รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในนั่งอยู่บนกองทรัพย์สินแผ่นดินเตรียมล้างผลาญ บ้านเมืองจะล้มละลายวอดวายก็ไม่ห่วง ขออย่างเดียวอย่าให้มีม็อบออกมาขับไล่ให้ตกจากอำนาจเร็วก่อนกอบโกยเกินความต้องการก็แล้วกัน
มวลชนกลุ่มไม่เอาบักเหลี่ยมและขี้ข้าสวนกลางแสกหน้า - ถ้ามีรัฐบาลเฮงซวย มีเสนาบดีกังฉินโกงกินทุกลมหายใจเข้าออกแบบนี้ จะปล่อยให้อยู่เอาไว้ทำอนุสาวรีย์ให้ถือหอกด้ามยาวโชว์ชาวบ้านหรืออย่างไร
ทุกวันนี้จะกิน ขี้ ปี้ นอน นักการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมเริ่มออกอาการหวาดผวา เห็นเค้าลางของสภาพสิ้นอำนาจ ต้องหลบหนีลี้ภัยไปต่างประเทศ รู้ดีว่าถ้าหมดวาสนา โอกาสติดคุกเนื่องจากคดีต่างๆ ทั้งฆ่าทหาร เผาเมือง โกงกิน
เห็นม็อบขับไล่ ต่อต้านรัฐบาล แม่นางโพยและขี้ข้าบักเหลี่ยมแทบสติแตก หาเหตุข้ออ้างต่างๆ ระดมตำรวจมาเป็นหมื่นๆ นาย ปิดเมืองไปแถบหนึ่งรอบทำเนียบฯ ก่อกำแพงสูงเกือบเท่ากำแพงเบอร์ลิน กลัวม็อบบุกเข้ายึด
กองทัพประชาชน-กองทัพธรรมย่องเงียบเข้ายึดข้างกำแพงทำเนียบฯ ก่อนนายกฯ จีนมาเยือน ทำเอาตำรวจน้อยใหญ่เต้นเป็นผีเข้า ยิ่งโดนบักเหลี่ยมล้งเล้งเรื่องความหละหลวม จึงต้องโชว์ความอาฆาตแค้นเกินระดับฝังหุ่น
นอกทำเนียบฯ มีม็อบของ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณไม่กี่ร้อยคน ถูกห้ามส่งน้ำ อาหาร รถสุขา ผู้เฒ่าคนชรา สมณะ พระ โดนตำรวจกดดันให้อดข้าว อดน้ำ จากที่เคยฉันเพียงหนึ่งมื้อ ก็ถูกแปรสภาพให้เป็นนักประท้วงอดอาหาร
แสดงความอำมหิตเลือดเย็นเกินกว่าความเป็นคน! ตำรวจทั้งหลายกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ทำตัวเนรคุณ ทรยศ! ก็เข้าใจ เพราะนายตำรวจใหญ่ทั้งหลายยังสยบกายเป็นขี้ข้า ให้บักเหลี่ยมคนหนีคุกประดับยศ
ช่วงปลอบให้ม็อบ กปท.ให้ย้ายออกไป อ้างว่าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศเมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาเยือน ให้คำมั่นว่าจะให้กลับมาชุมนุมใหม่ แต่ชาวบ้านรู้ว่าคำสัญญาจะเป็นจริงเมื่องาช้างงอกออกจากปากสุนัขขี้เรื้อน
ม็อบ กปท.ยอมย้ายไปสวนลุมฯ แต่มีกลุ่มใหม่ไปชุมนุมบริเวณถนนอุรุพงษ์ใต้ทางด่วนจำนวนเพิ่มขึ้นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำท่า “จุดติด” มุ่งเน้นการโค่นล้มระบอบทักษิณ และขี้ข้าบริวารชั่วร้ายขอปฏิรูปโครงสร้างบ้านเมือง
เท่านั้นเอง อาการกลัว “ขี้ขึ้นหัว” ก็หวนกลับไปรุมเร้าพวกแม่นางโพย ตำรวจยังไม่ได้กลับไปต่างจังหวัด รัฐบาลปอดแหกก็ประกาศปิดถนน 14 เส้นทาง 26 แยก สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน แต่ตำรวจจะอ้างม็อบชุมนุม
คนมีสติหูตาสว่างรู้ดีว่าข้ออ้างการคงอยู่ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้นไร้เหตุผล ผู้นำรัฐบาลจีนก็กลับประเทศไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุอื่นใดในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงต่อไป นอกจากรัฐบาลหุ่นเชิดของบักเหลี่ยมเป็นวัวสันหลังหวะ
รู้ตัวว่าได้กระทำความชั่วร้ายสารพัด ย่ำยีบ้านเมืองจนใกล้ล่มสลาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวเน่า โครงสร้างการเกษตรพินาศ หนี้สินครัวเรือน โกงกินคำโต ชาวบ้านทนไม่ได้ ต้องรวมพลังออกมาจัดการให้ตกจากอำนาจก่อนสายเกินไป
อยู่ในสภาพ “เงาหัวเริ่มจางหาย” รอวันถูกชำระโทษโดยประชาชน!
