จิกกัดไม่เลิก โฆษกเพื่อไทยโวย ปชป.-40 ส.ว.ยื่นวินิจฉัยชำเรา รธน.-งบประมาณปี 57 อ้างเอาประชาชนเป็นตัวประกัน สะดิ้งหากเกิดความผิดพลาดต้องรับผิดชอบ โอดครวญโหยหวนฝ่ายค้านประท้วงน่าเบื่อยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ด้าน “ประชา” ร้อนตัวคำว่า “อีโง่” ย้อน “มาร์ค” ถ้าด่ากลับดื้อด้านเหมือนไอ้ควายจะว่าไง เสื้อแดงเลอะเทอะ เตรียมมอบอาหารหมาให้ “วสันต์” พรุ่งนี้
วันนี้ (10 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว.จำนวน 114 คน ยื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยอ้างว่าจัดสรรงบประมาณในส่วนขององค์กรอิสระแบบไม่เป็นธรรมว่า กรณีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เอาเรื่องงบประมาณมาเล่น เอาผลประโยชน์ประเทศชาติประชาชนมาเป็นตัวประกัน เพราะงบประมาณเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ การออกมาร้องของพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว.เป็นการเอาองค์กรอิสระมาบังหน้า อ้างว่าจัดสรรงบไม่เป็นธรรม แต่เมื่อได้ไปตรวจสอบงบดังกล่าวก็พบว่าองค์กรอิสระ 3 หน่วยงานที่อ้างถึง ได้รับการจัดสรรงบเพิ่มเติมจากเดิม 10 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากถามว่าไม่เป็นธรรมตรงไหน ไม่อยากให้กลุ่ม 40 ส.ว. พรรคประชาธิปัตย์ พูดความจริงครึ่งเดียว เล่นการเมืองเลอะเทอะ ไร้วุฒิภาวะ หากเกิดอะไรผิดพลาดทำให้การใช้งบประมาณล่าช้าออกไป กลุ่ม 40 ส.ว.และพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เป็นเวลา 11 วันแล้ว การอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว.ซ้ำซากวนเวียนไม่ต่างจากการอภิปรายที่ผ่านๆ มา มีการตีรวน ยื้อเวลาบ่อยครั้ง เสียเวลาไปกับการหารือและประท้วงเรื่องเดิมๆ มากกว่าการพูดถึงเนื้อหาสาระ เปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คืออภิปราย 10 เปอร์เซ็นต์ หารือและประท้วง 90 เปอร์เซ็นต์ สร้างความเบื่อหน่ายให้ประชาชน ยิ่งกว่าดูละครน้ำเน่า ฉายซ้ำๆ ซากๆ พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ให้แตะต้อง แก้ไข ทำตัวเป็นทายาทอสูร เพราะน่าจะได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ประโยชน์จาก ส.ว.ลากตั้ง จึงทำทุกวิถีทางแม้กระทั่งวิธีการที่หน้าไม่อาย ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงประพฤติตัวและเล่นเกมอยู่อย่างนี้ก็เหมือนการหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย ถึงเวลาเลือกตั้งเราก็สบาย ตามที่โพลระบุก่อนหน้าว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาธิปัตย์เกือบครึ่ง
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า การทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ในสภาในระยะหลัง เห็นชัดเจนว่ามาตรฐาน จริยธรรม จิตสำนึกกำลังถอยหลังเข้าป่า และยังหนักข้อลามไปถึงนอกสภา บุคคลที่เป็นระดับผู้นำการเมืองออกมาใช้คำพูดด่าว่า “อีโง่” บ่งบอกถึงภาวะทางจิตใจที่ผิดปกติ คำๆ นี้ แม้คิดจะไปด่าใครก็ยังไม่มีสิทธิ์ด่าเลย และบุคคลที่เขาหมายถึงใครๆ ก็รู้ว่าหมายถึงใคร แต่เชื่อว่าท่านไม่เป็นอย่างนั้น ท่านอาจจะรู้ไม่หมดทุกเรื่อง รู้ไม่ครบแต่ไม่ใช่โง่ แน่นอน ขณะเดียวกันขอถามกลับว่า ถ้ามีใครมาบอกว่า “คุณดื้อด้านเหมือนไอ้ควาย” จะว่าอย่างไร ฉะนั้นขอให้กลับมาอยู่ในร่องในรอย กลับมาว่ากันในสภาดีกว่า อย่าไปทำอะไรแบบนั้น เพราะประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ชี้วัดการกระทำทั้งหลายในวันเลือกตั้งเอง
อีกด้านหนึ่ง นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือ ศรรักษ์ มาลัยทอง แกนนำเสื้อแดง ในนามโฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป.เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) ทางกลุ่มฯ ประมาณ 100 คน จะเดินทางยื่นหนังสือถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอทราบกรอบการพิจารณากรณีศาลรับวินิจฉัยว่การแก้ไขรัฐธรรมานูญมาตรา 68 และมาตรา 237 เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองนั้นจะแล้วเสร็จเมื่อใด
จากนั้นจะเดินทางไปบ้าน นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อจะนำอาหารสุนัข (เพ็ดดีกรีติดโบว์) ไปมอบให้เป็นของขวัญ จากกรณีที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลผิดรัฐธรรมนูญใน 2 เรื่อง และไม่ดำเนินการกู้เงินตามกรอบเวลาที่ พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านกำหนด จึงเป็นการส่อทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้การเดินทางไปดังกล่าวถือเป็นการไปแสดงออกเป็นเชิงสัญลักษณ์ ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด
