แกนนำ คปท.-เครือข่ายภาคประชาชนย้ำนิรโทษกรรมประกาศระบอบทักษิณยึดประเทศ ยันค้านทุกรณี นัดถกกำหนดวันดีเดย์ 27 ต.ค.นี้ ส่วน ปชป.ชี้นิรโทษทะลุซอย ให้คนโกงพ้นผิด "นิพิฏฐ์" นัดชุมนุม 6 พ.ย.หลังโหวตวาระ 3 "เทือก" ส่งสัญญาณให้คน ตจว.ยึดศาลากลาง โพลเชื่อ "นิรโทษแม้ว" จะเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง รุนแรง บานปลาย ตร.ชั้นผู้น้อยโวยโดนงาบหัวคิวเบี้ยเลี้ยคุมม็อบ ได้แค่ 250-300 บ. สงสัยข่าวเบี้ยเลี้ยง 800 ฝากนักข่าวทวงถามนายอีก 500 หายไปไหน
วานนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้ เดิม) เครือข่ายองค์กรภาคประชาชน นำโดย นายสุริยะใส กะตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม คปท., นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ประธานสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (สปท.), นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เสนาธิการร่วม กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) แถลงข่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะเงื่อนไข และปัจจัยทางการเมืองที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยน ทั้งกรณีปราสาทพระวิหาร ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยได้ย้ำจุดยืนของเครือข่าย คือการคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมจับตากรณีศาลโลกที่จะเตรียมพิจารณาคดีปราสาทพระวิหาร โดยในวันที่ 22 ต.ค. จะยื่นหนังสือถึงสถานทูตต่างๆ เพื่อชี้แจงถึงการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และที่ประชุมมีมตินัดประชุมใหญ่ของเครือข่าย ในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. เวลา 09.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว รวมถึงกำหนดวันชุมนุมใหญ่ และหากศาลโลกมีคำตัดสินเป็นไปในทางลบ จนทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยนั้นรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งเครือข่ายจะออกมาเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุด นอกจากนี้จะมีการพิจารณาการตั้งองค์กรใหม่ ก่อนที่จะมีการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง แต่ยังไม่มีการแจ้งสถานที่ในการประชุมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแทรกแซงและการบังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาล
อีกด้านหนึ่งที่สี่แยกอุรุพงษ์ บรรยากาศการชุมนุมของ คปท. นั้นยังคงปักหลักชุมนุมอยู่เป็นวันที่ 11 โดยมีการปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของรัฐบาล สลับกับการแสดงดนตรี โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับสภาพอากาศไม่มีฝนตกเหมือนเช่นวันก่อน โดยในช่วงบ่าย มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และนักศึกษาอาชีวะส่วนหนึ่งไปรณรงค์ชักชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกอุรุพงษ์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน จะขึ้นเวทีปราศรัยในเวลา 20.00 น.
ด้านนายอุทัย แถลงข่าวประจำวัน ระบุว่า ในวันนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาจะออกไปรณรงค์ที่บริเวณสยาม เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่า คปท. ออกมาเรียกร้องและประท้วงเรื่องอะไร อีกทั้งยังให้ประชาชนรับรู้ถึงอำนาจของระบอบทักษิณ และผลกระทบที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย โดยยืนยันว่า คปท. คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม และจะนำไปสู่อำนาจเผด็จการ ซึ่งการนำกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภา เป็นการประกาศยึดประเทศของระบอบทักษิณ ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้ จึงขอค้านทุกกรณี อย่างไรก็ตามการชุมนุมของ คปท. จะใช้สันติวิธี ไม่ก่อความวุ่นวาย เรามีวุฒิภาวะมีการศึกษา ไม่เผาบ้านเผาเมืองแน่นอน
วานนี้ (20 ต.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส.ส.นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ใจความว่า การชุมนุมคัดค้าน กม.นิรโทษกรรม คาดว่า จะมีขึ้นประมาณวันที่ 6 พ.ย. 56 ซึ่งเป็นวันที่ "คาดว่า" รัฐบาลจะนำกม.นี้เข้าพิจารณาใน วาระที่ 3 (เว้นแต่รัฐบาลกลัว และเลื่อนออกไป) ในชั้นนี้ขอให้เตรียมความพร้อมไว้ในวันที่ 6 พ.ย. เป็นเกณฑ์ ใครต้องการรักษาความถูกต้อง ต้องการรักษาหลักนิติรัฐของประเทศไว้ ให้ประสานงานกับ ส.ส.ในพื้นที่หรือแกนนำได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และคิดว่า คงไม่ได้รับการต่อต้านจากคนเสื้อแดง เพราะแดงปัญญาชน และญาติของผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต ก็เตรียมจะแถลงคัดค้านกม.