xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ฉะ รบ.ดูถูก ปชช.แต่ตื่นตัวใหญ่โตรับมือ ชี้ปัจจุบันสู้เสียงข้างมาก เพื่อ ปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.แจงสู้เพื่อ ปชต.ปัจจุบัน เปลี่ยนจากสู้กลุ่มนอกเลือกตั้งเป็น เสียงข้างมากลุอำนาจในสภา ชี้ได้ฉันทานุมัติ แต่ไม่ใช่ทำผิด กม. ปิดปากเห็นต่างได้ จี้รัฐรับผิดชอบตั้งกำแพงทำจราจรติดขัด รับ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ไม่ขัด รธน.เหตุใช้นอกที่ชุมนุม งงสบประมาท ปชช. แต่ตื่นตัวใหญ่โต เตรียมพบผู้นำสิงคโปร์ จ้อ ศก.ย้ำไทยพ้นวิกฤตหลายครั้ง จำนำข้าวตัววัดจะผ่านได้หรือไม่ แจงรัฐแกร่ง แต่ปิดปาก ปชช.จึงถูกประท้วง

วันนี้ (14 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในวาระวันครบรอบเหตุการณ์ 14 ตุลาว่า การต่อสู้ทางการเมืองเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เป็นการฝังรากของระบอบประชาธิปไตย ขึ้นในประเทศไทยที่ยังหวังจะเห็นทุกคนได้สานต่อเจตนารมณ์ที่บริสุทธิ์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในประเทศมีความสมบูรณ์ ทั้งรูปแบบ เนื้อหา และหลักการเคารพสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน แต่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยปัจจุบันไม่ได้สู้กับกลุ่มอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ต่อสู้กับเสียงข้างมากในสภาที่ใช้อำนาจไม่อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะรัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมากถือว่าได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน จึงมีความชอบธรรมในการผลักดันนโยบายต่างๆแต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้ทำผิดกฎหมายหรือจะปิดปาก ปิดหู ปิดตา คนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ซึ่งนักการเมืองจะต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่า ยืนอยู่ได้ด้วยการได้รับฉันทนุมัติจากประชาชน แต่ต้องเป็นการได้รับฉันทานุมัติด้วยวิธีการที่สุจริต และต้องมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ไม่ใช่มองการเลือกตั้งเป็นแค่พิธีกรรมที่หยิบยื่นอำนาจให้กับตัวเอง แล้วนึกจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเท่านั้น

ส่วนกรณีรัฐบาลมีการตั้งกำแพงสูงท่วมหัวปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภานั้น ตนไม่ทราบว่ารัฐบาลมีข้อมูลอะไรที่บ่งบอกว่าจะเกิดความรุนแรงถึงกับต้องใช้มาตรการเช่นนี้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วต้องรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นเพราะประชาชนที่มีปัญหาสัญจรไปมากำลังตั้งคำถามเช่นกัน แต่คิดว่าการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงไม่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 36 ว่าด้วยสิทธิ เสรีภาพของประชาชนเพราะไม่ได้ใช้ในพื้นที่ที่มีการชุมนุม

“ค่อนข้างแปลกใจนะครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วก็ว่ากันตามสิ่งที่ปรากฏตามสื่อนั้น เหมือนกับว่าทางฝ่ายรัฐนั้นค่อนข้างจะสบประมาทการชุมนุมอยู่หลายครั้งหลายหนว่า ไม่ได้มีพลัง ไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่ แต่ว่าขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ทำเหมือนกับเป็นเรื่องซึ่งใหญ่โตมากก็ดูขัดแย้งกัน ในด้านหนึ่งมักจะพูดว่าม็อบนี้ไม่ได้มีพลัง ไม่ได้อะไรมากมาย แต่ทำไมมาตรการที่ออกมานี้ดูจะใหญ่โตแล้วก็ทำให้หลายคนก็สงสัยว่า มันมีอะไรมากมายขนาดนั้น ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสัญจรไปมาในพื้นที่ในบริเวณรอบๆ ทำเนียบนี้ ต้องแปลกใจเพราะว่าเวลาปิดถนนนี้ก็อ้างว่ามีการชุมนุมอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ว่าเวลาไปแถวนั้นจริงๆ ไม่เห็นผู้ชุมนุมเท่ากับเห็นตำรวจ เพราะว่าผู้ชุมนุมซึ่งก็จำนวนไม่น้อยนะครับ ไม่ใช่ว่าจำนวนน้อย แต่เขาก็ปักหลักอยู่ เท่าที่ดูในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ บริเวณแยกอุรุพงษ์ ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนการเดินทางไป บรรยายที่สถาบัน IISS ที่สิงคโปร์ในวันนี้ (14 ต.ค.) เรื่องเศรษฐกิจการเมืองไทยโดยจะมีโอกาสได้พบกับนายกรัฐมนตรี แล้วก็รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ ซึ่งตนจะยืนยันว่า พื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และการเมืองไทยแม้จะมีความวุ่นวายยุ่งยากแต่ก็ได้แสดงออกถึงความแข็งแกร่งในการที่จะผ่านพ้นเหตุการณ์หรือวิกฤตการณ์ยากๆ มาได้หลายครั้ง แต่ว่าเราก็มีความเสี่ยงใหม่ที่เกิดขึ้นจากวิธีคิด แล้วก็นโยบายในบางเรื่อง โดยเฉพาะอย่างกรณีเรื่องจำนำข้าวก็เป็นอย่างหนึ่ง เพราะถูกสอบถามเยอะมากอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นตัวท้าทายว่าสังคมไทยจะสามารถหันกลับมาเพื่อรักษาจุดแข็งเดิมไว้ แล้วก็ผ่านพ้นปัญหายากๆ ไปได้อีกหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องการเมืองก็จะอธิบายว่าขณะนี้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง และมีสภา แต่ว่าการจำกัดพื้นที่ทางการเมืองของผู้คิดที่แตกต่างก็จึงเป็นเหตุที่มาของเรื่องของการประท้วงการชุมนุมแล้ววันนี้แน่นอนเพราะเขาก็ต้องถามว่า มีการใช้กฎหมายความมั่นคงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ปมประเด็นของความขัดแย้งมันอยู่ที่ไหนอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น