โคตรกาลีเมืองนั้นมีความคิดชั่วร้ายทำลายชาติทุกลมหายใจเข้าออก ไร้ขอบเขต ทุกวันนี้มีแต่คิดจะโกงกินเงินงบประมาณ เงินภาษีประชาชน ไม่รู้จักอิ่ม ยังวางแผนกู้เงินกว่า 2.5 ล้านล้านบาท อ้างโครงการสารพัด ทั้งๆ ที่คนรู้ทันว่ามันจะงาบ 40 เปอร์เซ็นต์
ขบวนการชั่วร้ายของบักเหลี่ยมเหมือนดิ้นรน เสวยสุขบนกองทุกข์ของประชาชน ได้เงินทองไปหลายแสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าวและแผนใช้เงินอื่นๆ ความมั่งคั่งกอบโกยมาจากพฤติกรรมชั่วร้ายทำให้โคตรเหง้าบักเหลี่ยมเหมือนนั่งในกองไฟนรก
ไฟสุมในหัวอก ไร้แผ่นดิน หนีตายจากศัตรูไม่ปรากฏหน้าตายังไม่รู้สำนึก ยังคิดชั่วต่อเนื่องให้บริวาร ขี้ข้า ญาติพี่น้องจ้องหาทางโกงกิน จะให้แผ่นดินเกิดล่มสลายต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้เมื่อถึงวาระล้มละลายเพราะการสร้างหนี้มาโกงแบบไม่สิ้นสุด
คนดีสายตาสว่างแจ่มใส ไม่คิดท้อถอย ยิ่งมุ่งมั่น ตั้งปณิธานว่าเกิดมาชาติเดียวไม่ขอยอมแพ้ ก้มหัวสยบให้กับคนชั่ว แม้ภารกิจของการต่อสู้จะหนักหนาสาหัส ยังไม่รามือ เมื่อยังเชื่อว่าผลสุดท้ายกรรมดีย่อมชนะความชั่ว คนเลวทราม แม้ต้องใช้เวลา
ถ้าความชั่วชนะความดี ประชาคมโลกคงไม่พัฒนา เดินหน้า ถอยหลังบางช่วง สลับกันไปจนถึงบัดนี้! ขบวนการบักเหลี่ยมก็เช่นกัน นอกจากฝืนชะตาฟ้า ย่ำยีบีฑาคนดี ทำตัวเป็นกาลีเมืองแล้ว ยังดันทุรังเชื่อว่าการทำชั่วให้สุดโต่ง ดันให้สุดซอย จะชนะ
บักเหลี่ยมอาจเป็นคนเฉลียวฉลาด รอบจัด แต่ความคิดไร้จิตสำนึกด้านดี ทำให้ทรนงตน มองไม่เห็นจุดบอดของตัวเอง และสัจธรรมความจริงที่ว่ายังไม่มีผู้ปกครองเผด็จการ ทรราชกังฉินกินเมืองหน้าไหนจะอยู่รอดปลอดภัยจากเงื้อมมือของประชาชน
ทุกวันนี้ตัวเองไม่อาจเหยียบแผ่นดินเกิดได้ ก็ยังไม่สำนึก คิดทบทวนประกอบกรรมดี! ตรงกันข้าม ยังคิดชั่ว ส่งวงศาคณาญาติขี้ข้ามากุมอำนาจรัฐ แบ่งผลประโยชน์จากทรัพย์สินแผ่นดิน สร้างความร่ำรวย ความสุขลอยละล่องในทะเลน้ำตาประชาชน
