วันนี้เริ่มต้นด้วยภาษาปะกิต ถ้าแปลแบบง่ายๆ คือชะตากรรมได้กำหนดไว้ว่า “หายนะกำลังมาเยือน” และนี่คือสภาพของรัฐบาลโหล่ยโท่ยของแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน ซึ่งพยายามดิ้นรนอย่างหนักด้วยลวดลายลีลาท่วงท่า กลยุทธ์ต่างๆ ด้วยหวังว่าจะยื้อวันสิ้นสุดแห่งอำนาจทรราชฝึกงานให้นานออกไป
แม้สัญญาณแห่งความพินาศรออยู่โค้งหน้า ขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมยังแสดงความอหังการ ลำพองในอำนาจรัฐ กองกำลังตำรวจชุดขวัญชัย และอิทธิพลเถื่อนของม็อบเสื้อแดงถ่อย หวังจัดการม็อบต่อต้านและกลุ่มร้องทุกข์
ความยโส ไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตา ทำให้ข้าราชการแต่ทำงานให้บักเหลี่ยมในสภาพขี้ข้าอยากเอาใจนาย ไม่รู้จักแยกแยะว่าใครเป็นม็อบชาวบ้านทุกข์ร้อน ใครเป็นม็อบการเมือง ก็ใช้รูปแบบการใช้กำลังตำรวจเข้าข่ม
ถ้าการสำแดงพลัง ท่าทีเหี้ยมหาญ ไม่ทำให้ม็อบระย่อ ก็ตามด้วยการสลายด้วยกระบองจากเบาไปหาหนัก นึกว่าคนถูกรังแกไม่มีมือตีนสำหรับตอบโต้! คงเป็นเพราะได้ใจ ย่ามใจ ที่ไล่ทุบม็อบ เสธ.อ้ายกระเจิงกลางลานพระรูป
จากนั้นใช้อำนาจรัฐโชว์แสนยานุภาพกองกำลังตำรวจแท้และตำรวจเทียมขวัญชัย ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ปิดเมือง 10 วัน ไม่แยแสความเดือดร้อน ทั้งที่ไม่มีมวลชนมาคุกคาม เรียกร้องหน้าทำเนียบฯ หรือหน้ารัฐสภา
จุดเปลี่ยนดุลยภาพของพลังระหว่างกลุ่ม “เอาทักษิณ” และ “ไม่เอาทักษิณ” เริ่มปรากฏในหลายพื้นที่ ต่างมิติ ต่างกลุ่ม ต่างเป้าหมาย ก่อนถึงวาระรวมพลังขั้นสุดท้ายขับไล่รัฐบาลทรราชเอ๋อฝึกงานให้พ้นจากอำนาจรัฐ
ความผยองอำนาจของขี้ข้าทักษิณในการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กู้เงิน ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ไม่แยแสทุกข์ร้อนของประชาชน ทิ้งปัญหาให้เป็นวิกฤต ขาดดุลเงินสด 4 แสนล้านบาท ข้าวเน่าเต็มโกดัง หนี้สินพอกพูน แต่นางโพยยังสนุกกับการผลาญเงินท่องเที่ยวเมืองนอก
จุดเปลี่ยนน่าสนใจคือการยุติบทบาทอย่างเป็นทางการของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อให้มวลชนร่วมกันต่อสู้โดยไม่ต้องแสดงสีเสื้อให้เป็นเป้าหมายหลัก เป็นเพียงประชาชนทั่วไป ไม่เป็นจุดเด่น
มีทั้งกลุ่มกองทัพประชาชน หน้ากากขาว ประชาธิปัตย์ นอกเหนือจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการบ้านเมือง ไม่ทำตามสัญญา ดังจะเห็นได้จากม็อบชาวสวนยาง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด ฯลฯ
