xs
xsm
sm
md
lg

"แม้ว"ปูนบำเหน็จ"แจ๊ด" เคาะโอ๊คนายกปี58 ลิ่วล้อเชลียร์เทียบชั้น"มาร์ค"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"แม้ว" สั่งลิ่วล้อทำพื้นที่เตรียมเลือตั้ง ขู่ทำโพลเป็นระยะ ใครเรตติ้งร่วงอดลง เล็งล้างบางตระกูล"หาญสวัสดิ์" หลังเสียท่าปชป.ที่ปทุมฯ เตรียมให้ "แจ๊ด" ลงเล่นการเมือง จับตา "โอ๊ค" ลงสนามสานต่อทายาทอสูรในการเลือกตั้ง ปี 58 ลิ่วล้อชเลียร์ "โอ๊ค" เทียบชั้น "มาร์ค" ถึงเวลาเอาจริงแล้ว "ยิ่งลักษณ์"ชี้ ปรับครม.ขึ้นอยู่กับจังหวะและเหตุการณ์ เผยอยากให้งานต่อเนื่องไม่อยากเปลี่ยนบ่อย บอก "เฉลิม" ยังแข็งแรง ฝากดอกไม้และสั่งรมว.สาธารณสุขไปเยี่ยม ขณะที่ลูกพรรคยุปรับครม.ปลายเดือนนี้ โละรมต.ที่มีปัญหาเรื่องหุ้น รวมทั้ง"ยุทธศักดิ์"จากกรณีคลิปฉาว ด้าน"เฉลิม" ออกจากห้อง ICU แล้ว หลังผ่าตัดเอาเลือดออกจากใต้เยื่อหุ้มสมอง แพทย์คาดไม่เกินสัปดาห์กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ระบุสาเหตุอาการไม่แน่ชัด แต่ไม่รุนแรง รักษาได้ “หมอประดิษฐ”ระบุภาวะนี้เกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุ

วานนี้ (6 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม.ว่า ข่าวที่ออกมาถือเป็นปกติ ที่อาจจะมีบางตำแหน่งที่ถูกใจ และไม่ถูกใจประชาชนที่เขาคาดหวังก็อยากจะให้ปรับเปลี่ยน จึงเป็นหน้าที่ของครม.ทุกคน ที่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ เพราะประชาชนก็ติดตามการทำงานของ ครม. นอกจากนั้นการจะปรับหรือไม่ ยังต้องดูจังหวะเวลาและความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้เวลาประเมินการทำงานของรัฐมนตรีอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะเราอยากจะให้เวลา เพื่อให้มีผลงานออกมาเป็นรูปธรรม แต่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเหตุการณ์ แต่โดยหลักอยากทำงานให้มีความต่อเนื่อง ไม่อยากปรับเปลี่ยนบ่อย แต่บางครั้งอาจมีความจำเป็นมีเหตุการณ์ต่างๆ ก็ต้องไปว่าที่สถานการณ์หน้างานอีกครั้ง
เมื่อถามว่า การเข้ารักษาอาการป่วยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน จะมีผลต่อการปรับครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ร.ต.อ.เฉลิม ยังแข็งแรงอยู่ และดิฉันได้ส่งดอกไม้ไปให้กำลังใจ พร้อมฝาก นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารสุข ไปเยี่ยม เชื่อว่าเมื่อได้พบแพทย์แล้ว อีกไม่กี่วันอาการคงจะดีขึ้น

