รองโฆษก พท.เย้ย “นายกฯ มาร์ค” เทียบ “นายกฯ ปู” ไม่ติดเรื่องพบปะผู้นำต่างชาติ ตอกน้อยใจนั่งผู้นำไม่ค่อยไป ตปท. อ้าง “ปู” จ้อมองโกเลีย เหตุปาฐกถา ปชต. ต้องโยงรัฐประหารที่มา รธน.50 ซัด “มาร์ค” ทายาทอสูรได้ประโยชน์ ชี้แบ่งฝ่ายชัด ปชต.-อำมาตย์ล้าหลัง เย้ยรับไม่ได้ “แม้ว” ถูกรัฐประหารรังแก ไล่เดินสาย ตปท.แจงแก้ ปัด พท.ให้ท้ายแดงกุ๊ย ยันไม่ล้มศาล ย้ำเป็นสิทธิผิดค่อยจับ อ้างกลัวถูกต้าน เหตุขู่จับตัวตุลาการ-ชุมนุมยืดเยื้อ
วันนี้ (30 เม.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปปาฐกถาพิเศษในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย แล้วอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แยกให้ออกระหว่างการเป็นน้องสาว และการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศว่า เห็นชัดเจนว่าบทบาทในฐานะผู้นำของประเทศที่นานาชาติยอมรับระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ นายอภิสิทธิ์ผิดกันมาก เทียบกันเดือนต่อเดือน ครั้งต่อครั้ง ทั้งการไปเยือนต่างประเทศ การได้มีโอกาสต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ผิดกันไกล ผู้นำสำคัญของโลกมาเยือนกันหมด นายกฯ ยิ่งลักษณ์เหนือกว่าเยอะ การออกมาตั้งข้อสังเกต นายอภิสิทธิ์อาจจะน้อยใจที่ตอนเป็นนายกฯ ไม่ค่อยได้ไปไหน และใครๆ ก็ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญมาเยือน
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ซึ่งต้องเข้าใจเรื่องก่อนว่าไม่ใช่อยู่ดีๆ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ลุกขึ้นพูดเรื่องนี้ ท่านไปปาฐกถาพิเศษในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย จำเป็นต้องมองปัญหาประชาธิปไตยในประเทศไทยอย่างเข้าใจ ต้องมีการพูดเรื่องปัญหาการทำรัฐประหาร ปี 2549 การปล้นเสรีภาพประชาชน ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำให้เกิดการชุมนุม นำมาซึ่งความสูญเสียถึง 91 ศพ และนำเสนอว่าคาดหวังจะเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องพูดถึง รธน.ปี 50 ว่าจำกัดความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีอะไรเสียหายเลย ซึ่งนายอภิสิทธิ์น่าจะต้องเข้าใจ ไม่ใช่พอได้ประโยชน์จากการทำรัฐประหาร จากรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ ก็ทำตัวเป็นองครักษ์ พิทักษ์ระบบเหล่านั้น ทุรนทุรายทุกครั้งที่ได้ยินว่าใครจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ปัจจุบัน คมช.จะยุติการบริหารประเทศ แต่มรดกบาปทายาทอสูรยังคงดำเนินอยู่ ทำหน้าที่กัดกร่อนประชาธิปไตยแบบฆาตรกรต่อเนื่อง
“นายอภิสิทธิ์อย่ามัวเหนียมอาย เพราะวันนี้ทุกฝ่ายในประเทศไทย เปลือยสถานะกันออกมาสู้หมดแล้ว แยกออกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน คือ ฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า กับอำมาตย์ล้าหลัง หรือ จะทำใจไม่ได้ทุกครั้ง ที่ใครเอ่ยชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แสดงว่า ถ้าใครต้องการจะอธิบาย ผู้ได้รับผลกระทบหรือตกเป็นเหยื่อจากรัฐประหารเป็นใครก็ได้ แต่ห้ามยกชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างนั้นเสียราคานักปาฐกถา เจ้าของฉายา ดีแต่พูดหมด หรือนายอภิสิทธิ์ จะพาคณะอำมาตย์ล้าหลังทั้งหลาย ออกเดินสายต่างประเทศ ประกาศโต้นายกฯยิ่งลักษณ์ เลยว่า พูดผิดและประกาศ ว่าพวกท่านเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและพวกท่านมาจากประชาชนเผื่อจะมีชาวโลกเขาเชื่อบ้าง” นายอนุสรณ์กล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มวิทยุสื่อสารประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญต่อเนื่องหลายวันว่า ไม่มีใครในฝ่ายเพื่อไทย หรือฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า ไปให้ท้ายคนเสื้อแดงกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ต้องการโค่นล้มอำนาจตุลาการ เป็นเพียงการใช้สิทธิในการชุมนุมของประชาชน ตามหลักการในรัฐธรรมนูญ ที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ตราบที่ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ แต่ถ้าผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ ได้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการเผชิญหน้า และห้ามเข้าไปในเขตศาลในทุกกรณี
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น อาจจะมาจากสถานการณ์ยั่วยุ และน่าเป็นห่วงกระแสข่าวว่าบางฝ่ายมีการระดมกำลังจากกลุ่มต่างๆ เข้ามาต่อต้าน ประกาศระดมคนมาเผชิญหน้า และให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญนั้น ทุกฝ่ายต้องระมัดระวัง ความจริงการชุมนุมครั้งนี้เท่าที่เขาประกาศจะไม่ยืดเยื้อ แต่พอมีลักษณะที่คู่ขัดแย้งต่างๆ ยั่วยุกัน เลยมีการยกระดับ ถึงวันนี้ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้าขอได้ คงขอให้หยุดไปนานแล้ว แต่ความจริง ไม่มีใคร มีสิทธิ์ไปบังคับพลังมวลชนอันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งก็ทำได้เพียงดูแลไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่ให้มีการเผชิญหน้าแบบม็อบมาชนม็อบ