ทุกครั้งเมื่อม็อบเสื้อแดงถ่อยชุมนุมคุกคามศาลอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นใด รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ แม่นางโพยอ้างยิ้มเยิ้ม จ้อว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น
ฟังแล้วดูเหมือนดี! เมื่อม็อบแดงชุมนุม เคลื่อนขบวนรถไปตามถนนในเมือง ไม่เคยได้ยินตำรวจขี้ข้าบักเหลี่ยมออกมาแถว่าทำให้เกิดปัญหาจราจร แต่มีตำรวจขี่จักรยานยนต์นำขบวนอำนวยความสะดวกตระเวนรอบเมือง
การยืดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงให้ถึงวันที่ 18 และปิดถนนรอบทำเนียบฯ ยังไม่พอ พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมยังแย้มๆ อีกว่าอาจยืดการใช้กฎหมายความมั่นคงต่อไปถ้าม็อบ คปท.ที่อุรุพงษ์ยังคงปักหลักที่นั่น หรือมีท่าทีว่าจะบุกทำเนียบฯ
ความหวาดผวาแบบนี้เป็นอาการปกติของนักการเมืองใกล้สิ้นอำนาจ คำอธิบายเรื่องการปิดถนนเป็นการอ้างแบบเอาสีข้างเข้าถู ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปิดกั้นการแสดงออกในความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตย
แต่คนในรัฐบาลหน้าด้าน หน้าหนา ไร้ยางอาย ไม่รู้สึก! เป็นลักษณะของทุรชนคนทราม เอาแต่ได้ ไม่ยึดหลักกฎหมายถ้าพวกตัวเองเสียประโยชน์ ยกระดับเกินเผด็จการ กลายเป็นทรราชเอ๋อแอ๊บแบ๊วเน้นความสวยฉาบทา
เมื่อดูขนาดม็อบ คปท.แล้วยังต้องเหนื่อย รอให้จำนวนขยายตัว ซึ่งดูยากเย็นเมื่อยังมีไทยเฉย ไทยนิ่ง เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ประเทศใกล้วอดวายเพราะน้ำมือของนักการเมืองชั่ว! การดิ้นรนยื้ออยู่ในอำนาจของเครือข่ายบักเหลี่ยมย่อมใช้ทุกวิธี ทั้งกฎหมาย ละเมิดกฎหมาย กฎเถื่อน ใช้ม็อบอันธพาลคุกคาม
พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมรู้ดีว่าถ้าต้องสูญเสียอำนาจ จะเผชิญชะตากรรมอย่างไรรออยู่! ถ้าไม่อยากติดคุก ก็ต้องเผ่นหนีโทษ โอกาสจะได้อำนาจคืนซ้ำคงยากกว่าการหาบนไดไต่ขึ้นสวรรค์ อยู่ในสภาพไร้แผ่นดินเหมือนนายทาส
ก่อเวร สร้างบาปกรรมให้บ้านเมืองมากจนใกล้วันชดใช้กรรมแล้ว!
