พท.ปฎิเสธ “ยิ่งลักษณ์” ลอยตัวเหนือปัญหา อ้างให้พาณิขย์แจงโครงการจำนำข้าวเพราะมีข้อมูลดีที่สุดแล้ว พร้อมยันไม่ยุบสภาหลังงบฯปี 57 ผ่าน โยนแค่พวกปล่อยข่าว สั่งรับมือขบวนการล้มรัฐบาล แย้มสมุนเล็งตั้ง 100 เวทีทั่วประเทศชนฝ่ายต้านต้น มิ.ย. โดยมี ส.ส.พท.ร่วมด้วย ปัดส่งสาวกป่วน “มาร์ค” หาเสียงเขตดอนเมือง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อย่าลอยตัวเรื่องโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลตามนายอภิสิทธิ์ไม่ถูกเพราะเมื่อนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลงานใกล้ชิดก็บอกว่าล้วงลูก แสดงว่ามีผลประโยชน์ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรี มอบหมายงานให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปทำก็บอกว่าลอยตัว อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมสั่งการที่บ้านพิษณุโลก ก็บอกว่าก้นร้อน ขาลง ซึ่งสิ่งที่นายอภิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหานั้นตนมองว่าเป็นเกมการเมืองแบบเดิมๆ เพื่อลดความน่าเชื่อถือ ทั้งที่โครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่มีข้อมูลดีที่สุด
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศ ไม่เคยลอยตัวหรือเลี่ยงความรับผิดชอบ ซึ่งท่านให้ความสนใจในการติดตามแก้ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์เพราะนโยบายจำนำข้าวเป็นประโยชน์ต่อชาวนา
“ในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เคยทำโครงการประกันราคาข้าว มีชาวนามาก่อม็อบประท้วงทุกฤดูการผลิต แต่ยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้มีการประท้วง อีกทั้งผลสำรวจของอีสานโพล ก็เผยว่าคนอีสานใน 20 จังหวัดพอใจการแก้ปัญหาราคาข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงร้อยละ 61”
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมยุบสภาหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 57 ผ่านสภา และการโยกย้ายข้าราชการเสร็จสิ้นว่าไม่เป็นความจริง พรรคเพื่อไทยไม่มีความคิดแบบนี้ เป็นการปล่อยข่าว เคาะกะลาให้พวกต่อต้านรัฐบาลดีใจ อายุรัฐบาลยังเหลืออีก 2 ปี ไม่มีความจำเป็นที่จะยุบสภา ขนาดครึ่งทางรัฐบาลยังผลักดันวาระสำคัญของชาติได้มากขนาดนี้ จะยุบสภาให้ประเทศเสียโอกาสทำไม ในเมื่อเลือกตั้งใหม่พรรคเพื่อไทยก็ชนะเลือกตั้ง และพรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งอยู่ดี
ส่วนการเคลื่อนไหวจากหลายกลุ่มเพื่อหวังล้มรัฐบาลนั้น เป็นคนกลุ่มเดิมที่เคยกระทำกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เหมือนกงล้อหมุนวนกลับ แต่ครั้งนี้แค่เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ใส่หน้ากาก แต่ตัวละครทุกอย่างมากันเกือบครบทีม แต่ติดปัญหาที่คนน้อยเลยต้องเวียนเทียนแนวร่วม ตอนเช้าสวมหมวกดาวแดง บ่ายใส่หน้ากาก กลางคืนนอนเฝ้าเต็นท์สนามหลวง ผสมปนเปกันหมด ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ไปจนถึงแนวร่วมอื่นๆ
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตยต้องพร้อมรับมือทุกสถานการณ์อย่างมีสติ ไม่ประมาทด้วยแนวทางสันติวิธี เพราะมีความพยายามจะล้มรัฐบาลนี้ แต่จะไม่ง่ายเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา
“ผมทราบมาว่า ในเร็วๆ นี้อาจจะมีเวทีภาคประชาชนที่รับไม่ได้กับขบวนการดังกล่าว ออกมาต้านอำนาจนอกระบบ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง นับ 100 เวทีทั่วประเทศ ซึ่งเป็นในส่วนของภาคประชาชนที่ไม่ใช่คนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทย แต่แน่นอนว่าหากจะมีคนเสื้อแดงหรือส.ส.ของพรรคเพื่อไทยไปร่วมด้วยก็เป็นเรื่องปกติ คาดว่าจะเริ่มเวทีได้ในช่วงปลายเดือนมิ.ย. หรือต้นเดือนก.ค.นี้ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องคงจะมีการแถลงข่าวในเร็วๆ นี้”
นายอนุสรณ์ ยัง กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวพาดพิงรัฐบาลว่า มีความเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีผู้หญิงสวมเสื้อแดงตะโกนขับไล่ในขณะที่ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า บางทีการดราม่า ขอคะแนนสงสารก็ใช้ได้ผลในบางพื้นที่ ทั้งนี้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตะโกนขับไล่ดังกล่าว ถือเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล ซึ่งการออกมาพูดดังกล่าวอาจหวังผลให้เกิดผลกระทบต่อคะแนนเสียงของผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยขายนโยบาย ทำดอนเมืองให้เป็นประตูสู่กรุงเทพอย่างแท้จริง
“ถึงว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำ และ ส.ส.จากทั่วประเทศลงไปช่วยหาเสียงในพื้นที่อย่างหนักหลายรอบ ได้คะแนนเสียงตอบรับที่ดี แต่จากข้อมูลในพื้นที่เราก็ยังไม่สามารถวางใจได้เพราะคะแนนสูสี ดังนั้นในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคได้เพิ่มกลยุทธ์ เคาะประตูบ้าน ปูพรมเดินเท้า 9 เข้าหา คนดอนเมือง จะเดินให้มากขึ้น พร้อมกับเสริมกำลังหลักที่วางไว้ 9 ทีมเพิ่มอีก 3 เท่าเป็น 27 ทีม เพื่อขออีก 1 เสียงมาทำงานกับรัฐบาล”