จากตัวเองผ่องถ่ายอำนาจผ่านระบบแทน สู่ขี้ข้า สู่เครือญาติ สู่คนร่วมสายเลือด ผลัดเปลี่ยนกันสร้างความชั่ว หนักข้อกว่าเดิมทุกวันเวลา ล่าสุด มีเรื่องร่ำลือว่าจะส่งทายาทให้เป็นอสูรน้อยยกระดับความชั่ว จากความอุบาทว์ที่สะสมมาให้เข้าสู่การเมือง
เป็นตัวตายตัวแทน สับเปลี่ยนขี้ข้าบริวารให้กินตำแหน่งเสนาบดี ข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ทำให้ประชาชนเห็นชัดๆ ว่า ถ้าอยากก้าวหน้าในอาชีพการงาน การเงินมั่งคั่ง ต้องลืมคุณงามความดี กล้าอาสา แข่งกันรับภารกิจชั่วร้ายทำลายชาติสนองแรงอาฆาตของบักเหลี่ยม ให้สมหวังในการแก้แค้นคนไทยที่กีดกันไม่ให้เหยียบแผ่นดิน
จากนางโพยปูโพรกเน่าใน ใช้เวลา 2 ปีกว่าทำลายโครงสร้างระบบของบ้านเมืองจนอ่อนล้าอยู่ในสภาพร่อแร่ บักเหลี่ยมยังวางแผนต่อเนื่องสร้างระบอบทายาทอสูร! ก็ดี เมื่อถึงเวลา คนดีจะให้กวาดล้างทั้งโคตรเหง้าเหล่อกอ ขี้ข้า บริวารให้พ้นจากชาติไทย
ใครจะจัดการขบวนการชั่วร้ายของบักเหลี่ยม ซึ่งกุมอำนาจครอบงำระบบต่างๆ ในแผ่นดิน? เมืองไทยจะยังมีอนาคตอยู่หรือไม่ เมื่อทุกอย่างเหมือนเข้าทาง ยอมสยบจนสิ้น! พวกอ้างตัวว่าดี มีระดับชนชั้น ต่างทำตัวหลีกหลบ มีทั้งไทยเฉย ไทยนิ่ง ฯลฯ
ประเมินกันใหม่ ความเป็นจริงก็คือ -ทุกวันนี้บักเหลี่ยมยังไม่สามารถก้าวเท้าเหยียบแผ่นดินนี้ได้ ต้องให้ขี้ข้าบริวารแห่ไปรับคำสั่งภารกิจทำลายชาติ อ้อนวอนขอตำแหน่ง! พวกนี้มีทั้งกลุ่มคนมาจากชาติตระกูลสูง การศึกษาดี มีสถานะ แต่ชั่วร้าย
ใครก็ตามที่เป็นเสนาบดี ข้าราชการมีตำแหน่ง อำนาจ ต้องเป็นคนชั่วร้ายขี้ข้าบักเหลี่ยมเท่านั้น คนดีมีศักดิ์ศรีไม่มีโอกาส โดนกำจัดอย่างไร้คุณธรรม พฤติกรรมของข้าราชการมีให้เห็นว่ากล้าเปลี่ยนท่าที ความคิด เพื่ออามิสสินจ้าง ได้เป็นขี้ข้าเกินคนอื่น
การขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงระบบ แก้ไขกฎหมาย ผลักดันเรื่องต่างๆ ดูเหมือนจะราบรื่น ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งด่าของประชาชน ตั้งเป้าหมายว่าต้อง “เดินให้สุดซอย” แต่ยังไม่ปรากฏว่าจะสมปรารถนา บักเหลี่ยมถูกมองว่าเป็นเหยื่อ
โดนพวกขี้ข้า บริวารหลอกแด๊กส์ ขณะที่ตัวเองยังวนเวียนเป็นสัมภเวสีเร่ร่อน!
หวังยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญปลอม จะหักดิบ ไม่แยแสเสียงต้าน ก็เผชิญปัญหาไม่คาดคิด สะดุดหยุดติด เพราะมีคนรู้ทันป่าวร้องว่าสมุนบักเหลี่ยมกระทำการมิบังควร ทำให้แผนชั่วร้ายไม่คืบหน้า พวกขี้ข้าในวุฒิสภาหวังอยู่ต่อ ต้องนั่งรออย่างไร้ความหวัง
“บักเหวง” ขี้ข้าปลิ้นปล้อนด้วยคารม “ผมรักทักษิณ ผมเกลียดทักษิณ ผมรักทักษิณ” ยังคิดจะดันร่างกฎหมายปลดเปลื้องโทษทัณฑ์ โซ่ตรวนผูกติดคดีต่างๆ ให้นายทาส เป็นภารกิจเดินให้สุดซอยอีกรอบ! นี่เป็นความฝันแบบเหวงๆ ในตระกูลเหวง
การที่ระบบตุลาการปล่อยให้เดินหน้ากรณีกฎหมายงบประมาณ หรือเรื่องจ้อยนั้น ทำให้เหิมเกริมว่าการใช้วิธีข่มขู่คุกคามศาลนั้นได้ผล ไม่มีใครกล้าขวางเส้นทางชั่ว โดยหารู้ไม่ว่าความคึกคะนอง ยโสโอหังลำพองนั้น ใกล้ถึงวาระสุดท้ายด้วยกฎธรรมดา
กรรมดีจะชำระคดีความผู้มีพฤติกรรมชั่ว! ทิศทางบ้านเมืองในสภาวะ “ดวงแตก” นั้น หาใช่การจะล้มหายตายจากของขบวนการบักเหลี่ยมขี้ข้าธิปไตยอย่างทันควัน แต่เป็นสภาพ “การแตกหัก” ระหว่างรัฐบาลขี้ข้าผสมรัฐสภาฝ่ายหนึ่งกับสถาบันตุลาการ
เป็น “การแตกหัก” ระหว่างขบวนการบักเหลี่ยมกับสถาบันกษัตริย์!
การรุกคืบของขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมเจอทางตัน จะเข้าซอยก็ยังไม่เห็นก้นซอย หวาดผวา เริ่มคิดหนักว่าจะลี้ภัยไปอยู่แผ่นดินไหนจึงจะรอด! ถ้าคำร่ำลือว่า “โอ๊ค” จะเป็นทายาทสืบทอดจาก “ปู” เป็นจริง นั่นคือน้ำมันถังใหญ่สาดเข้ากองไฟเผาโคตรกาลีเมือง
ขบวนการชั่วร้ายของบักเหลี่ยมเหมือนดิ้นรน เสวยสุขบนกองทุกข์ของประชาชน ได้เงินทองไปหลายแสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าวและแผนใช้เงินอื่นๆ ความมั่งคั่งกอบโกยมาจากพฤติกรรมชั่วร้ายทำให้โคตรเหง้าบักเหลี่ยมเหมือนนั่งในกองไฟนรก
ไฟสุมในหัวอก ไร้แผ่นดิน หนีตายจากศัตรูไม่ปรากฏหน้าตายังไม่รู้สำนึก ยังคิดชั่วต่อเนื่องให้บริวาร ขี้ข้า ญาติพี่น้องจ้องหาทางโกงกิน จะให้แผ่นดินเกิดล่มสลายต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้เมื่อถึงวาระล้มละลายเพราะการสร้างหนี้มาโกงแบบไม่สิ้นสุด
คนดีสายตาสว่างแจ่มใส ไม่คิดท้อถอย ยิ่งมุ่งมั่น ตั้งปณิธานว่าเกิดมาชาติเดียวไม่ขอยอมแพ้ ก้มหัวสยบให้กับคนชั่ว แม้ภารกิจของการต่อสู้จะหนักหนาสาหัส ยังไม่รามือ เมื่อยังเชื่อว่าผลสุดท้ายกรรมดีย่อมชนะความชั่ว คนเลวทราม แม้ต้องใช้เวลา
