xs
xsm
sm
md
lg

"สระแก้ว-ปราจีนฯ-ชลบุรี"อ่วม-ห่วงน้ำทะเลหนุน15-17ต.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - จับพายุโซนร้อน “นารี”ก่อตัวมหาสมุทรแปซิฟิก "สระแก้ว-ปราจีนฯ-ชลบุรี"ยังอ่วม ท่วมโรงพยาบาลประจันตคาม ด้านนิคมอมตะ เฟส 7 จราจรติดขัด ส่วนเฟส 8-9 แห้งแล้ว น้ำเขื่อนทะลักเทศบาลปักธงชัย โคราช “อ่างทอง”น้ำลด-กรุงเก่าน้ำเน่าเหม็น กทม.ได้ทีจ่อขอเงินซื้อ “ซีซีทีวี” ตรวจระดับน้ำ ห่วงน้ำทะเลหนุนสูง 15-17 ต.ค.ด้านโลกร้อน ร้องศาลปค.สั่งระงับจัดเวทีน้ำ

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (10 ต.ค.56) กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานอากาศทั่วไปว่า พายุโซนร้อน “นารี” (NARI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย เข้าใกล้เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค.นี้ พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประกาศเตือน เรื่องระวังภัยน้ำตลิ่ง และน้ำท่วมว่า สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บริเวณ อ.เมืองปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.ประจันตคาม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี อ.ราชสาส์น อ.พนมสารคาม อ.บางคล้า และ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวระมัดระวัง

**อมตะนครเฟส7ยังจม8-9 แห้ง

ที่จ.ชลบุรี โดยเฉพาะเฟส 7 นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ต.บ้านเก่า อ.พานทอง ยังท่วมขังสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ทำให้การจราจรยังติดขัด แต่เริ่มมีพนักงานหลายโรงงานกลับเข้ามาทำงานกันแล้ว เหลือเพียง 2 โรงงานที่ยังปิดตัวเพราะน้ำยังท่วมขังสูง พนักงานไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้

สำหรับเฟส 8 และ 9 เริ่มคลี่คลายแล้ว เพราะน้ำเริ่มแห้งโดยทางบริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังส่งพนักงานไปเร่งระบายน้ำโดยใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่กว่า 100 ตัว ระบายออกสู่คลองพานทอง คลองน้ำเค็ม และคลองขุนวิชิต อ.พานทอง ให้ไหลลงสู่อ่าวไทยด้านทะเลชลบุรี และแม่น้ำบางปะกงอย่างเต็มที่ แต่ยังมีมวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักเข้าพื้นที่ อ.พนัสนิคม และ อ.พานทอง อีกระลอก ภายในไม่กี่วันนี้ และคาดว่าจะทะลักเข้ามาที่ในนิคมอีกเพราะเป็นพื้นที่ปลายน้ำ โดยยังต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ และเฝ้าระวังเต็มที่ใน 2-3 วัน

ส่วน อ.พานทอง น้ำยังคงท่วมทั้งเขตเทศบาล ชาวบ้านกว่า 2,500 หลัง ประชาชนกว่า 4,000 คน ได้รับความเดือดร้อน บางคนไม่สามารถหุงหาอาหารได้ ซึ่งทางจังหวัดต้องนำอาหารกว่า 10,000 กล่องไปแจกจ่าย ขณะที่สิ่งที่ประชาชนต้องการมากช่วงนี้ คือ ยากันยุง เพราะยุงชุมมาก

**สระแก้วอ่วมจมทั้งจังหวัดตาย 6

จ.สระแก้ว ประสบอุทกภัยเต็มพื้นที่ 9 อำเภอ 23 ตำบล 76 หมู่บ้าน 18 ชุมชน รวม 6,167 หลังคาเรือน สถานการณ์โดยรวมระดับน้ำเริ่มลดลง สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 8 แห่ง ขณะ เปิดให้บริการได้ทุกแห่ง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย จาก อ.เขาฉกรรจ์ 3 ราย อ.ตาพระยา 2 ราย อ.โคกสูง 1 ราย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบความเสียหายตามเส้นทางการคมนาคม และให้ดำเนินการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน และระดับน้ำวันนี้อยู่ที่ 60 - 100 เซนติเมตร