ฉบับนี้ด้วย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์หน้าทางพรรค และ 12 กลุ่มคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะหารือกันนอกรอบ โดยไม่เข้าที่ประชุมพรรค หลังจากมติ กมธ.ร่าง ดังกล่าว เห็นชอบให้นิรโทษฯ ทุกคน รวมแกนนำ เพราะพ.ร.บ.ฉบับนี้ ถือเป็นร่างทะลุซอยแบบชัดเจน ส่วนในรูปแบบการเคลื่อนไหวยังยึดหลักปราศจากอาวุธ และดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่าทั้ง 12 กลุ่ม มีความคิดเห็นเป็นเอกภาพ และมีการหารือกันมาโดยตลอด ไม่มีใครเป็นแกนนำใคร เพราะรูปแบบเป็นเหมือนกฐินสามัคคี และจะมีคปท.รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะคัดค้านร่างดังกล่าวในสภาและนอกสภาอย่างถึงที่สุด โดยไม่ยื่นองค์กรอิสระให้ตรวจสอบแล้ว เนื่องจากช้า และไม่ทันเวลาสำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว
** เทือกส่งสัญญาณให้คน ตจว.ยึดศาลากลาง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบนเวทีฝ่าความจริง ที่สนามหลวงสอง เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้สภาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยผลจากการพิจารณาของกรรมาธิการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รอดคุกทุกคดี รวมทั้งคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังหนีคดี แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องหนีอีกแล้ว เพราะทุกคดีจะเป็นหมันหมด นอกจากนี้ยังจะได้เงิน 43,000 ล้านคืน และดอกเบี้ยอีกหมิ่นกว่าล้านบาทด้วย นอกจากนี้บรรดาบริวารก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคน คนชุดดำที่ถูกจับได้และถูกขังคุกอยู่ซึ่งมี 8 คนก็จะหลุดหมดเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคน วันนี้เขาแสดงให้เห็นแล้วว่ากฎหมายประเทศไทยทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขาอยู่เหนือกฎหมายทุกฉบับ
นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้จดรายชื่อกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้ง 18 คน ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขไว้ และจะคิดบัญชีข้างหน้า แต่ตนอยากบอก 3 ชื่อ คือ นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการ 2. นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ รองประธานกรรมาธิการ เป็นผู้เสนอข้อความที่แก้ไข และ 3. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ตนเจ็บปวดกับคนคนนี้มาก วันที่รัฐประหารบอกว่าทักษิณเลว แต่วันนี้่กลับยกมืออภัยให้ทักษิณทุกข้อกล่าวหา สิ่งที่เขาทำเป็นการล้มล้างหลักการปกครองบ้านเมือง ล้มหลักนิติธรรม
"ขอประกาศกับพี่น้องทั้งหลายว่า ผมได้ยินเสียงนกหวีดก้องอยู่ในหู ทั้งเวลาหลับเวลาตื่น ผมบอกกับพี่น้องว่า เราต้องลุกขึ้นพร้อมๆ กันทั้งประเทศ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องรักษาบ้านเมือง ขอซักซ้อมว่า ผมเคยบอกว่าจะเป่านกหวีดวันที่ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภา เราไม่ต้องรอให้ถึงวุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านสภาวาระ 3 วันไหน นั่นคือวันที่เราจะลุกขึ้นทั่วประเทศ และทันทีที่เสนอเข้าสภาฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. ผมก็จะประกาศถึงวัน ว. เวลา น. ที่เราจะลุกขึ้นทั้งประเทศ โดยจะประกาศล่วงหน้า 6-7 วัน และวันที่ลุกขึ้น ขอเป็นเช้าวันเสาร์ เพราะไม่ต้องการให้รถติด " นายสุเทพ กล่าว และว่า ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัด ได้ยินสัญญานเมื่อไหร่ ให้ลุกขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด คนต่างจังหวัดให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด เราจะไปยึดศาลากลางโดยสันติ ส่วนสถานที่ชุมนุมในกทม. จะนัดหมายในพื้นที่ ที่คนต่างจังหวัดเดินลงมาจากรถไฟได้ไม่ลำบาก แต่หากมีการบ้าอำนาจ มีการตีม็อบสวนลุมพินี ม็อบที่อุรุพงษ์ ให้มาทันที ไม่ต้องรอวาระ 3
" วันนี้ขอประกาศรับสมัครอาสารักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม คนที่เคยเป็นทหารเกณฑ์มาแล้ว เชิญมาสมัครได้ คนที่เป็น อปพร. เชิญมาสมัครได้ โดยให้สมัครที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกเขตเลือกตั้ง " นายสุเทพกล่าว
**กม.นิรโทษผ่านวาระ 3 ปชช.ลุกฮือแน่
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง มติกรรมาธิการเสียงข้างมาก มีมติแก้ไขให้กฎหมายนิรโทษกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง มาตรา 3 ที่เสนอ โดยนายประยุทธิ์ ศิริพานิช กรรมาธิการเสียงข้างมาก อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่เปลี่ยนแปลงหลักการ กฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับที่มีการเสนอเข้าสู่สภาฯ นั้นตนบอกได้ว่า ฉบับดังกล่าวไม่ใช่ฉบับสุดซอย แต่เป็นฉบับทะลุซอย เพราะนอกจากจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนคนเสื้อแดง แกนนำคนเสื้อแดง คนที่กระทำผิดคดีอาญา ยังเลยไปถึงแกนนำทุกรูปแบบ และเลยไปถึงคดีความการทุจริตคอร์รัปชัน และระบุชัดถึงขนาดล้มล้างคดีความทุกคดี ที่มีที่มาจาก คตส. และยังสงวนสิทธิ์ ให้ผู้ที่ถูกยึดทรัพย์ มีสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์คืน ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่าน เงินจำนวนดังกล่าวก็จะถูกโอนไปบัญชี พ.ต.ท.ทักษิณ ทันที
