xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบคึกหน้ากากขาวแจม ขาสั้นขึ้นเวทีคปท. ผวาปิดถนน14สาย26ด่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บรรยากาศ คปท.ชุมนุมคึกคักที่แยกอุรุพงษ์ โดยจะมีกลุ่มหน้ากากขาว อาชีวะ นักเรียนเข้าร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีก่อนที่ประชาชนจะทยอยมาสมทบจนคึกคักในช่วงค่ำ ส่วนลุงลองขึ้นเวทีสวนลุมฯ ขณะที่ บช.น.สุดเว่อร์สั่งปิดถนน 14 เส้นทางหลัก รวม 26 ด่านรอบทำเนียบฯ หวั่นม็อบเดินทางปักหลักชุมนุม พร้อมตั้งจุดตรวจเข้มห้ามยานพาหนะทำให้การจราจรติดหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์เย็นวานนี้ (13 ต.ค.) ว่า เป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มหน้ากากขาวประมาณ 200-300 คน นักเรียนอาชีวะและนักเรียนระดับมัธยมทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนช่วงค่ำกลุ่มผู้ชุมนุมได้เต็มพื้นที่ปราศรัยบริเวณแยกอุรุพงษ์ ส่วนด้านบนเวทีปราศรัยตัวแทนคนรุ่นใหม่ได้ขึ้นเวทีก่อนร้องเพลงสื่อถึงความรักสามัคคีของคนในประเทศ พร้อมสลับกับการปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อแสดงพลังให้ทุกคนรับรู้ ซึ่งได้เสียงตอบรับจากประชาชนทั่วบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ นักเรียนที่เข้าร่วมมาจากวิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา กลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เทคโนโลยีปทุมธานี กลุ่มอาชีวะสัมพันธ์ เทคโนโลยีดุสิต รามอินทรา โดยตัวแทนของแต่ละกลุ่มวิทยาลัยและโรงเรียนได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานและนโยบายของรัฐบาล พร้อมกับกล่าวว่าจะดูแล และรักษาความปลอดภัยให้ สร้างความคึกคักให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก

ส่วนที่สวนลุมพินี นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า กปท.จะไม่สลายผู้ชุมนุมที่สวนลุมพินี เพื่อไปรวมตัวกับ คปท. ที่ชุมนุมอยู่แยกอุรุพงษ์แต่อย่างใด แกนนำก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน เพียงแต่ต้องการทำตามแนวทางหรืออุดมการณ์ของแต่ละกลุ่มเท่านั้น แต่ยืนยันว่ามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ

"ขณะนี้กำลังประสานกับเครือข่ายต่างจังหวัด ก่อนกำหนดวันเดินทางเข้าไปปักหลักที่ข้างทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยจะใช้วิธีสันติวิธีและไม่ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด โดยในวันที่ 14 ต.ค. กปท. จะประกาศระดมพลครั้งใหญ่ นัดหยุดงานทั่วประเทศ โดยจะมีการระบุเวลาและสถานที่นัดหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง จึงประกาศไว้ให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมไว้ก่อน และให้สอดคล้องกับวันครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา 2516 ด้วย เพราะถึงเวลาแล้วที่มวลชนจะลุกขึ้นมาจะต้องแก้ปัญหาของประเทศ"

ขณะเดียวกันเย็นวานนี้ (13 ต.ค.) พลตรีจำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางมายังสวนลุมพินี เพื่อขึ้นเวทีปราศรัย

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า จะยังไม่ประกาศขยายพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยจะประเมินจากสถานการณ์การชุมนุมเป็นรายวัน โดยยังเน้นการใช้การเจรจา ขอให้ผู้ชุมนุมย้ายพื้นที่การชุมนุม เพราะการชุมนุมบริเวณนี้กีดขวางการจราจร ซึ่งผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนน

***ตร.สุดเวอร์ปิดถนน 14 สาย 26 ด่าน

วานนี้ (13 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลว่า แนวทางสืบสวนทางการข่าว ระบุว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวจะเดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามประกาศตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นในภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปราบปรามระงับยับยั้งและแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ ประกอบกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้มีประกาศฉบับที่ 2/2556 เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ดังนั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงมีความจำเป็นที่จะห้ามใช้เส้นทางคมนาคม 14 เส้นทาง ดังต่อไปนี้ ประกอบด้วย 1.ถนนราชสีมา ตั้งแต่แยกสวนรื่นฤดี ถึงแยกประชาเกษม 2.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกยมราช 3.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า 4.ถนนลิขิต 5.ถนนพระราม5 ตั้งแต่ สะพานอรทัย ถึงแยกสุโขทัย