มวลชนกลุ่มไม่เอาบักเหลี่ยมและขี้ข้าสวนกลางแสกหน้า - ถ้ามีรัฐบาลเฮงซวย มีเสนาบดีกังฉินโกงกินทุกลมหายใจเข้าออกแบบนี้ จะปล่อยให้อยู่เอาไว้ทำอนุสาวรีย์ให้ถือหอกด้ามยาวโชว์ชาวบ้านหรืออย่างไร
ทุกวันนี้จะกิน ขี้ ปี้ นอน นักการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมเริ่มออกอาการหวาดผวา เห็นเค้าลางของสภาพสิ้นอำนาจ ต้องหลบหนีลี้ภัยไปต่างประเทศ รู้ดีว่าถ้าหมดวาสนา โอกาสติดคุกเนื่องจากคดีต่างๆ ทั้งฆ่าทหาร เผาเมือง โกงกิน
เห็นม็อบขับไล่ ต่อต้านรัฐบาล แม่นางโพยและขี้ข้าบักเหลี่ยมแทบสติแตก หาเหตุข้ออ้างต่างๆ ระดมตำรวจมาเป็นหมื่นๆ นาย ปิดเมืองไปแถบหนึ่งรอบทำเนียบฯ ก่อกำแพงสูงเกือบเท่ากำแพงเบอร์ลิน กลัวม็อบบุกเข้ายึด
กองทัพประชาชน-กองทัพธรรมย่องเงียบเข้ายึดข้างกำแพงทำเนียบฯ ก่อนนายกฯ จีนมาเยือน ทำเอาตำรวจน้อยใหญ่เต้นเป็นผีเข้า ยิ่งโดนบักเหลี่ยมล้งเล้งเรื่องความหละหลวม จึงต้องโชว์ความอาฆาตแค้นเกินระดับฝังหุ่น
นอกทำเนียบฯ มีม็อบของ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณไม่กี่ร้อยคน ถูกห้ามส่งน้ำ อาหาร รถสุขา ผู้เฒ่าคนชรา สมณะ พระ โดนตำรวจกดดันให้อดข้าว อดน้ำ จากที่เคยฉันเพียงหนึ่งมื้อ ก็ถูกแปรสภาพให้เป็นนักประท้วงอดอาหาร
แสดงความอำมหิตเลือดเย็นเกินกว่าความเป็นคน! ตำรวจทั้งหลายกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ทำตัวเนรคุณ ทรยศ! ก็เข้าใจ เพราะนายตำรวจใหญ่ทั้งหลายยังสยบกายเป็นขี้ข้า ให้บักเหลี่ยมคนหนีคุกประดับยศ
ช่วงปลอบให้ม็อบ กปท.ให้ย้ายออกไป อ้างว่าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศเมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาเยือน ให้คำมั่นว่าจะให้กลับมาชุมนุมใหม่ แต่ชาวบ้านรู้ว่าคำสัญญาจะเป็นจริงเมื่องาช้างงอกออกจากปากสุนัขขี้เรื้อน
ม็อบ กปท.ยอมย้ายไปสวนลุมฯ แต่มีกลุ่มใหม่ไปชุมนุมบริเวณถนนอุรุพงษ์ใต้ทางด่วนจำนวนเพิ่มขึ้นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำท่า “จุดติด” มุ่งเน้นการโค่นล้มระบอบทักษิณ และขี้ข้าบริวารชั่วร้ายขอปฏิรูปโครงสร้างบ้านเมือง
เท่านั้นเอง อาการกลัว “ขี้ขึ้นหัว” ก็หวนกลับไปรุมเร้าพวกแม่นางโพย ตำรวจยังไม่ได้กลับไปต่างจังหวัด รัฐบาลปอดแหกก็ประกาศปิดถนน 14 เส้นทาง 26 แยก สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน แต่ตำรวจจะอ้างม็อบชุมนุม
คนมีสติหูตาสว่างรู้ดีว่าข้ออ้างการคงอยู่ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้นไร้เหตุผล ผู้นำรัฐบาลจีนก็กลับประเทศไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุอื่นใดในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงต่อไป นอกจากรัฐบาลหุ่นเชิดของบักเหลี่ยมเป็นวัวสันหลังหวะ
รู้ตัวว่าได้กระทำความชั่วร้ายสารพัด ย่ำยีบ้านเมืองจนใกล้ล่มสลาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวเน่า โครงสร้างการเกษตรพินาศ หนี้สินครัวเรือน โกงกินคำโต ชาวบ้านทนไม่ได้ ต้องรวมพลังออกมาจัดการให้ตกจากอำนาจก่อนสายเกินไป
อยู่ในสภาพ “เงาหัวเริ่มจางหาย” รอวันถูกชำระโทษโดยประชาชน!