** ปูด"แจ๊ด-โอ๊ค"ลงสนามปี 58

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ช่วงหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มักพูดเปรยๆกับรัฐมนตรี และ ส.ส.ที่เดินทางไปพบที่ต่างประเทศ ว่า แม้รัฐบาลจะยังมีวาระอยู่เกือบ 2 ปีเต็ม แต่ยังมีปัจจัยภายใน-ภายนอก ที่พร้อมจะล้มรัฐบาลได้ทุกเมื่อ ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา โดยระยะหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ จะกำชับกับกลุ่มส.ส.ที่เดินทางไปหาว่า ให้ขยันลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยหลังจากนี้ทางพรรคจะทำการสำรวจคะแนนนิยมในแต่ละพื้นที่เป็นระยะๆ เพื่อสอบถามจากชาวบ้านโดยตรงว่า ส.ส.ในเขตตัวเองทำงานอย่างไร และต้องการให้ส่งผู้สมัครรายเดิมลงเลือกตั้งอีกหรือไม่ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ในช่วงที่สถานการณ์รัฐบาลมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้บรรดาส.ส.หลายพื้นที่ เริ่มกลับมาลงพื้นที่อย่างหนัก หลังจากที่ห่างหายไปนาน รวมทั้งผู้เสนอตัวลงสมัครในพื้นที่ไม่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนได้รับสัญญาใจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะให้ลงสมัคร ก็ได้เริ่มทำพื้นที่ของตัวเองแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ในการพิจารณาส่งตัวผู้สมัครเลือกตั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นผู้พิจารณาด้วยตัวเองในขั้นสุดท้าย โดยในหลายพื้นที่ได้ปรับเปลี่ยนผู้ดูแลพื้นที่ เช่น พื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดงในภาคกลางนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ มองว่า ตระกูลหาญสวัสดิ์ ที่ดูแลพื้นที่อิทธิพลอยู่ มีปัญหาในการบริหารจัดการในพื้นที่ โดยเฉพาะการตัดสินใจให้ ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคณี ลาออกจากส.ส.เขต 5 ไปลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี แต่กลับสอบตกในสนาม อบจ. ส่วนผู้สมัครที่ลงรักษาพื้นที่เขต 5 จ.ปทุมธานี ก็แพ้ให้กับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งซ่อม เมื่อเดือน เม.ย.55 ทำให้แกนนำพรรครวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้ห้ามปรามตั้งแต่การให้ ส.ส.เขต ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ประกอบกับระยะหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดความขัดแย้งอย่างหนักกับตระกูลหาญสวัสดิ์ ทำให้เริ่มมีการทาบทามผู้สมัครรายใหม่ เตรียมพร้อมในเขตเลือกตั้ง 4-5-6 ของ จ.ปทุมธานี

โดยหากพรรคเพื่อไทย ประคองสถานการณ์จนครบวาระกลางปี 58 ก็จะมีการชักชวนข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการในปี 57 หลายรายมาร่วมในทีมผู้สมัคร โดยเฉพาะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่จะเกษียณอายุราชการเดือน ก.ย. 57 นั้น เบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ทาบทามให้มาลงเล่นการเมือง โดยกำลังตัดสินใจว่า จะให้ ลงสมัครเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือให้ลงรับสมัครรับเลือกตั้งที่ จ.ปทุมธานี เนื่องจากพล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ปทุมธานี หรืออีกแนวทางโดยวางตัวให้เข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เผยอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการสังเกตความเคลื่อนไหวของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น การเริ่มลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในเขตจังหวัดน้ำท่วม การแสดงความเห็นทางการเมืองตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในเฟซบุ๊ก การเข้ามาสังเกตุการณ์ในการอบรมนักรบไซเบอร์ให้แนวร่วมพรรคเพื่อไทย ทำให้ถูกมองว่าในสมัยหน้า นายพานทองแท้ จะตัดสินใจลงเล่นการเมืองแน่นอน เพื่อสานต่อเจนเนอร์เรชั่นของตระกูลชินวัตร ในทางการเมือง เพียงแต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่ หรือให้ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

** เชลียร์"โอ๊ค"เทียบชั้น"มาร์ค"

ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว นายพานทองแท้ จะมาเล่นการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า เป็นสิทธิของนายพานทองแท้ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีประสบการณ์การเมืองได้มาจากพ่อ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็อาจเจอแรงต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามว่าจะเข้ามาสืบทอดอำนาจหรือไม่ พูดในแง่ความเหมาะสมก็เหมาะสม เป็นตระกูลนักการเมือง นายพานทองแท้ ก็มีจิตใจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นที่รู้จักของประชาชน ถ้าเป็น ส.ส.ก็คงเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ แต่การตัดสินใจอยู่ที่นายพานทองแท้ จะเข้ามาหรือไม่ ถ้าเข้ามาสู่การเมืองก็ยินดี คนในพรรคเพื่อไทยคงไม่มีใครขัด ขนาดสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาสมัครรับเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 ยังไม่มีใครขัด หากนายพานทองแท้ เข้ามา ทุกคนคงยินดี อีกทั้งการแสดงความเห็นผ่าน เฟซบุ๊กตอบโต้นายอภิสิทธิ์ ดูไปแล้วดีกว่า นายอภิสิทธิ์เสียอีก ทำเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน ถือว่าความคิด ความอ่านใช้ได้ มีเหตุผล