การลุกฮือของม็อบชาวสวนยางทั่วประเทศเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ การใช้ตำรวจขวัญชัยไล่ทุบตีชาวบ้านบาดเจ็บด้วยความย่ามใจโดยผู้ว่าฯ นครฯ เสื้อแดง ทำให้โดนตอบโต้ ทำให้ตำรวจต้องฉุกคิดว่าชาวบ้านก็มีมือตีนเช่นกัน นั่นเป็นอารมณ์ระอุหลังจากเห็นภาพตำรวจไล่ทุบตีชาวบ้าน อวดพลังหลายครั้ง
เมื่อม็อบสวนยางประกาศปิดประเทศ 3 ก.ย. ทำให้ตำรวจต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ว่าจะจัดวางกำลังอย่างไร แม้ได้รับเงินค่าทำขวัญหลังจากไล่ตีประชาชนจนบาดเจ็บ! ใครเจ็บมากหน่อยได้รับ 2.1 แสนบาท ใครเจ็บน้อยได้ 4 หมื่นกว่าบาท เป็นแรงจูงใจ ทำให้ตำรวจกล้าไล่ทุบชาวบ้านรอบใหม่
ชาวบ้านได้แต่คิด! ตำรวจตีชาวบ้านคนเสียภาษี ได้เงินค่าบาดเจ็บกว่า 2 แสนบาท แต่ชาวบ้านบาดเจ็บโดนคดีอาญา จ่ายเงินรักษาตัวเอง! สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ มองระบบทักษิณและทรราชเอ๋อเป็นตัวปัญหาบ้านเมือง
ดุลยภาพของโครงสร้างกำลังเปลี่ยนไป! ก่อนหน้านี้ม็อบไม่เอารัฐบาลต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว พึ่งพาใครไม่ได้ ตำรวจอยู่ข้างรัฐบาล กองทัพนิ่งเฉย ฝ่ายรัฐบาลมีกองกำลังเถื่อน ม็อบเสื้อแดงถ่อยคุกคามมวลชนประท้วงรัฐบาล
ไม่ว่าใครชุมนุมที่ไหน มีม็อบเสื้อแดงคอยป่วน คุกคามทำร้ายร่างกาย ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครองนิ่งเฉย ทำไม่รู้ไม่เห็น! ม็อบเสื้อแดงเป็นม็อบมีเส้น มีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไม่ยอมรักษากฎหมาย ดุลยธรรม แต่คุ้มหัวเสื้อแดง ขี่จักรยานยนต์นำขบวนเสื้อแดง อำนวยความสะดวกเมื่อจัดชุมนุม
การปะทะกับม็อบสวนยางที่ชะอวด การชุมนุมของกองทัพประชาชนเริ่มมีศักยภาพ เมื่อมีกองกำลังนักเรียนอาชีวะ ช่างกล ก่อสร้าง หลายสิบสถาบันเข้าร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณ เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม
ผลงานเป็นที่ประจักษ์เมื่อเย็นอาทิตย์ ไล่กระทืบม็อบเสื้อแดงเมื่อกลุ่มกวป.รนหาที่ไปป่วน ก็ได้รับบทเรียน ต้องหนีไปพึ่งตำรวจ จากในอดีตที่เคยรุมยำคนอื่น แต่คราวนี้หนีเหมือนสุนัขโดนน้ำร้อน! แต่ยังไม่ทิ้งนิสัยโจร
ม็อบสวนลุมฯ เกือบพร้อม ยังขาดแต่จำนวนมวลชน! เมื่อกลุ่มนักศึกษาอาชีวะสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง ย่อมมีคนอยากเข้าร่วมชุมนุม ทั้งยังจะมีกองกำลังดาวแดง มีประสบการณ์รบในป่าพร้อมรับมือกองกำลังเถื่อนติดอาวุธ หรือรับมือกับกองกำลังเจ้าหน้าที่รัฐถ้าเผชิญหน้ากัน
เค้าลางของความล่มจมของระบอบบักเหลี่ยมทำลายบ้านเมืองเริ่มชัด ถึงเวลานับถอยหลัง! การเมือง เศรษฐกิจ สังคมโดยประชานิยมกัดกินตัวเองเหมือนงูกินหาง! คำทำนายของหมอดูอีที โหรไทย ส่อเค้าจะเป็นจริงแล้ว!