**ปราจีนยังอ่วม-รพ.ประจันตคามวุ่น

จ.ปราจีนบุรี ได้กลับมาวิกฤติอีกครั้ง อ.ประจันตคาม เริ่มน่าเป็นห่วงภายหลังสายน้ำ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี แตก 2 จุดทำให้น้ำทะลักลงสู่พื้นที่และเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่โรงพยาบาลต้องปิดทำการโดยสิ้นเชิง บุคลากรโรงพยาบาลประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.12 พัน 3 รอ.ได้ระดมกำลังช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินออกไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจันตคาม

ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และหลังจากนั้น ก็ให้บริการแต่ผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่เนื่องจากน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องปิดให้บริการชั่วคราว ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจันตคาม อย่างไรก็ตาม อ.ประจันตคาม, อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.เมือง เป็นพื้นที่รับน้ำต่อมาจาก อ.กบินทร์บุรี จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ด้านนายรุ่งชัย ใบกว้าง นายอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับมวลน้ำเพิ่มอีกจากแควพระปรงที่ไหลมาจาก จ.สระแก้ว ทำให้น้ำท่วมหนักเป็นรอบที่ 3 ติดต่อกัน ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้นำท้องถิ่น ที่ว่าประตูน้ำตะกุดอ้อม หมู่บ้านวังสะบ้า หมู่ 7 ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี หูช้างที่เป็นบานปิดเปิดประตูระบายน้ำได้ถูกแรงดันน้ำพัดขาดส่งผลให้มวลน้ำเหนือประตูน้ำไหลบ่าลงพื้นที่ต่อเนื่องกันที่เป็นนาข้าวเกษตรกรน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้นอีก

ส่วนที่บ้านปากแพรก หมู่ 3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี คันดินชลประทานกั้นน้ำ ถนนแนวคันดินถูกน้ำพัดขาด รวม 3 จุดในถนนเส้นเดียวกัน กว้าง 6 เมตร ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากด้านเหนือคันดิน ไหลบ่าลงพื้นที่ติดต่อกันคือ ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ และ ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม ที่ถูกน้ำท่วมสูงอยู่เดิมแล้ว ปริมาณน้ำสูงเพิ่มขึ้น

**อ่างทองน้ำลด-กรุงเก่าน้ำเน่าเหม็น

จ.อ่างทอง พบว่าหลายพื้นที่ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว หลังจากทางเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำลง แต่ยังคงมีประชาชนได้รับผลกระทบอีกจำนวนมาก กว่า 1,400 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรพืชสวนไร่นากว่า 22,000 ไร่

จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงทรงตัว แต่พบว่าชาวบ้าน ต.หันตรา ต.ไผ่ลิง ต.คลองคะเคียน ต.สวนพริก และ ต.ลุมพลี เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมขังในระดับกว่า 1 เมตรเริ่มเน่าเหม็นส่งกลิ่นรุนแรง โดยได้รับผลกระทบจากน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลเข้าคลองหันตราท่วมสูง ประกอบกับประตูน้ำข้าวเม่าที่อยู่ติดกันได้สูบน้ำฝนออกจากคลองข้าวเม่าด้านใน ซึ่งเป็นชุมชนเมืองรอบนิคมฯ และทางน้ำไหลจาก อ.อุทัย ออกมาที่ปากคลองติดชุมชน ต.หันตรา ทำให้น้ำเน่าเหม็นอย่างรุนแรงและมีสีดำ

ส่วนชาวบ้าน ต.สวนพริก ติดน้ำลพบุรี พบปัญหาน้ำท่วมมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง อีกทั้งยังพบปัญหาหนักอีกชุมชนเช่นกันคือ ชาวบ้านในชุมชน ต.คลองสระบัว ซึ่งได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลเข้าท่วมขังในพื้นที่สูง 1.20 เมตร มาเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว

**น้ำทะลักเทศบาลปักธงชัย โคราช

ที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ล้นสปิงเวย์ ล่าสุดมีปริมาณน้ำในเขื่อน 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุเขื่อนทั้งหมด 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันระดับน้ำยังล้นทางสปิลเวย์สูงประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้ยังมีปริมาณน้ำไหลออกจากเขื่อนเฉลี่ย 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