ทั้งนี้ตามกฎหมายแพ่ง ที่มีสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ย หรือความเสียหายคืนร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็จะได้ดอกเบี้ยรวมประมาณ 1 .1หมื่นล้านบาท ดังนั้นยอดรวมที่จะได้ คือ 5 .7 หมื่นล้านบาท สิ่งเหล่านี้ เป็นกระบวนการทำลายประเทศไทยอย่างรุนแรงที่สุด
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อีกต่อไป คนเสื้อแดง ยังมองไม่ออกอีกหรือ เลือดทุกหยดที่เสียไป เพื่อแลกกับเงิน 5 .7 หมื่นล้านบาท ที่ต้องส่งคืน พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกศพที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ปี 2552-2553 กำลังจะตายฟรี หรือ เอา 99 ศพไปหาร 5.7หมื่นล้าน ก็จะตกศพละ 570 ล้าน ซึ่งตรงนี้ไม่ควรจะเรียกว่า กระบวนการยุติธรรม หรือนิติรัฐอีกต่อไป และถ้าสิ่งเหล่านี้ผ่านไป ประเทศไทยไม่สามารถเรียว่าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบนิติรัฐ หรือมีกระบวนการยุติธรรมได้
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าในอีก 1-2 วันนี้ นปช. ก็จะออกมาแถลงในลักษณะเล่นละคร ต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ เพราะเขารู้ว่า หากแกนนำคนเสื้อแดงในสภาจะคัดค้าน กฎหมายก็ผ่าน เพราะมีการนับมือ นับหัวกันแล้ว ตนแปลกใจว่า ถ้าคนเสื้อแดงจะถูกต้ม ถูกหลอกต่อไป โดยที่พวกท่านยังไม่รู้ตัว พรรคประชาธิปัตย์ จะต่อต้านกฎหมายฉบับนี้อย่างรุนแรง ทั้งใน และนอกสภา และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านวาระที่ 3 ในสภา การเคลื่อนไหวของประชาชน จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน เพราะตรงนี้คือ การออกมาแสดงจุดยืนของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
**ก.ม.นิรโทษฯ จุดชนวนเรียกแขกแรง 2 เท่า
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศระดมมวลชนหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงระวังไว้อยู่แล้ว อย่างที่บอก การพิจารณาขยายกำหนดระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย. สอดคล้องกับการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญๆเข้าสู่การพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการที่ศาลโลก นัดฟังคำตัดสินคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ พร้อมยอมรับว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป็นการจุดเชื้อเรียกแขกสองแรงบวก ถ้าไม่ระมัดระวัง ถือว่าอันตราย แม้เนื้อหาสาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะยังไม่ได้ข้อยุติก็ตาม แต่ในทางการเมือง ก็ถูกปลุกกระแสไปแล้วว่า ไม่ได้เป็นการนิรโทษกรรมอย่างเสมอภาค แต่เป็นการเอื้อตัวบุคคล ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า จากนี้ทุกกลุ่มที่ชุมนุมกันอยู่จะเชื่อมสัมพันธ์กันหมด โดยมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะที่แยกอุรุพงษ์ ที่ทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่มั่นในกรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกรณีจะมีการฟ้องร้องรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เกินเลย ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 นั้น เท่าที่ทราบกำลังจะมีการไปยื่นเรื่องร้องศาลปกครอง ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการฟ้องศาลแพ่ง ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาในเดือนธันวาคม ซึ่งทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันปฏิบัติตามกฎหมาย
**จี้ 'ปู' รับผิดชอบหากบ้านเมืองขัดแย้ง
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ... กล่าวถึงกรณีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า พรรคภูมิใจไทยมี กรรมาธิการ 2 คน คือ ตน และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ส่วนส.ส.ของพรรคจะมีความเห็นในการลงมติอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าสู่ที่ประชุมพรรคก่อน ทั้งนี้ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันมาตลอดว่า คดีบางคดีมันไม่ควรได้รับการยกเว้น รวมถึงการที่จะไปนิรโทษกรรมในเรื่องของการถูกกระทำโดย คตส. ซึ่งอยากถามว่าตรงนี้ผิดหลักการในความหมายของการนิรโทษกรรมหรือไม่
“พรรคแสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า การนิรโทษกรรมจะต้องเป็นการลดเงื่อนไขความขัดแย้ง ปัญหาคือ กฎหมายฉบับนี้ถ้าออกไปแล้ว จะตอบโจทย์ตรงนี้หรือไม่ ทั้งหมดรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ถ้านอกสภามีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ และกลายมาเป็นตัวเร่งให้เกิดการชุมนุม และเกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองรอบใหม่ จะมาบอกว่าเป็นร่างของ ส.ส.ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไม่ได้ ที่สำคัญถ้าเกิดอะไรขึ้นมา นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า การแก้ไขให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดทุกคดี จะยิ่งเป็นการทำให้เรียกมวลชนฝั่งตรงข้ามมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเพิ่มขึ้น ตนเห็นว่า การชุมนุมที่อุรุพงษ์ในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นหลักอะไร แต่จู่ๆ รัฐบาลมาเร่งรีบออกกฎหมายนิรโทษกรรม ออกมาในรูปแบบนี้ ก็จะเป็นเงื่อนไขให้คนออกมาชุมนุมมากขึ้น เพราะในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ก็จะมีการตัดสินคดีเขาพระวิหาร น่าเชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายพอสมควร และยิ่งมีเรื่องนี้เข้ามา เชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะเข้ามารุมเร้าประเทศมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมการให้ดี
** โพลชี้นิรโทษเป็นต้นเหตุขัดแย้งบานปลาย
เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง“ประชาธิปไตย”อำนาจของประชาชนหรือนักการเมือง กรณีศึกษาตัวอย่าง 1,488 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 - 19 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเมื่อสอบถามถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในอีก 1 เดือนข้างหน้า พบว่า 70.1% กังวลว่า สถานการณ์การเมืองจะรุนแรงขึ้น ขณะที่ 29.9% ระบุ ไม่กังวล
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ และการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่าเป็นประชาธิปไตยโดยประชาชน หรือประชาธิปไตยโดยการใช้อำนาจของฝ่ายการเมืองมากกว่า พบว่า 62.5 % คิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ และการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยโดยการใช้อำนาจของฝ่ายการเมืองมากกว่า ในขณะที่ 37.5% คิดว่าเป็นประชาธิปไตยโดยประชาชนมากกว่า
เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นต่อความเป็นกลางของกลไกทางด้านศาล 51.5% ไม่เชื่อมั่น และมี 48.5% ที่ยังเชื่อมั่น ขณะที่เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปว่าจะอยู่บนพื้นฐานความชอบธรรม 57.1% ไม่เชื่อมั่น และมี 42.9% ตอบว่า เชื่อมั่น
เมื่อถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย หรือไม่ 80.3% คิดว่าจะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย หากยังคงเดินหน้าต่อไปภายใต้ความขัดแย้ง ในขณะที่ร้อยละ 19.7 ไม่คิดเช่นนั้น
**ตร.ผู้น้อยโวยโดนงาบหัวคิวเบี้ยคุมม็อบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวว่าตำรวจที่มาควบคุมฝูงชนได้ค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 800 บาท ทำให้ตำรวจชุดปราบจลาจล อุทธรณ์ผ่านนักข่าวอย่างน่าสงสาร ว่า “พวกผมได้เบี้ยเลี้ยงกันแค่วันละ 300 บาท ส่วนข้าวก็ กะเพรา ไข่ต้ม นอนกันตามมีตามเกิดอยู่หลัง บชน.บ้าง อะไรบ้าง ฝากพี่นักข่าวช่วยถามหน่อยสิครับว่า เงินอีก 500 บาทหายไปไหน หล่นตรงระหว่างทางที่กระเป๋าใคร เพราะเห็นรองนายกฯ ให้ข่าวว่าใช้งบประมาณทั้งหมดถึง 206 ล้าน” ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากจังหวัดชลบุรี ระบายความในใจด้วยความอึดอัด
ขณะที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่เดินทางมาจาก จ.มุกดาหาร เปิดอกถึงเบี้ยเลี้ยงที่ตนเองได้รับว่าได้แค่ 250 บาทเท่านั้น โดยระบุว่าเป็นอัตราของตำรวจภาคอีสาน และอยากให้ช่วยถามนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เช่นเดียวกันว่า ส่วนต่างจาก 800 บาท หายไปไหน อีกทั้งยังระบุด้วยว่าไม่ได้อยากมาปราบปรามประชาชน แต่ต้องมาตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ตอบกระทู้สด ของนายวัชระ เพชรทอง สส.กทม.ปชป. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 17 ต.ค. 56 ที่ถามถึงความจำเป็นและเหมาะสมในการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในระหว่างวันที่ 8-19 ต.ค. 56 รวมถึงตัวเลขงบประมาณกับกำลังพลตำรวจ ในการดูแลผู้ชุมนุมในขณะนี้ว่าได้ใช้กำลังพลตำรวจเท่าที่จำเป็น 56 กองร้อย หรือประมาณ 2 หมื่นนาย มีกำลังพลสำรองอีกส่วนหนึ่ง ซงบประมาณที่ใช้จำนวน 206 ล้านบาท ถ้าเหลือจ่ายต้องส่งคืนคลัง อย่างไรก็ตามได้มีการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงไปจนถึงวันที่ 28 พ.ย.56 หรือต่อไปอีกถึง 30 วัน.
วานนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้ เดิม) เครือข่ายองค์กรภาคประชาชน นำโดย นายสุริยะใส กะตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม คปท., นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ประธานสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (สปท.), นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เสนาธิการร่วม กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) แถลงข่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะเงื่อนไข และปัจจัยทางการเมืองที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยน ทั้งกรณีปราสาทพระวิหาร ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยได้ย้ำจุดยืนของเครือข่าย คือการคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมจับตากรณีศาลโลกที่จะเตรียมพิจารณาคดีปราสาทพระวิหาร โดยในวันที่ 22 ต.ค. จะยื่นหนังสือถึงสถานทูตต่างๆ เพื่อชี้แจงถึงการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และที่ประชุมมีมตินัดประชุมใหญ่ของเครือข่าย ในวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. เวลา 09.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว รวมถึงกำหนดวันชุมนุมใหญ่ และหากศาลโลกมีคำตัดสินเป็นไปในทางลบ จนทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยนั้นรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งเครือข่ายจะออกมาเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุด นอกจากนี้จะมีการพิจารณาการตั้งองค์กรใหม่ ก่อนที่จะมีการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง แต่ยังไม่มีการแจ้งสถานที่ในการประชุมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแทรกแซงและการบังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาล
อีกด้านหนึ่งที่สี่แยกอุรุพงษ์ บรรยากาศการชุมนุมของ คปท. นั้นยังคงปักหลักชุมนุมอยู่เป็นวันที่ 11 โดยมีการปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของรัฐบาล สลับกับการแสดงดนตรี โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับสภาพอากาศไม่มีฝนตกเหมือนเช่นวันก่อน โดยในช่วงบ่าย มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และนักศึกษาอาชีวะส่วนหนึ่งไปรณรงค์ชักชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกอุรุพงษ์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน จะขึ้นเวทีปราศรัยในเวลา 20.00 น.
ด้านนายอุทัย แถลงข่าวประจำวัน ระบุว่า ในวันนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาจะออกไปรณรงค์ที่บริเวณสยาม เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่า คปท. ออกมาเรียกร้องและประท้วงเรื่องอะไร อีกทั้งยังให้ประชาชนรับรู้ถึงอำนาจของระบอบทักษิณ และผลกระทบที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย โดยยืนยันว่า คปท. คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม และจะนำไปสู่อำนาจเผด็จการ ซึ่งการนำกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภา เป็นการประกาศยึดประเทศของระบอบทักษิณ ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้ จึงขอค้านทุกกรณี อย่างไรก็ตามการชุมนุมของ คปท. จะใช้สันติวิธี ไม่ก่อความวุ่นวาย เรามีวุฒิภาวะมีการศึกษา ไม่เผาบ้านเผาเมืองแน่นอน
วานนี้ (20 ต.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส.ส.นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ใจความว่า การชุมนุมคัดค้าน กม.นิรโทษกรรม คาดว่า จะมีขึ้นประมาณวันที่ 6 พ.ย. 56 ซึ่งเป็นวันที่ "คาดว่า" รัฐบาลจะนำกม.นี้เข้าพิจารณาใน วาระที่ 3 (เว้นแต่รัฐบาลกลัว และเลื่อนออกไป) ในชั้นนี้ขอให้เตรียมความพร้อมไว้ในวันที่ 6 พ.ย. เป็นเกณฑ์ ใครต้องการรักษาความถูกต้อง ต้องการรักษาหลักนิติรัฐของประเทศไว้ ให้ประสานงานกับ ส.ส.ในพื้นที่หรือแกนนำได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และคิดว่า คงไม่ได้รับการต่อต้านจากคนเสื้อแดง เพราะแดงปัญญาชน และญาติของผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต ก็เตรียมจะแถลงคัดค้านกม.ฉบับนี้ด้วย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์หน้าทางพรรค และ 12 กลุ่มคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะหารือกันนอกรอบ โดยไม่เข้าที่ประชุมพรรค หลังจากมติ กมธ.ร่าง ดังกล่าว เห็นชอบให้นิรโทษฯ ทุกคน รวมแกนนำ เพราะพ.ร.บ.ฉบับนี้ ถือเป็นร่างทะลุซอยแบบชัดเจน ส่วนในรูปแบบการเคลื่อนไหวยังยึดหลักปราศจากอาวุธ และดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่าทั้ง 12 กลุ่ม มีความคิดเห็นเป็นเอกภาพ และมีการหารือกันมาโดยตลอด ไม่มีใครเป็นแกนนำใคร เพราะรูปแบบเป็นเหมือนกฐินสามัคคี และจะมีคปท.รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะคัดค้านร่างดังกล่าวในสภาและนอกสภาอย่างถึงที่สุด โดยไม่ยื่นองค์กรอิสระให้ตรวจสอบแล้ว เนื่องจากช้า และไม่ทันเวลาสำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว
** เทือกส่งสัญญาณให้คน ตจว.ยึดศาลากลาง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบนเวทีฝ่าความจริง ที่สนามหลวงสอง เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้สภาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยผลจากการพิจารณาของกรรมาธิการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รอดคุกทุกคดี รวมทั้งคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังหนีคดี แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องหนีอีกแล้ว เพราะทุกคดีจะเป็นหมันหมด นอกจากนี้ยังจะได้เงิน 43,000 ล้านคืน และดอกเบี้ยอีกหมิ่นกว่าล้านบาทด้วย นอกจากนี้บรรดาบริวารก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคน คนชุดดำที่ถูกจับได้และถูกขังคุกอยู่ซึ่งมี 8 คนก็จะหลุดหมดเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกคน วันนี้เขาแสดงให้เห็นแล้วว่ากฎหมายประเทศไทยทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขาอยู่เหนือกฎหมายทุกฉบับ
นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้จดรายชื่อกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้ง 18 คน ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขไว้ และจะคิดบัญชีข้างหน้า แต่ตนอยากบอก 3 ชื่อ คือ นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการ 2. นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ รองประธานกรรมาธิการ เป็นผู้เสนอข้อความที่แก้ไข และ 3. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ตนเจ็บปวดกับคนคนนี้มาก วันที่รัฐประหารบอกว่าทักษิณเลว แต่วันนี้่กลับยกมืออภัยให้ทักษิณทุกข้อกล่าวหา สิ่งที่เขาทำเป็นการล้มล้างหลักการปกครองบ้านเมือง ล้มหลักนิติธรรม
"ขอประกาศกับพี่น้องทั้งหลายว่า ผมได้ยินเสียงนกหวีดก้องอยู่ในหู ทั้งเวลาหลับเวลาตื่น ผมบอกกับพี่น้องว่า เราต้องลุกขึ้นพร้อมๆ กันทั้งประเทศ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องรักษาบ้านเมือง ขอซักซ้อมว่า ผมเคยบอกว่าจะเป่านกหวีดวันที่ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภา เราไม่ต้องรอให้ถึงวุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านสภาวาระ 3 วันไหน นั่นคือวันที่เราจะลุกขึ้นทั่วประเทศ และทันทีที่เสนอเข้าสภาฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. ผมก็จะประกาศถึงวัน ว. เวลา น. ที่เราจะลุกขึ้นทั้งประเทศ โดยจะประกาศล่วงหน้า 6-7 วัน และวันที่ลุกขึ้น ขอเป็นเช้าวันเสาร์ เพราะไม่ต้องการให้รถติด " นายสุเทพ กล่าว และว่า ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัด ได้ยินสัญญานเมื่อไหร่ ให้ลุกขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด คนต่างจังหวัดให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด เราจะไปยึดศาลากลางโดยสันติ ส่วนสถานที่ชุมนุมในกทม. จะนัดหมายในพื้นที่ ที่คนต่างจังหวัดเดินลงมาจากรถไฟได้ไม่ลำบาก แต่หากมีการบ้าอำนาจ มีการตีม็อบสวนลุมพินี ม็อบที่อุรุพงษ์ ให้มาทันที ไม่ต้องรอวาระ 3
" วันนี้ขอประกาศรับสมัครอาสารักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม คนที่เคยเป็นทหารเกณฑ์มาแล้ว เชิญมาสมัครได้ คนที่เป็น อปพร. เชิญมาสมัครได้ โดยให้สมัครที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกเขตเลือกตั้ง " นายสุเทพกล่าว
**กม.นิรโทษผ่านวาระ 3 ปชช.ลุกฮือแน่
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง มติกรรมาธิการเสียงข้างมาก มีมติแก้ไขให้กฎหมายนิรโทษกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง มาตรา 3 ที่เสนอ โดยนายประยุทธิ์ ศิริพานิช กรรมาธิการเสียงข้างมาก อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่เปลี่ยนแปลงหลักการ กฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับที่มีการเสนอเข้าสู่สภาฯ นั้นตนบอกได้ว่า ฉบับดังกล่าวไม่ใช่ฉบับสุดซอย แต่เป็นฉบับทะลุซอย เพราะนอกจากจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนคนเสื้อแดง แกนนำคนเสื้อแดง คนที่กระทำผิดคดีอาญา ยังเลยไปถึงแกนนำทุกรูปแบบ และเลยไปถึงคดีความการทุจริตคอร์รัปชัน และระบุชัดถึงขนาดล้มล้างคดีความทุกคดี ที่มีที่มาจาก คตส. และยังสงวนสิทธิ์ ให้ผู้ที่ถูกยึดทรัพย์ มีสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์คืน ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่าน เงินจำนวนดังกล่าวก็จะถูกโอนไปบัญชี พ.ต.ท.ทักษิณ ทันที