แม้สัญญาณแห่งความพินาศรออยู่โค้งหน้า ขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมยังแสดงความอหังการ ลำพองในอำนาจรัฐ กองกำลังตำรวจชุดขวัญชัย และอิทธิพลเถื่อนของม็อบเสื้อแดงถ่อย หวังจัดการม็อบต่อต้านและกลุ่มร้องทุกข์
ความยโส ไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตา ทำให้ข้าราชการแต่ทำงานให้บักเหลี่ยมในสภาพขี้ข้าอยากเอาใจนาย ไม่รู้จักแยกแยะว่าใครเป็นม็อบชาวบ้านทุกข์ร้อน ใครเป็นม็อบการเมือง ก็ใช้รูปแบบการใช้กำลังตำรวจเข้าข่ม
ถ้าการสำแดงพลัง ท่าทีเหี้ยมหาญ ไม่ทำให้ม็อบระย่อ ก็ตามด้วยการสลายด้วยกระบองจากเบาไปหาหนัก นึกว่าคนถูกรังแกไม่มีมือตีนสำหรับตอบโต้! คงเป็นเพราะได้ใจ ย่ามใจ ที่ไล่ทุบม็อบ เสธ.อ้ายกระเจิงกลางลานพระรูป
จากนั้นใช้อำนาจรัฐโชว์แสนยานุภาพกองกำลังตำรวจแท้และตำรวจเทียมขวัญชัย ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ปิดเมือง 10 วัน ไม่แยแสความเดือดร้อน ทั้งที่ไม่มีมวลชนมาคุกคาม เรียกร้องหน้าทำเนียบฯ หรือหน้ารัฐสภา
จุดเปลี่ยนดุลยภาพของพลังระหว่างกลุ่ม “เอาทักษิณ” และ “ไม่เอาทักษิณ” เริ่มปรากฏในหลายพื้นที่ ต่างมิติ ต่างกลุ่ม ต่างเป้าหมาย ก่อนถึงวาระรวมพลังขั้นสุดท้ายขับไล่รัฐบาลทรราชเอ๋อฝึกงานให้พ้นจากอำนาจรัฐ
ความผยองอำนาจของขี้ข้าทักษิณในการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กู้เงิน ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ไม่แยแสทุกข์ร้อนของประชาชน ทิ้งปัญหาให้เป็นวิกฤต ขาดดุลเงินสด 4 แสนล้านบาท ข้าวเน่าเต็มโกดัง หนี้สินพอกพูน แต่นางโพยยังสนุกกับการผลาญเงินท่องเที่ยวเมืองนอก
จุดเปลี่ยนน่าสนใจคือการยุติบทบาทอย่างเป็นทางการของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อให้มวลชนร่วมกันต่อสู้โดยไม่ต้องแสดงสีเสื้อให้เป็นเป้าหมายหลัก เป็นเพียงประชาชนทั่วไป ไม่เป็นจุดเด่น
มีทั้งกลุ่มกองทัพประชาชน หน้ากากขาว ประชาธิปัตย์ นอกเหนือจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการบ้านเมือง ไม่ทำตามสัญญา ดังจะเห็นได้จากม็อบชาวสวนยาง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด ฯลฯ
การลุกฮือของม็อบชาวสวนยางทั่วประเทศเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ การใช้ตำรวจขวัญชัยไล่ทุบตีชาวบ้านบาดเจ็บด้วยความย่ามใจโดยผู้ว่าฯ นครฯ เสื้อแดง ทำให้โดนตอบโต้ ทำให้ตำรวจต้องฉุกคิดว่าชาวบ้านก็มีมือตีนเช่นกัน นั่นเป็นอารมณ์ระอุหลังจากเห็นภาพตำรวจไล่ทุบตีชาวบ้าน อวดพลังหลายครั้ง