ทุกครั้งเมื่อม็อบเสื้อแดงถ่อยชุมนุมคุกคามศาลอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นใด รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ แม่นางโพยอ้างยิ้มเยิ้ม จ้อว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น
ฟังแล้วดูเหมือนดี! เมื่อม็อบแดงชุมนุม เคลื่อนขบวนรถไปตามถนนในเมือง ไม่เคยได้ยินตำรวจขี้ข้าบักเหลี่ยมออกมาแถว่าทำให้เกิดปัญหาจราจร แต่มีตำรวจขี่จักรยานยนต์นำขบวนอำนวยความสะดวกตระเวนรอบเมือง
การยืดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงให้ถึงวันที่ 18 และปิดถนนรอบทำเนียบฯ ยังไม่พอ พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมยังแย้มๆ อีกว่าอาจยืดการใช้กฎหมายความมั่นคงต่อไปถ้าม็อบ คปท.ที่อุรุพงษ์ยังคงปักหลักที่นั่น หรือมีท่าทีว่าจะบุกทำเนียบฯ
ความหวาดผวาแบบนี้เป็นอาการปกติของนักการเมืองใกล้สิ้นอำนาจ คำอธิบายเรื่องการปิดถนนเป็นการอ้างแบบเอาสีข้างเข้าถู ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปิดกั้นการแสดงออกในความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตย
แต่คนในรัฐบาลหน้าด้าน หน้าหนา ไร้ยางอาย ไม่รู้สึก! เป็นลักษณะของทุรชนคนทราม เอาแต่ได้ ไม่ยึดหลักกฎหมายถ้าพวกตัวเองเสียประโยชน์ ยกระดับเกินเผด็จการ กลายเป็นทรราชเอ๋อแอ๊บแบ๊วเน้นความสวยฉาบทา
เมื่อดูขนาดม็อบ คปท.แล้วยังต้องเหนื่อย รอให้จำนวนขยายตัว ซึ่งดูยากเย็นเมื่อยังมีไทยเฉย ไทยนิ่ง เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ประเทศใกล้วอดวายเพราะน้ำมือของนักการเมืองชั่ว! การดิ้นรนยื้ออยู่ในอำนาจของเครือข่ายบักเหลี่ยมย่อมใช้ทุกวิธี ทั้งกฎหมาย ละเมิดกฎหมาย กฎเถื่อน ใช้ม็อบอันธพาลคุกคาม
พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมรู้ดีว่าถ้าต้องสูญเสียอำนาจ จะเผชิญชะตากรรมอย่างไรรออยู่! ถ้าไม่อยากติดคุก ก็ต้องเผ่นหนีโทษ โอกาสจะได้อำนาจคืนซ้ำคงยากกว่าการหาบนไดไต่ขึ้นสวรรค์ อยู่ในสภาพไร้แผ่นดินเหมือนนายทาส
ก่อเวร สร้างบาปกรรมให้บ้านเมืองมากจนใกล้วันชดใช้กรรมแล้ว!