6.ถนนสุโขทัย ตั้งแต่แยกสวนรื่นฤดี ถึงแยกสุโขทัย 7.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึงแยกราชวิถี 8.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระรูป ถึงแยก จปร.9.ถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกสะพานวิศนุกรรมนฤมาน (ถนนลูกหลวงตัดถนนราชสีมา) ถึงสะพานเทวกรรม (ถนนลูกหลวงตัดถนนนครสวรรค์) 10.ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงถนนราชวิถี 11.ถนนนครสวรรค์ ตั้งแต่แยกพิษณุโลก ถึงสะพานเทวกรรม 12.ถนนศรีอยุธยา ตั้งแตกแยกวัดเบญจมบพิตร ถึงแยกกองพล 1 13.ถนนนครปฐม 14.ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกประชาเกษม ถึงเทวกรรม ซึ่งเส้นทางทั้งหมดจะดำเนินการปิดตั้งแต่เวลา 14.00 น.ของวานนี้ (13 ต.ค.) เป็นต้นไป พร้อมตั้งจุดตรวจเข้มงวดห้ามรถยนต์ หรือบุคคลใดผ่าน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อาทิ ประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ในเส้นทาง หรือข้าราชการหากจะเข้าสถานที่ราชการสำคัญก็จะต้องแสดงบัตรให้ชัดเจน ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นจะห้ามไม่ให้ผ่านเข้ามาในเส้นทางดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่จะกั้นแผงเหล็กและใช้กำลังเจ้าหน้าที่ยืนควบคุมแต่ละจุดอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ทางการข่าวสืบทราบว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัด ทยอยเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย และกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม หากปล่อยปละละเลยเกรงว่าจะเป็นปัญหาจึงได้สั่งปิดถนนทั้ง 14 เส้นทางดังกล่าว

**เตือนรัฐบาลอย่าใช้อำนาจบีบ คปท.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาาณ์หลังจากเปิดโครงการรักษาต้อกระจก ที่โรงเรียนวัดดอนเมือง ที่จัดโดยนายแทนคุณ จิตอิสระ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และ นางกนกนุช นาคสุวรรณภา ส.ก. ดอนเมือง โดยมีประชาชนเข้าร่วมโครงการอย่างคึกคัก และมีแพทย์จากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว องค์การมหาชนมาให้บริการ

โดยภายหลังการเปิดโครงการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคปท.ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ว่า เป็นการชุมนุมของประชาชน อยากให้การปฏิบัติของทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐและประชาชน เลี่ยงสิ่งที่จะเกิดความรุนแรง และปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ต้องดูแลไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เช่น สามารถเจรจากับผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบฯให้ยุติลงได้ด้วยดีแทน แต่ถ้าใช้อำนาจเข้าไปบังคับ จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนอัดอั้นตันใจ เกิดการชุมนุมมากขึ้น จึงขอให้เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน และคำนึงถึงความสงบสุขเรียบร้อยของบ้านเมือง นอกจากนี้ กรณีที่มีการโยนระเบิดเพลิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องคอยป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การที่นายกฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามอ้างว่า ผู้ชุมนุมไม่ควรปิดถนนเพราะเป็นการกีดขวางการจราจร เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็อยากให้ปฏิบัติเสมอภาคกันกับผู้ชุมนุมอื่นๆ เพราะเคยมีผู้ชุมนุมที่อยู่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เคลื่อนไหวมาที่หน้ารัฐสภา โดยเจ้าหน้าที่ปล่อยอิสระ ปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน และอยากให้รัฐบาลตระหนักว่า ปัญหาการชุมนุมจะเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีการปิดพื้นที่ไม่ให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็นอย่างอิสระในทางการเมือง หรือปิดพื้นที่ในการตรวจสอบ และมีการใช้อำนาจโดยมิชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองปรากฏการณ์ที่สี่แยกอุรุพงษ์อย่างไร เพราะแกนนำประกาศยุติการชุมนุมกับสวนลุมฯ แล้ว แต่มวลชนกลุ่มหนึ่งกลับไม่ยอมจนเกิดกลุ่มคปท.ขึ้น และยังมีประชาชนหลั่งไหลไปที่แยกอุรุพงษ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องตระหนักว่ามีกลุ่มคนที่ไม่พอใจการกระทำของรัฐบาล โดยเฉพาะในประเด็นที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ไม่ได้ดำเนินนโยบายเพื่อประชาชน ถ้ารัฐบาลระเว้นสิ่งเหล่านี้ได้ ก็เชื่อว่าการทำงานและการดำรงอยู่ของรัฐบาลจะไม่มีปัญหา ซึ่งตนไม่อยากให้มองว่า การชุมนุมจุดติดหรือล้มเหลว เพราะไม่อยากมีการมาถกเถียงเรื่องนี้ แต่รัฐบาลควรจะตระหนักว่า มีมวลชนกล้าที่จะบอกกับรัฐบาลว่า ให้หยุดการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถ้ารัฐบาลยอมรับฟัง และทบทวนพฤติกรรมตัวเอง ทุกอย่างก็จะเดินหน้าได้

เมื่อถามว่ามองอย่างไร ที่ตำรวจทำตัวเสมือนกองกำลังส่วนตัวของรัฐบาลมากกว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และปัญหาจะบานปลายถึงขั้นในอนาคตตำรวจไม่กล้าใส่เครื่องแบบเหมือนในอดีตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ตำรวจคำนึงถึงความสงบ ป้องกันอย่าให้เกิดความรุนแรงลุกลามออกไป ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดการปฏิปักษ์กันระหว่างเจ้าหน้าที่ กับประชาชน ดังนั้นหากปฏิบัติต่อกันด้วยวิธีถ้อยอาศัย เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกันประชาชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เคารพสิทธิ์ของประชาชนก็จะไม่มีปัญหา

รัฐบาลต้องทบทวนพฤติกรรมตัวเอง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลอยตัวอยู่เหนือความรับผิดชอบแล้วโยนทุกอย่างให้ตำรวจไม่ได้ แต่ต้องตอบสนองต่อประเด็นข้อเรียกร้องของประชาชนบ้าง เพราะในขณะนี้ ปมความขัดแย้งยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกฯ เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น การเร่งรัดทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาคุณสมบัติ ส.ว. ทั้งที่ยังมีปัญหาค้างที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เหล่านี้ล้วนเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น