xs
xsm
sm
md
lg

รถดับเพลิงโกงเหนือเมฆ ปูดข้อมูลเด็ด-ระบบครม.อันตราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(14 ต.ค.56) ที่อาคารจรูญสีบุญเรืองสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถนนราชบพิธ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)จัดเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง"คดีรถดับเพลิง...โกงเหนือเมฆ"จากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำตัดสินในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.)
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ปปช.) กล่าวตอนหนึ่งว่า คดีนี้ ไม่ได้เริ่มจากปปช. แต่เริ่มจากนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปัจจุบันเป็นส.ส.เพื่อไทย จ.มหาสารคาม) เป็นผู้ร้อง เพราะพบว่ามีการฮั้ว สินค้า (รถดับเพลิง) แพง และการจัดซื้อจัดจ้าง ผิด มติ ครม. แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่ได้สนใจ หรือไม่พยามป้องกัน โดยเฉพาะ เมื่อถึงตอนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่ากทม. ลงนาม ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีสื่อมวลชน ที่ร่วมแสวงหาข้อเท็จจริงด้วย และส่งข้อมูลมาให้ ปปช. คือนายวรวิทย์ นักข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และมาเป็นพยานในชั้นศาลให้ด้วย
ขณะที่นายยุทธพงษ์ ได้ร้องเรียนมายัง ปปช. เมื่อปี 2548 ปรากฏว่า ปปช.ขณะนั้นถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะถูกข้อหาขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง ทำให้เป็นเหตุ ว่า ทำไม คดีนี้จึงล่าช้า
ต่อมา ปี 2549 ปปช.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ และพบว่า อำนาจการหาข้อมูล อยู่ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ขณะนั้น แม้พบว่า จะแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ก็มีปัญหามากตรงประเด็น ว่า นายอภิรักษ์ จะถูกกล่าวหาด้วยหรือไม่ ปปช.จึงตั้งอนุกรรมการสอบสวนมีตนเป็นประธานอนุกรรมการฯ
นายวิชา กล่าวว่า ขณะนั้นสื่อมวลชนได้เข้ามาแจ้งกับตนว่า เขามีข้อมูลอีกมาก ขณะที่ตนในฐานะอนุสอบสวนฯได้เชิญสื่อมวลชนผู้นี้เข้ามาให้ถ้อยคำเป็นทางการกับ ปปช.ชุดใหญ่ และที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย
“พบว่า รถยนต์ (รถดับเพลิง) ทุกคันผลิตในเมืองไทยหมด แค่ตั้งราคาแบบ กรุงเวียนนา (ออสเตรีย) และเวียนส่งไปที่ ออสเตรียอีกที และบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (สไตเออร์ฯ) ก็มาขายให้ไทย นี่คือ ปมสำคัญที่สุด”ปปช.ผู้นี้กล่าว
นายวิชา กล่าวต่อว่า ข้อมูลทราบว่านายยุทธพงษ์ ได้บินไปออสเตรียเพื่อหาข้อมูลและหลักฐาน พบว่า บริษัทสไตเออร์ ไม่ได้ผลิตรถและเรือ และหยุดสายการผลิตอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ผลิตรถถัง และอุปกรณ์ในการรบเท่านั้น
“อยากบอกว่า คดีไหน ที่มีข้อมูลแบบนี้ โอกาสการลงโทษจะมีมากพอสมควร”ปปช.ผู้นี้ย้ำและว่า จนถึงปี 2551 ปปช. ได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนฯ อย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2552 สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แจ้งข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์มายัง ปปช. และปี 2553 ปปช. ได้สอบถามไปยังยังอสส. ที่ไม่ยอมฟ้องคดี จนถึงปี 2554 นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายความ ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมให้ ปปช. โดยคดีที่ปปช.ฟ้องเองก็เริ่มเข้าศาลฏีกาฯ ในปี25 55 และศาลฯ ก็ตัดสิน เมื่อวันที่ 10 ก.ย. จึงเห็นว่าไม่ได้ล่าช้า”