ทำให้ส่งผลกระทบพื้นที่ริมคลองธรรมชาติที่ลำพระเพลิงไหลผ่านถูกน้ำเอ่อเข้าท่วม รวมทั้งพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองเมืองปัก คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปักธงชัยจะทรงตัวไปอีกประมาณ 3-4 วัน และจะค่อยๆ ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ

ในเขตเทศบาลเมืองเมืองปัก สถานการณ์ยังคงทรงตัว บ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบริเวณถนนวุฒิประไพ และถนนนิวาสวัฒนกิจ เป็นถนนที่คลองลำพระเพลิงไหลผ่าน บ้านเรือนที่อยู่ริมคลองลำพระเพลิงบริเวณดังกล่าวถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร

**จม29จังหวัดเสียชีวิต 37 ราย

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า มีพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งสิ้น 41 เพิ่ม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการ 302 อำเภอ 1,849 ตำบล 14,700 หมู่บ้าน 1,027,348 ครัวเรือน 3,496,630 คน มีผู้เสียชีวิตรวม 37 ราย คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง กำแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 29 จังหวัด 166 อำเภอ 1,033 ตำบล 7,760 หมู่บ้าน 499,761 ครัวเรือน 1,792,519 คน อพยพ 3,686 ครัวเรือน 10,868 คน

**กทม.ได้ทีขอซีซีทีวีตรวจระดับน้ำ

นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สก.กทม. เขตมีนบุรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการการจราจรขนส่งและการระบายน้ำ กล่าวว่า ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ควรติดตั้งกล้อง CCTV ในบริเวณจุดวัดระดับน้ำและในคลองสายหลักของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการวัดระดับน้ำอย่างทั่วถึง
ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ “เสมาร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงศึกษาธิการ” ปล่อยขบวนรถตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพในพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสถานศึกษาสังกัด ศธ.ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วม มีประมาณ 570 โรง คิดเป็นมูลค่าความเสีย ประมาณ 60 ล้านบาท โดยได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อจัดสรรช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดแล้ว จำนวน 100 ล้านบาท

**กทม.ห่วงน้ำทะเลหนุนสูง 15-17 ต.ค.

นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมชุมชนสันติสงเคราะห์ใต้สะพานอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กว่า 400 ครัวเรือน น้ำทะลักเข้าบริเวณแนวเขื่อนกั้นน้ำที่ยังสร้างไม่เสร็จช่วงรอยต่อบริเวณปลายชุมชนประตูระบายน้ำคลองน้ำตาล ระยะทางประมาณ 500 เมตร เนื่องจากว่าผู้รับเหมาทิ้งงานไป

นายอดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กทม. กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดเมื่อเวลา 10.30 น. ความสูงอยู่ที่ 1.86.ม.รทก. ซึ่งต่ำกว่าเมื่อวาน 0.11 ม.รทก. ด้านน้ำเหนือที่ปล่อยลงมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ที่ 740 ลบ.ม.ต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา1,886 ลบ,ม.ต่อวินาที เขื่อนพระรามหก 780 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ขณะนี้มีน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเพียง 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ สำหรับน้ำฝนขณะนี้ยังไม่น่าห่วงเนื่องจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้เคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทย จึงทำให้ช่วงนี้พื้นที่กรุงเทพฯมีฝนตกน้อยลง อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาพายุโซนร้อน "นารี" ที่ขณะนี้กำลังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณทะเลแปซิฟิก แต่คาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบกับกรุงเทพฯมากนัก รวมทั้งยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนที่จะหนุนสูงในช่วง 15 -17 ต.ค.นี้ด้วย

** ‘กรมศิลป์’เร่งขนโบราณวัตถุ ปราจีน

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ซึ่ง ตอนนี้มีหลายพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง อาทิ พื้นที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ตอนนี้ระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวสูงประมาณ 20- 30 เซนติเมตร โดยจากการรายงานล่าสุดมีโบราณสถานได้รับผลกระทบทั้งหมด 5 แห่ง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ตอนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเหลืออีก 20 เซนติเมตร จะถึงห้องจัด แสดงโบราณวัตถุ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี ไปเก็บรักษาไว้ที่บริเวณชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์แล้ว

