด้วย
อันเป็นการเล่นกลกลับหลักการของร่างฯแรกที่เสนอมาโดยนายวรชัย เหมะที่อ้างความเดือดร้อนของมวลชนเป็นหลัก และยืนยันมาตลอดว่าไม่เกี่ยวกับแกนนำ ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สารัตถะว่าร้ายกาจแล้วแล้ว แต่ที่ร้ายกาจยิ่งกว่าคือวิธีการ
เพราะเป็นวิธีการที่แฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยม จะเรียกว่าลักไก่ หรือสับขาหลอก หรืออะไรก็แล้วแต่ ผลคือทำให้กลไกของสภาชั้นกรรมาธิการที่ควรเป็นเวทีว่าด้วยเหตุผลเป็นที่แสวงหาความปรองดองแปรสภาพ...
กลายเป็นเวทีแห่งความสามานย์ !
คราวร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มาส.ว.ก็ทำแบบนี้ ร่างฯกรรมาธิการเป็นแบบหนึ่ง เวลาอภิปรายไม่มีใครค้านร่างฯกรรมาธิการชัดเจน พอถึงเวลาลงมติก็หยิบเอาข้อสงวนคำแปรญัตติที่ตั้งใจจะให้เป็นมาโหวต ล่าสุดคราวอำมหิตตัดสิทธิประชาชนจากมาตรา 190 เมื่อดึกวันพุธที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ใช้วิธีแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ในการอภิปรายไม่มีใครอภิปรายสนับสนุนการตัดสิทธิประชาชนเลย แต่ที่สุดก็โหวตตัดสิทธิกันดื้อ ๆ ด้วยวิธีการขานมติที่ทำให้งงกันจนต้องพักการประชุม แล้วก็บอกว่าเป็นไปตามกติกาของระบบ
นี่ไม่ใช่การให้คุณค่าแก่ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาเลย
หากแต่เป็นการทำลาย
ก็ถ้าคิดจะเดินสุดซอยแบบนี้ก็บอกกันเสียแต่แรก เสนอเป็นร่างพ.ร.บ.แบบที่ต้องการอย่างนี้เข้ามาให้ชัดเจน เอาร่างฯของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงเลยก็ได้ คนในสภาผู้แทนราษฎรก็จะได้อภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านและลงมติได้ชัดเจนตอนวาระ 1
รวมทั้งคนนอกสภาก็จะได้ตั้งขบวนต่อต้านคัดค้านให้เหมาะแก่กรณี
การที่นายประยุทธ ศิริพาณิชย์เป็นแนวหน้ากล้าตายเสนอแก้ไขแบบทะลุซอยอย่างที่เห็น อภิปรายกันได้สักพัก แล้วให้นายสุนัย จุลพงศธรเสนอปิดอภิปราย แล้วใช้เสียงข้างมากรวมทั้งคนรัฐประหารคนตั้งคตส.เองอย่างพล.อ.สนธิ บุญยะรัตกลินโหวตให้ชนะ โดยนายวรชัย เหมะเล่นบทไม่รู้ไม่เห็น ไม่เห็นด้วย และสงวนความเห็นเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยไว้ มันดูลิเกไปหน่อย
เพราะผลสุดท้ายจะอยู่ที่การลงมติในสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2
คนเป็นผู้นำมวลชนต้องมีสัจจะ !
อยากเห็นการรักษาสัจจะ และการพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกับลิเกหลงโรงราคาถูก ๆ ครั้งนี้ของนายวรชัย เหมะ กับส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนที่เป็นแกนำนปช. ให้ชัดเจนกว่านี้ ชัดเจนมากกว่าบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในเมื่อเสียงข้างมากเห็นอย่างนี้
มีข่าวลอยลมมาว่างานนี้ไม่ใช่ฝีมือนายประยุทธ ศิริพาณิชย์คนเดียวหรอก
แต่งานนี้พ่อใหญ่วัย 81 ลงมือเอง โดยลงทุนพานายประยุทธ ศิริพาณิชย์บินคู่ไปต่างประเทศเสนอแนวคิดนี้ต่อคนที่จะได้ประโยชน์โดยตรง และก็ได้ไฟเขียวมาให้ดำเนินการได้
โดยหัวเรี่ยวหัวแรงอีกคนของงานนี้ก็เป็นส.ส.เพื่อไทยอดีตความหวังใหม่อีกคนที่เป็นคนสนิทและคนชื่อเดียวกับพ่อใหญ่วัย 81
ถ้าข่าวลอยลมนี้เป็นจริง ผมก็อดสังเวชไม่ได้ และอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าอะไรหนอทำให้พ่อใหญ่วัย 81 ที่เคยมีเกียรติภูมิสูงส่งในยุคสงครามเย็น พูดจาดูดีมีหลักการ เคยเป็นทั้งผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายกรัฐมนตรี ทำไมชีวิตตกต่ำลงมาคลุกมูลอาจมถึงเพียงนี้
สถานการณ์ ณ นาทีนี้เหลืออยู่แต่รอเข้าสภาผู้แทนฯวาระ 2-3 ให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป 29 พฤศจิกายน
ทันแน่ !
มีเวลาเหลือแหล่รับทั้งแผ่นดินไหวและอาฟเคอร์ช็อคทางสังคมที่จะตามมาด้วยซ้ำ !!
สอดคล้องกับระยะเวลาประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯรอบทำเนียบ-รัฐสภาที่ขยายไปสอดรับกันถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนเช่นกัน
ถ้าจะให้ดีนะ ผมเสนอทั่นประธานรัฐสภาให้เรียกประชุมรัฐสภาอังคารพุธ 29 - 30 ตุลาคมเอาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขมาตรา 68, 237 เข้าวาระ 2 เลย จะได้เป็นการสตาร์ทเครื่องล่วงหน้าก่อนเข้าสู่วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่จะเป็นการลงมติวาระ 3 ร่างฯแก้ไขมาตรา 190
จากนั้นค่อยเป็นคิววาระ 2, 3 ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯฉบับทะลุซอย
โดยจะมีวันพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร 11 พฤศจิกายนเข้ามาช่วยเติมความร้อนแรง
แล้วตามด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไทยคดีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขที่มา ส.ว. !
จากนั้นก็จะเข้าระยะเวลา 30 วันสุดท้ายของช่วง 90 วันสำคัญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
เดือนพฤศจิกายน 2556 ร้อนจัดแน่แม้ว่าลมหนาวจะโชยมาแล้วก็ตาม
แต่จะแค่ไหน อย่างไร และจะนำไปสู่อะไร หรือไม่ อย่างไร
เรามาคอยคิดตามพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า !