นายวิชา กล่าวด้วยว่า การไต่สวนมีผู้ถูกกล่าว 11ราย รวมทั้งบริษัทสไตเออร์ ขณะนี้ปปช.ได้ส่งข้อมูลมาให้ศาลฯ เพิ่มเติม กลังจาก ปปช.ชี้มูลคุณหญิงณัฐนนท์ ทวีสิน อดีตปลัดกทม. ที่ปปช.ชี้มูลความผิดร้ายแรง และกทม. มีคำสั่งไล่ออกแล้ว
“นักวิชาการ คนหนึ่ง ถูกตั้งเป็นที่ปรึกษา แต่ความไม่รู้จึงถูกทำให้ใช้เป็นเครื่องมือได้ และถูกป้อนคำสั่งว่า ให้ทำโครงการ ออกมาดีๆ พบว่า มีการปลอมหลักฐาน เพื่อเอาเข้าครม. และพบว่า เป็นความเร่งรีบมาก ซึ่งนักวิชาการคนนี้ เดินเข้ามาหาผม และบอกว่า ยอมตายเลย ข้อมูลที่เอามาให้ เป็นประโยชน์มาก ชี้ให้ดูเลยว่า ตรงไหน เป็นข้อพิรุธ”ปปช.ผู้นี้ชี้ข้อมูลเบื้องลึก
นายวิชา กล่าวว่า จากคดีนี้ ทำให้ตนเข้าใจได้ว่า ครม.ที่นำเรื่องเข้าที่ประชุม จะเป็นข้อมูลที่สอดไส้มาก ไม่มีเวลาอ่าน ไม่รู้หรอกว่า อะไร เป็นเอกสารจริงหรือปลอม ระบบการประชุมครม.ของเรา อันตรายมาก เป็นจุดอ่อนสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นวาระเสริมเข้าที่ประชุม ไม่ใช่วาระหลัก
ดังนั้น กระบวนการเช่นนี้ จะต้องมีการตรวจสอบสำคัญ คือ กระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะกระบวนการทุกๆ อย่าง ต้องผ่านครม. ทั้ง MOU / AOU / G2G ต้องผ่าน กระทรวงต่างประเทศก่อน
“ประเด็นสำคัญอยู่ที่ นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย ขณะนั้น ชงเอาเรื่องเข้าครม. ถ้าไม่มีนายโภคิน นายประชา มาลีนนท์ รมช.มหาดไทยขณะนั้น จะเอาเรื่องเข้าครม. ไม่ได้”
ปปช.ผู้นี้กล่าวต่อว่า หลักการทำ G2G ที่ถูกต้อง จะต้องไม่ระบุว่าจะเอา บริษัทไหน แต่ ครั้งนี้ ระบุชัดว่า เอา "สไตเออร์" จึงฮั้วชัดเจน ข้อตกลงนี้ ไม่ควรถือว่า เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ และต้องผ่านกระทรวงต่างประเทศ ดังนั้นข้อตกลงนี้จึงเป็นโฆษะ และมีผลที่ กทม. มีโอกาสไม่จ่ายเงินได้ด้วย เพราะขณะนี้ กทม. ได้เดินทางไปขึ้นศาลอนุญาโตตุลาการ และไทยก็มีโอกาสเรียกค่าเสียหายได้มโหฬาร
ดังนั้นเรื่องนี้ เป็นต้นแบบการศึกษาได้เลย เพราะการฮั้วนี้ ครบทั้ง 3 ฝ่าย คือ มีทั้งนักการเมือง ข้าราชการประจำ และนักธุรกิจ ร่วมหัวจม ท้ายและมีกระบวนการระหว่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย แต่ไม่ผ่าน จึงมีข้อพิรุธมาก
“ตอนนี้ เอารถออกจากท่าเรือไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจ่าย และจะตั้งเป็นค่าใช้จ่ายงบแผ่นดินก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในสัญญา จึงไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนจ่าย ตอนนี้ จึงมีความเสียหาย เกิดขึ้นตามมาด้วย ทั้ง ค่าภาษีอากร รวม 1,567 ล้านบาทเศษ บวกค่าเก็บรักษาสินค้า ที่ท่าเรือ 7 ล้านบาทเศษ บวกค่าเก็บรักษาอีก 524 กว่าล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 6,600 ล้านบาท เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น กับโครงการนี้ เวลาจะโกง คิดถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย"นายวิชากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น