**โลกร้อน ร้องศาลปค.สั่งระงับจัดเวทีน้ำ

ที่ศาลปกครอง นายนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เดินทางมาเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและมีมาตรการอย่างหนึ่ง อย่างใดเพื่อคุ้มครองชั่วคราว เพราะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จะเริ่มเปิดเวทีฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 36 จังหวัด เริ่มวันที่ 15 ต.ค. - 6 ธ.ค. นี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การรับฟังความเห็น 36 จังหวัดไม่สามารถตอบโจทย์ของคนทั้งประเทศที่เคยถูกน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาได้ เพราะน้ำท่วมเมื่อปี 2554 มีมากถึง 65 จังหวัด แต่การรับฟังความคิดเห็นทำเพียง 36 จังหวัด และมีผู้มารับฟังเพียง 800 - 2,000 คน ไม่อาจถือว่าเป็นการฟังความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ได้ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีประชากรประมาณจำนวนล้านคนขึ้นไป

ทางสมาคม ฯ จึงจำเป็นต้องมายื่นเรื่องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาไต่สวน และขอให้ศาลกำหนดมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยุติหรือเพิกถอนการดำเนินการรับฟังความคิดเห็น

ของกบอ. ที่จะดำเนินการในวันที่ 15 ต.ค.นี้ต่อไป ซึ่งศาลอาจจะเรียกไต่สวนในเย็นวันนี้ วันที่ 11 ต.ค. หรือไม่เกินวันที่ 14 ต.ค.นี้

**"มาร์ค" บี้ รัฐ เร่งมาตรการเยียวยา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับมอบข้าวหอมมะลิจำนวน 540 ถุง เพื่อส่งไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่จ.ปทุมธานี พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบอุทกภัยแต่รัฐบาลยังไร้มาตรการที่ชัดเจนในการเยียวยา หรือการตั้งศูนย์เพื่อประสานงานอำนวยความสะดวกบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดหลักเกณฑ์เรื่องการชดเชยเยียวยา และอยากเห็นความกระตือรือร้นของรัฐบาลในการมีศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูลทั้งการเตือน ระดมความช่วยเหลือ เพราะสถานการณ์หลายพื้นที่ยังหนักอยู่

อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับความทุกข์ของประชาชนมากกว่าที่จะสนใจเรื่องการจะใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทอย่างไรมากกว่าดูแลปัญหาให้ประชาชน บางพื้นที่เกิดความคลางแคลงใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นเพราะมีการไปก่อสร้าง เปลี่ยนแปลงทิศทางน้ำหรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้วางแผนแก้ปัญหาทั้งระบบ เช่นกรณีพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่งในปี 2554 มองกันว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยกลายเป็นพื้นที่รองรับน้ำในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าสภาพปัญหาในแต่ละปีมีความแตกต่างกัน

**นักลงทุนเชื่อมั่นวูบรัฐชัดเจนเมกะน้ำ

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ทำให้นักลงทุนมีความวิตกต่อปัจจัยน้ำท่วมในไทยมากขึ้นและจะก่อให้เกิดความวิตกเช่นนี้ต่อไปอีกในทุกๆ ปีหากรัฐยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการน้ำได้ ดังนั้นจึงเห็นว่างบประมาณ 3.5 แสนล้านบาทมีความจำเป็นจะต้องนำมาวางโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำแต่กรณีหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดปัญหาคอร์รัปชั่นก็จะต้องเป็นหน้าที่องค์กรอิสระและหน่วยงานต่างๆที่จะเข้าตรวจสอบ

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ภาพรวมการขนส่งสินค้ายังไม่กระทบมากนักในขณะนี้ยกเว้นในบางเส้นทางที่อาจจะต้องใช้เวลานานมากขึ้นค่าใช้จ่ายก็อาจจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยสินค้าที่เริ่มมีการงดส่งบ้างในบางพื้นที่ที่เห็นชัดเจนเป็นสินค้าที่จะจัดส่งไปตามห้างสะดวกซื้อในพื้นที่น้ำท่วมสูง.
กำลังโหลดความคิดเห็น