xs
xsm
sm
md
lg

พท.อ้างหน้ากากขาว-ไทยสปริง-ม็อบสนามหลวง กลุ่มเดียวกัน เดินสายยั่วยุให้รุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก พท. โยง กลุ่มหน้ากากขาว ไทยสปริง ม็อบสนามหลวง พวกเดียวกัน ระบุเดินสายเพื่อยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เรียกร้องอย่าจุดไฟหน้าฝน อ้างรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว พร้อมยกตำรวจสอบสวนคดี "เอกยุทธ" ตรงไปตรงมา โต้ "หมอพรทิพย์-อภิสิทธิ์" กล่าวหาตำรวจมั่ว ทำให้เสียกำลังใจ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการนัดชุมนุมออนไลน์ของกลุ่มไทยสปริง เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณและรัฐบาลในวันที่ 23 มิ.ย. ว่า ในวันนี้มีคำถามจากสังคมว่าตกลงกลุ่มไทยสปริง กลุ่มหน้ากากขาว และกลุ่มผู้ที่ชุมนุมอยู่ที่สนามหลวงเป็นพวกเดียวกันใช่หรือไม่ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ได้วิเคราะห์ชัดเจนแล้วว่ามีความเชื่อมโยงกันของกลุ่มดังกล่าวที่ออกมาต่อต้าน ตนคิดว่าชื่อกลุ่มไทยสปริงนั้นเรียกยาก ควรเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าไทยปลิง เพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลหรือกลุ่มอำมาตย์ดูดเลือดเนื้อคนไทย คนกลุ่มนี้จึงออกมาชุมนุมร่วมกันโดยช่วงเช้าจะสวมชุดดาวแดง ช่วงบ่ายจะใส่หน้ากาก และช่วงเย็นจะมานอนเฝ้าเต้นท์ที่สนามหลวง

แต่สิ่งที่เราไม่สบายใจคือการกชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวที่ จ.เชียงใหม่ และมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน ซึ่งในเรื่องนี้ตนอยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 3 กลุ่มว่าหากจะชุมนุมโดยใส่หน้ากากขาวหรือจะถอดหน้ากากก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่รัฐบาลกังวลใจไม่ปรารถนาจะเห็นความรุนแรง ดังนั้นกลุ่มใดก็ตามจะไปแสดงการต่อต้านใดๆ ต้องระมัดระวังว่าชีวิตจริงบนท้องถนนไม่เหมือนกับโลกไซเบอร์ เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นอย่ากระทำการใดๆ ที่เป็นการยั่วยุ

ทั้งนี้ตนขอเสนอว่าแทนที่กลุ่มหน้ากากขาวจะเดินสายยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ควรรณรงค์และเรียกร้องพรรคการเมืองต่างๆ ประกาศนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ หรือเดินสายติดอาวุธทางปัญญาแลกเปลี่ยนกับประชาชนว่านโยบายใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า อย่างไรก็ตามอยากฝากถามกลุ่มคนเหล่านี้ว่ามีจุดยืนในการทำรัฐประหาร และจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างไร และควรจะประกาศชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ ขอร้องว่าอย่าไปจุดไฟหน้าฝน หรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพราะโอกาสการเผชิญหน้าอาจจะเป็นกรณีน้ำผึ้งหยดเดียวก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางการปรามคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านกลุ่มหน้ากากขาวบ้างหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การกระทำใด ๆ ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการยั่วยุหรือไม่ หากเดินหน้าต่อ จากนี้ไปไม่จำเป็นต้องมีเฉพาะคนเสื้อแดง อาจจะเป็นกลุ่มอื่น เช่นกลุ่มคนเสื้อหลากสี หรือกลุ่มใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางและไม่เชื่อกับความคิดเห็นของท่านก็จะมีการออกมาต่อต้านแบบนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลทุกกลุ่มในการออกมาแสดงความเห็นจุดยืนทางการเมือง แต่จะต้องไม่เป็นไปในลักษณะล่วงละเมิดต่อผู้อื่นและเลยกรอบกฎหมายกำหนด การล่วงละเมิดไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใดหากผิดต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

“รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่สบายใจและกังวลในทุกครั้งที่มีการปะทะกันของกลุ่มประชาชน ไม่ว่าจะกลุ่มหน้ากากขาวหรือเสื้อสีใดก็ล้วนเป็นคนไทย เป็นพี่น้องร่วมชาติ ดังนั้นการกระทำใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นน้ำผึ่งหยดเดียว ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปะทะอย่างรุนแรงและการเผชิญหน้า ไม่ว่าจะกลุ่มใดต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ และผมไม่เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไปทำอะไรใครก็ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด”

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของเว็ปไซด์ไทยอินไซเดอร์ ว่า ความคืบหน้าในคดีมีความชัดเจนแล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คลี่คลายคดี แต่หลายภาคส่วนสามารถแสดงความสงสัยได้ แต่การแสดงความเห็นผ่านสื่อต้องระมัดระวัง เช่นกรณีของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงยุติธรรม อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้แสดงความคิดเห็นในคดีดังกล่าว แต่อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหมดกำลังใจ

ทั้งนี้ตนเห็นว่าเมื่อกล้าออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อแล้ว เวลาที่พนักงานสอบสวนเชิญไปให้ข้อมูล ก็ต้องกล้าไปให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ใช่แสดงความเห็นเสร็จพอเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือ กลับออกมาบอกว่าไม่มีอำนาจและไม่มีหน้าที่ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ การกระทำแบบนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งและประชาชนก็เกิดความสงสัยว่าการแสดงท่าทีกังขาดังกล่าว มีวาระแอบแฝงเพื่อทำลายล้างกลุ่มใดทางการเมืองหรือไม่

"คดีนี้มีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แต่ทุกคนก็มีสิทธิสงสัยได้ เมื่อสงสัยผ่านสื่อแล้วต้องรับผิดชอบและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อสงสัยของท่านนั้นคลี่คลายไปด้วย"
กำลังโหลดความคิดเห็น