ทั้งนี้ตามกฎหมายแพ่ง ที่มีสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ย หรือความเสียหายคืนร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็จะได้ดอกเบี้ยรวมประมาณ 1 .1หมื่นล้านบาท ดังนั้นยอดรวมที่จะได้ คือ 5 .7 หมื่นล้านบาท สิ่งเหล่านี้ เป็นกระบวนการทำลายประเทศไทยอย่างรุนแรงที่สุด
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อีกต่อไป คนเสื้อแดง ยังมองไม่ออกอีกหรือ เลือดทุกหยดที่เสียไป เพื่อแลกกับเงิน 5 .7 หมื่นล้านบาท ที่ต้องส่งคืน พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกศพที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ปี 2552-2553 กำลังจะตายฟรี หรือ เอา 99 ศพไปหาร 5.7หมื่นล้าน ก็จะตกศพละ 570 ล้าน ซึ่งตรงนี้ไม่ควรจะเรียกว่า กระบวนการยุติธรรม หรือนิติรัฐอีกต่อไป และถ้าสิ่งเหล่านี้ผ่านไป ประเทศไทยไม่สามารถเรียว่าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบนิติรัฐ หรือมีกระบวนการยุติธรรมได้
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าในอีก 1-2 วันนี้ นปช. ก็จะออกมาแถลงในลักษณะเล่นละคร ต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ เพราะเขารู้ว่า หากแกนนำคนเสื้อแดงในสภาจะคัดค้าน กฎหมายก็ผ่าน เพราะมีการนับมือ นับหัวกันแล้ว ตนแปลกใจว่า ถ้าคนเสื้อแดงจะถูกต้ม ถูกหลอกต่อไป โดยที่พวกท่านยังไม่รู้ตัว พรรคประชาธิปัตย์ จะต่อต้านกฎหมายฉบับนี้อย่างรุนแรง ทั้งใน และนอกสภา และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านวาระที่ 3 ในสภา การเคลื่อนไหวของประชาชน จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน เพราะตรงนี้คือ การออกมาแสดงจุดยืนของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
**ก.ม.นิรโทษฯ จุดชนวนเรียกแขกแรง 2 เท่า
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศระดมมวลชนหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงระวังไว้อยู่แล้ว อย่างที่บอก การพิจารณาขยายกำหนดระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย. สอดคล้องกับการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญๆเข้าสู่การพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการที่ศาลโลก นัดฟังคำตัดสินคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ พร้อมยอมรับว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป็นการจุดเชื้อเรียกแขกสองแรงบวก ถ้าไม่ระมัดระวัง ถือว่าอันตราย แม้เนื้อหาสาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จะยังไม่ได้ข้อยุติก็ตาม แต่ในทางการเมือง ก็ถูกปลุกกระแสไปแล้วว่า ไม่ได้เป็นการนิรโทษกรรมอย่างเสมอภาค แต่เป็นการเอื้อตัวบุคคล ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า จากนี้ทุกกลุ่มที่ชุมนุมกันอยู่จะเชื่อมสัมพันธ์กันหมด โดยมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะที่แยกอุรุพงษ์ ที่ทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่มั่นในกรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกรณีจะมีการฟ้องร้องรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เกินเลย ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 นั้น เท่าที่ทราบกำลังจะมีการไปยื่นเรื่องร้องศาลปกครอง ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการฟ้องศาลแพ่ง ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาในเดือนธันวาคม ซึ่งทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันปฏิบัติตามกฎหมาย
**จี้ 'ปู' รับผิดชอบหากบ้านเมืองขัดแย้ง
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ... กล่าวถึงกรณีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า พรรคภูมิใจไทยมี กรรมาธิการ 2 คน คือ ตน และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ส่วนส.ส.ของพรรคจะมีความเห็นในการลงมติอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าสู่ที่ประชุมพรรคก่อน ทั้งนี้ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันมาตลอดว่า คดีบางคดีมันไม่ควรได้รับการยกเว้น รวมถึงการที่จะไปนิรโทษกรรมในเรื่องของการถูกกระทำโดย คตส. ซึ่งอยากถามว่าตรงนี้ผิดหลักการในความหมายของการนิรโทษกรรมหรือไม่
“พรรคแสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า การนิรโทษกรรมจะต้องเป็นการลดเงื่อนไขความขัดแย้ง ปัญหาคือ กฎหมายฉบับนี้ถ้าออกไปแล้ว จะตอบโจทย์ตรงนี้หรือไม่ ทั้งหมดรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ถ้านอกสภามีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ และกลายมาเป็นตัวเร่งให้เกิดการชุมนุม และเกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองรอบใหม่ จะมาบอกว่าเป็นร่างของ ส.ส.ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไม่ได้ ที่สำคัญถ้าเกิดอะไรขึ้นมา นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า การแก้ไขให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดทุกคดี จะยิ่งเป็นการทำให้เรียกมวลชนฝั่งตรงข้ามมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเพิ่มขึ้น ตนเห็นว่า การชุมนุมที่อุรุพงษ์ในขณะนี้ ยังไม่มีประเด็นหลักอะไร แต่จู่ๆ รัฐบาลมาเร่งรีบออกกฎหมายนิรโทษกรรม ออกมาในรูปแบบนี้ ก็จะเป็นเงื่อนไขให้คนออกมาชุมนุมมากขึ้น เพราะในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ก็จะมีการตัดสินคดีเขาพระวิหาร น่าเชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายพอสมควร และยิ่งมีเรื่องนี้เข้ามา เชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะเข้ามารุมเร้าประเทศมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมการให้ดี
** โพลชี้นิรโทษเป็นต้นเหตุขัดแย้งบานปลาย
เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง“ประชาธิปไตย”อำนาจของประชาชนหรือนักการเมือง กรณีศึกษาตัวอย่าง 1,488 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 - 19 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเมื่อสอบถามถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในอีก 1 เดือนข้างหน้า พบว่า 70.1% กังวลว่า สถานการณ์การเมืองจะรุนแรงขึ้น ขณะที่ 29.9% ระบุ ไม่กังวล
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ และการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่าเป็นประชาธิปไตยโดยประชาชน หรือประชาธิปไตยโดยการใช้อำนาจของฝ่ายการเมืองมากกว่า พบว่า 62.5 % คิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ และการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยโดยการใช้อำนาจของฝ่ายการเมืองมากกว่า ในขณะที่ 37.5% คิดว่าเป็นประชาธิปไตยโดยประชาชนมากกว่า
เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นต่อความเป็นกลางของกลไกทางด้านศาล 51.5% ไม่เชื่อมั่น และมี 48.5% ที่ยังเชื่อมั่น ขณะที่เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปว่าจะอยู่บนพื้นฐานความชอบธรรม 57.1% ไม่เชื่อมั่น และมี 42.9% ตอบว่า เชื่อมั่น
เมื่อถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย หรือไม่ 80.3% คิดว่าจะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย หากยังคงเดินหน้าต่อไปภายใต้ความขัดแย้ง ในขณะที่ร้อยละ 19.7 ไม่คิดเช่นนั้น
**ตร.ผู้น้อยโวยโดนงาบหัวคิวเบี้ยคุมม็อบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวว่าตำรวจที่มาควบคุมฝูงชนได้ค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 800 บาท ทำให้ตำรวจชุดปราบจลาจล อุทธรณ์ผ่านนักข่าวอย่างน่าสงสาร ว่า “พวกผมได้เบี้ยเลี้ยงกันแค่วันละ 300 บาท ส่วนข้าวก็ กะเพรา ไข่ต้ม นอนกันตามมีตามเกิดอยู่หลัง บชน.บ้าง อะไรบ้าง ฝากพี่นักข่าวช่วยถามหน่อยสิครับว่า เงินอีก 500 บาทหายไปไหน หล่นตรงระหว่างทางที่กระเป๋าใคร เพราะเห็นรองนายกฯ ให้ข่าวว่าใช้งบประมาณทั้งหมดถึง 206 ล้าน” ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากจังหวัดชลบุรี ระบายความในใจด้วยความอึดอัด
ขณะที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่เดินทางมาจาก จ.มุกดาหาร เปิดอกถึงเบี้ยเลี้ยงที่ตนเองได้รับว่าได้แค่ 250 บาทเท่านั้น โดยระบุว่าเป็นอัตราของตำรวจภาคอีสาน และอยากให้ช่วยถามนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เช่นเดียวกันว่า ส่วนต่างจาก 800 บาท หายไปไหน อีกทั้งยังระบุด้วยว่าไม่ได้อยากมาปราบปรามประชาชน แต่ต้องมาตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ตอบกระทู้สด ของนายวัชระ เพชรทอง สส.กทม.ปชป. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 17 ต.ค. 56 ที่ถามถึงความจำเป็นและเหมาะสมในการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในระหว่างวันที่ 8-19 ต.ค. 56 รวมถึงตัวเลขงบประมาณกับกำลังพลตำรวจ ในการดูแลผู้ชุมนุมในขณะนี้ว่าได้ใช้กำลังพลตำรวจเท่าที่จำเป็น 56 กองร้อย หรือประมาณ 2 หมื่นนาย มีกำลังพลสำรองอีกส่วนหนึ่ง ซงบประมาณที่ใช้จำนวน 206 ล้านบาท ถ้าเหลือจ่ายต้องส่งคืนคลัง อย่างไรก็ตามได้มีการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงไปจนถึงวันที่ 28 พ.ย.56 หรือต่อไปอีกถึง 30 วัน.
