การชุมนุมของกลุ่ม คปท.ที่แยกอุรุพงษ์ ขึงตาข่ายป้องเวทีปราศรัย หวั่นซ้ำรอยปาบึ้ม นายก อศ.มร.เผยเตรียมแผนสู้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ แต่อุบไว้ก่อน ท้าเอาตำรวจจับก็เชิญ ยืนยันไม่มีคนของพรรคการเมืองเอี่ยว เผย บช.น.ส่งคนมาเจรจาการชุมนุม ปฏิเสธแย่งซีน กปท.สวนลุมฯ เผยเพราะผู้ชุมนุมต้องการปักหลักที่ใหม่ ไม่อยากกลับไปอีกแล้ว
วันนี้ (11 ต.ค.) บรรยากาศการชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่แยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 ซึ่งแยกตัวจากกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เมื่อวานนี้ ล่าสุดหน่วยการ์ดรักษาความปลอดภัย ได้นำผืนตาข่ายสีเขียวมาขึงสะพานลอยจนถึงเต็นท์ด้านหลังรถติดเครื่องขยายเสียงดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัย เพื่อป้องกันการถูกปาสิ่งของหรือสิ่งอันตราย หลังจากเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบปาระเบิดเพลิงเข้ามาในเต็นท์พื้นที่ชุมนุม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมในช่วงบ่าย ยังมีการปราศรัยจากแกนนำ คปท.สลับกับการแสดงดนตรี โดยมีมวลชนเริ่มทยอยมาร่วมชุมนุมเป็นระยะ ขณะเดียวกันในพื้นที่ห่างจุดชุมนุม 100 เมตร บริเวณแยกอุรุพงษ์ ทางถนนพระราม 6 ขาออก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งเต็นท์ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าอุรุพงษ์ เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยในพื้นที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดช่องจราจรจำนวน 2 ช่องจราจรสวนทางในถนนพระราม 6 ขาออก เพื่อให้รถยนต์ที่จะใช้ถนนพระราม 6 ขาเข้า มุ่งหน้าแยกตึกชัยใช้เส้นทางนี้แทน
นายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) พรรคสานแสงทอง ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม คปท.ให้สัมภาษณ์ว่า หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่เขตราชเทวีเพิ่มเติม ขณะนี้ทาง คปท.ก็มีการประชุมเพื่อเตรียมมาตรการไว้แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยจะแจ้งให้ทราบบนเวทีอีกครั้ง และตอนนี้ไม่กังวลต่ออำนาจใดๆ พร้อมจะออกมานำประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนเป้าหมายชุมนุมนั้น จะปักหลักชุมนุมที่นี่ไปเรื่อยๆ หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ก็ให้มาจับที่นี่ จะไม่มีอารยะขัดขืน เพราะพวกเรายืนยันทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ต่อมาเวลา 16.15 น.นายอุทัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพิ่มเติมในรายการหอกระจายข่าว ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี กล่าวถึงเหตุผลในการเคลื่อนไหวว่า เนื่องจาก อศ.มร.ได้ชุมนุมกับ กปท.ที่ทำเนียบรัฐบาล แล้วภายหลังได้ไปปักหลักที่สวนลุมพินี ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไปรวมตัวกันที่สนามม้านางเลิ้ง และอารมณ์ร้อน จะเดินลุยไปทำเนียบรัฐบาล โดยไม่สนใจแกนนำแล้ว หากเป็นเช่นนั้นผู้ชุมนุมจะได้รับบาดเจ็บ และทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจขอเป็นองค์กรร่วมกับผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เอาด้วย จึงได้มีการพูดคุยและปรึกษาหารือกระทั่งปักหลักที่สี่แยกอุรุพงษ์
นายอุทัย ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของพวกตนไม่เห็นคนของพรรคประชาธิปัตย์คนไหนแม้แต่คนเดียว มีแต่ผู้ชุมนุมที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของรัฐบาล ทุกครั้งที่นักศึกษารามคำแหงเคลื่อนไหวเรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาพืชผลทางการเกษตร ราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ตนจะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามทุกครั้งว่าไปรับเงินจากพรรคฝ่ายค้านทุกครั้ง ตนเห็นว่าไม่ว่ารัฐบาลพรรคไหนก็ตามแต่บริหารประเทศไม่ดี ตนในฐานะที่เป็นนายก อศ.มร.จะมาเคลื่อนไหวทุกรัฐบาล ส่วนข้อกล่าวหาการชิงการนำที่สวนลุมพินีนั้น ตนไม่เคยไปขึ้นเวทีปราศรัยที่สวนลุมพินีแม้แต่ครั้งเดียว ตนได้ไปร่วมกันที่สามแยกนางเลิ้ง เพราะผู้ชุมนุมมีแต่จะออกมาช่วยด้วยซ้ำ เพราะผู้ชุมนุมไม่พอใจหลายๆ คน ที่อยู่สวนลุมพินี ซึ่งตนไม่อยากเอ่ยนามเพราะเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ชุมนุม
“ที่พี่น้องประชาชนมาร่วมกันอยู่ตรงนี้ มีความเห็นก็เพราะต้องการว่า มาอยู่ตรงนี้เพราะเขาต้องการที่ใหม่ อยู่อย่างเป็นหลักเป็นแหล่ง มีนักศึกษารามคำแหง มีนักศึกษาอาชีวะ แล้วก็มีหลายสถาบันการศึกษา อยากจะใช้คำว่านักศึกษาแล้วก็ประชาชน อะไรอย่างไร เราก็มาคิดอ่านกัน เรื่องชื่อเครือข่าย ไม่ได้มีการแย่งซีนอะไรทั้งสิ้น” นายอุทัย กล่าว
นายอุทัย กล่าวย้ำว่า ส่วนหนึ่งขององค์กรนักศึกษา ก็เป็นองค์กรหนึ่งของสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เรื่องภาคประชาสังคม ความเดือดร้อนของประชาชน องค์การนักศึกษาเอาใจใส่เรื่องราวเหล่านี้ อีกด้านหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ส่งคนมาเจรจา ซึ่งจะมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้ามาด้วย แต่ขอให้ได้รับการเจรจาเป็นที่เรียบร้อยก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ ซึ่งในวันนี้จะมีแนวร่วมอีกหลายองค์กรเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย
อนึ่ง ในเวลา 17.30 น.พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้เป็นหัวหน้าชุดเจรจาฯ จะเข้าไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์