ถ้าความชั่วชนะความดี ประชาคมโลกคงไม่พัฒนา เดินหน้า ถอยหลังบางช่วง สลับกันไปจนถึงบัดนี้! ขบวนการบักเหลี่ยมก็เช่นกัน นอกจากฝืนชะตาฟ้า ย่ำยีบีฑาคนดี ทำตัวเป็นกาลีเมืองแล้ว ยังดันทุรังเชื่อว่าการทำชั่วให้สุดโต่ง ดันให้สุดซอย จะชนะ
บักเหลี่ยมอาจเป็นคนเฉลียวฉลาด รอบจัด แต่ความคิดไร้จิตสำนึกด้านดี ทำให้ทรนงตน มองไม่เห็นจุดบอดของตัวเอง และสัจธรรมความจริงที่ว่ายังไม่มีผู้ปกครองเผด็จการ ทรราชกังฉินกินเมืองหน้าไหนจะอยู่รอดปลอดภัยจากเงื้อมมือของประชาชน
ทุกวันนี้ตัวเองไม่อาจเหยียบแผ่นดินเกิดได้ ก็ยังไม่สำนึก คิดทบทวนประกอบกรรมดี! ตรงกันข้าม ยังคิดชั่ว ส่งวงศาคณาญาติขี้ข้ามากุมอำนาจรัฐ แบ่งผลประโยชน์จากทรัพย์สินแผ่นดิน สร้างความร่ำรวย ความสุขลอยละล่องในทะเลน้ำตาประชาชน
จากตัวเองผ่องถ่ายอำนาจผ่านระบบแทน สู่ขี้ข้า สู่เครือญาติ สู่คนร่วมสายเลือด ผลัดเปลี่ยนกันสร้างความชั่ว หนักข้อกว่าเดิมทุกวันเวลา ล่าสุด มีเรื่องร่ำลือว่าจะส่งทายาทให้เป็นอสูรน้อยยกระดับความชั่ว จากความอุบาทว์ที่สะสมมาให้เข้าสู่การเมือง
เป็นตัวตายตัวแทน สับเปลี่ยนขี้ข้าบริวารให้กินตำแหน่งเสนาบดี ข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ทำให้ประชาชนเห็นชัดๆ ว่า ถ้าอยากก้าวหน้าในอาชีพการงาน การเงินมั่งคั่ง ต้องลืมคุณงามความดี กล้าอาสา แข่งกันรับภารกิจชั่วร้ายทำลายชาติสนองแรงอาฆาตของบักเหลี่ยม ให้สมหวังในการแก้แค้นคนไทยที่กีดกันไม่ให้เหยียบแผ่นดิน
จากนางโพยปูโพรกเน่าใน ใช้เวลา 2 ปีกว่าทำลายโครงสร้างระบบของบ้านเมืองจนอ่อนล้าอยู่ในสภาพร่อแร่ บักเหลี่ยมยังวางแผนต่อเนื่องสร้างระบอบทายาทอสูร! ก็ดี เมื่อถึงเวลา คนดีจะให้กวาดล้างทั้งโคตรเหง้าเหล่อกอ ขี้ข้า บริวารให้พ้นจากชาติไทย
ใครจะจัดการขบวนการชั่วร้ายของบักเหลี่ยม ซึ่งกุมอำนาจครอบงำระบบต่างๆ ในแผ่นดิน? เมืองไทยจะยังมีอนาคตอยู่หรือไม่ เมื่อทุกอย่างเหมือนเข้าทาง ยอมสยบจนสิ้น! พวกอ้างตัวว่าดี มีระดับชนชั้น ต่างทำตัวหลีกหลบ มีทั้งไทยเฉย ไทยนิ่ง ฯลฯ
ประเมินกันใหม่ ความเป็นจริงก็คือ -ทุกวันนี้บักเหลี่ยมยังไม่สามารถก้าวเท้าเหยียบแผ่นดินนี้ได้ ต้องให้ขี้ข้าบริวารแห่ไปรับคำสั่งภารกิจทำลายชาติ อ้อนวอนขอตำแหน่ง! พวกนี้มีทั้งกลุ่มคนมาจากชาติตระกูลสูง การศึกษาดี มีสถานะ แต่ชั่วร้าย