เมื่อม็อบสวนยางประกาศปิดประเทศ 3 ก.ย. ทำให้ตำรวจต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ว่าจะจัดวางกำลังอย่างไร แม้ได้รับเงินค่าทำขวัญหลังจากไล่ตีประชาชนจนบาดเจ็บ! ใครเจ็บมากหน่อยได้รับ 2.1 แสนบาท ใครเจ็บน้อยได้ 4 หมื่นกว่าบาท เป็นแรงจูงใจ ทำให้ตำรวจกล้าไล่ทุบชาวบ้านรอบใหม่
ชาวบ้านได้แต่คิด! ตำรวจตีชาวบ้านคนเสียภาษี ได้เงินค่าบาดเจ็บกว่า 2 แสนบาท แต่ชาวบ้านบาดเจ็บโดนคดีอาญา จ่ายเงินรักษาตัวเอง! สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ มองระบบทักษิณและทรราชเอ๋อเป็นตัวปัญหาบ้านเมือง
ดุลยภาพของโครงสร้างกำลังเปลี่ยนไป! ก่อนหน้านี้ม็อบไม่เอารัฐบาลต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว พึ่งพาใครไม่ได้ ตำรวจอยู่ข้างรัฐบาล กองทัพนิ่งเฉย ฝ่ายรัฐบาลมีกองกำลังเถื่อน ม็อบเสื้อแดงถ่อยคุกคามมวลชนประท้วงรัฐบาล
ไม่ว่าใครชุมนุมที่ไหน มีม็อบเสื้อแดงคอยป่วน คุกคามทำร้ายร่างกาย ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครองนิ่งเฉย ทำไม่รู้ไม่เห็น! ม็อบเสื้อแดงเป็นม็อบมีเส้น มีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไม่ยอมรักษากฎหมาย ดุลยธรรม แต่คุ้มหัวเสื้อแดง ขี่จักรยานยนต์นำขบวนเสื้อแดง อำนวยความสะดวกเมื่อจัดชุมนุม
การปะทะกับม็อบสวนยางที่ชะอวด การชุมนุมของกองทัพประชาชนเริ่มมีศักยภาพ เมื่อมีกองกำลังนักเรียนอาชีวะ ช่างกล ก่อสร้าง หลายสิบสถาบันเข้าร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณ เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม
ผลงานเป็นที่ประจักษ์เมื่อเย็นอาทิตย์ ไล่กระทืบม็อบเสื้อแดงเมื่อกลุ่มกวป.รนหาที่ไปป่วน ก็ได้รับบทเรียน ต้องหนีไปพึ่งตำรวจ จากในอดีตที่เคยรุมยำคนอื่น แต่คราวนี้หนีเหมือนสุนัขโดนน้ำร้อน! แต่ยังไม่ทิ้งนิสัยโจร
ม็อบสวนลุมฯ เกือบพร้อม ยังขาดแต่จำนวนมวลชน! เมื่อกลุ่มนักศึกษาอาชีวะสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง ย่อมมีคนอยากเข้าร่วมชุมนุม ทั้งยังจะมีกองกำลังดาวแดง มีประสบการณ์รบในป่าพร้อมรับมือกองกำลังเถื่อนติดอาวุธ หรือรับมือกับกองกำลังเจ้าหน้าที่รัฐถ้าเผชิญหน้ากัน
เค้าลางของความล่มจมของระบอบบักเหลี่ยมทำลายบ้านเมืองเริ่มชัด ถึงเวลานับถอยหลัง! การเมือง เศรษฐกิจ สังคมโดยประชานิยมกัดกินตัวเองเหมือนงูกินหาง! คำทำนายของหมอดูอีที โหรไทย ส่อเค้าจะเป็นจริงแล้ว!