ใครก็ตามที่เป็นเสนาบดี ข้าราชการมีตำแหน่ง อำนาจ ต้องเป็นคนชั่วร้ายขี้ข้าบักเหลี่ยมเท่านั้น คนดีมีศักดิ์ศรีไม่มีโอกาส โดนกำจัดอย่างไร้คุณธรรม พฤติกรรมของข้าราชการมีให้เห็นว่ากล้าเปลี่ยนท่าที ความคิด เพื่ออามิสสินจ้าง ได้เป็นขี้ข้าเกินคนอื่น
การขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงระบบ แก้ไขกฎหมาย ผลักดันเรื่องต่างๆ ดูเหมือนจะราบรื่น ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งด่าของประชาชน ตั้งเป้าหมายว่าต้อง “เดินให้สุดซอย” แต่ยังไม่ปรากฏว่าจะสมปรารถนา บักเหลี่ยมถูกมองว่าเป็นเหยื่อ
โดนพวกขี้ข้า บริวารหลอกแด๊กส์ ขณะที่ตัวเองยังวนเวียนเป็นสัมภเวสีเร่ร่อน!
หวังยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญปลอม จะหักดิบ ไม่แยแสเสียงต้าน ก็เผชิญปัญหาไม่คาดคิด สะดุดหยุดติด เพราะมีคนรู้ทันป่าวร้องว่าสมุนบักเหลี่ยมกระทำการมิบังควร ทำให้แผนชั่วร้ายไม่คืบหน้า พวกขี้ข้าในวุฒิสภาหวังอยู่ต่อ ต้องนั่งรออย่างไร้ความหวัง
“บักเหวง” ขี้ข้าปลิ้นปล้อนด้วยคารม “ผมรักทักษิณ ผมเกลียดทักษิณ ผมรักทักษิณ” ยังคิดจะดันร่างกฎหมายปลดเปลื้องโทษทัณฑ์ โซ่ตรวนผูกติดคดีต่างๆ ให้นายทาส เป็นภารกิจเดินให้สุดซอยอีกรอบ! นี่เป็นความฝันแบบเหวงๆ ในตระกูลเหวง
การที่ระบบตุลาการปล่อยให้เดินหน้ากรณีกฎหมายงบประมาณ หรือเรื่องจ้อยนั้น ทำให้เหิมเกริมว่าการใช้วิธีข่มขู่คุกคามศาลนั้นได้ผล ไม่มีใครกล้าขวางเส้นทางชั่ว โดยหารู้ไม่ว่าความคึกคะนอง ยโสโอหังลำพองนั้น ใกล้ถึงวาระสุดท้ายด้วยกฎธรรมดา
กรรมดีจะชำระคดีความผู้มีพฤติกรรมชั่ว! ทิศทางบ้านเมืองในสภาวะ “ดวงแตก” นั้น หาใช่การจะล้มหายตายจากของขบวนการบักเหลี่ยมขี้ข้าธิปไตยอย่างทันควัน แต่เป็นสภาพ “การแตกหัก” ระหว่างรัฐบาลขี้ข้าผสมรัฐสภาฝ่ายหนึ่งกับสถาบันตุลาการ
เป็น “การแตกหัก” ระหว่างขบวนการบักเหลี่ยมกับสถาบันกษัตริย์!
การรุกคืบของขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมเจอทางตัน จะเข้าซอยก็ยังไม่เห็นก้นซอย หวาดผวา เริ่มคิดหนักว่าจะลี้ภัยไปอยู่แผ่นดินไหนจึงจะรอด! ถ้าคำร่ำลือว่า “โอ๊ค” จะเป็นทายาทสืบทอดจาก “ปู” เป็นจริง นั่นคือน้ำมันถังใหญ่สาดเข้ากองไฟเผาโคตรกาลีเมือง