นพ.เชิดชัย ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่า ตนเห็นด้วยกับกรณีที่จะมีการปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องการถือหุ้นคือ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข ออกไปก่อน นอกจากนี้อีกคนที่ควรจะถูกปรับออกด้วยคือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ที่มีปัญหาเรื่องคลิปหลุดจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะปรับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ออกจากตำแหน่งนั้น ตนก็เห็นด้วย เพราะได้รับเสียงสะท้อนจากส.ส.ภายในพรรคมามากว่า อยากให้เปลี่ยนตัว
"ผมเห็นว่า น่าจะปรับครม.ในช่วงปลายเดือนต.ค. เลยเพื่อตัดปัญหา คนจะเป็นรัฐมนตรีต้องพร้อม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี" นพ.เชิดชัย กล่าวทิ้งท้าย

**"เหลิม"ออกจากห้องไอซียูแล้ว

นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงความคืบหน้าอาการป่วยของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.พลังงาน ว่า หลังร.ต.อ.เฉลิม เข้ารับการผ่าตัดด้วยภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ล่าสุดได้ออกจากห้องไอ.ซี.ยู.แล้ว โดยไปพักฟื้นต่อที่หอผู้ป่วยธรรมดา ซึ่งอาการทั่วไปไม่น่าวิตก โดย ร.ต.อ.เฉลิม อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากรู้สึกตัว สามารถโต้ตอบ และรับประทานอาหารได้แล้ว คาดว่าไม่เกินสัปดาห์ก็สามารถกลับบ้านไปพักฟื้นได้

ส่วนสาเหตุของอาการดังกล่าว แพทย์เจ้าของไข้รายงานเบื้องต้นว่าไม่มีสาเหตุชัดเจน แต่เป็นอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาหายได้ โดยแพทย์เจ้าของไข้ดูแลตลอด ไม่ต้องกังวล

นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เยี่ยมและติดตามอาการของร.ต.อ.เฉลิม เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจ ทราบว่าบ่ายวานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะย้ายจากห้องไอ.ซี.ยู. มาพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ รพ.รามาธิบดี จากนั้นพักฟื้นต่ออีก 2-3 วันที่โรงพยาบาล ก่อนไปพักฟื้นอีก 7 วันที่บ้าน
สำหรับอาการเลือดออกที่ใต้เยื่อหุ้มสมองนั้น จากการพูดคุยกับคณะแพทย์ที่ให้การรักษา ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าอาการไม่รุนแรง ขณะนี้ดีขึ้น ภาวะเลือดออกไม่ใช่ในจุดสำคัญ อีกทั้งปริมาณเลือดไม่มาก เพียง 50 ซีซี แพทย์ได้ทำการผ่าตัดระบายเลือดออกแล้ว ส่วนสาเหตุอาการป่วย ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มในสมองนั้น ไม่อยากให้คาดเดา เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุและรายละเอียดบางอย่างเป็นความลับของคนไข้ ไม่สามารถเปิดเผยได้

ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง บุตรชายคนเล็กของร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แพทย์ได้ให้พ่อพักผ่อนเพื่อพักฟื้นร่างกาย พร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ เพราะพ่อชอบทำงานหนัก ขณะนี่้สามารถพูดคุยได้ เดินได้และรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ให้ระมัดระวังเรื่องแผลติดเชื้อ ช่วงแรกแพทย์จะให้พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู. 2 วัน แต่อาการดีขึ้นมาก จึงอยู่แค่ 1 วัน และอนุญาตให้ออกมาพักฟื้นที่ห้องพักพิเศษ
นายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.เขตหนองแขม กทม. น้องชายคนเล็กของร.ต.อ.เฉลิม กล่าวหลังเข้าเยี่ยมว่า อาการโดยรวมถือว่าปลอดภัยดี ทำงานได้ สามารถพูดคุยและหัวเราะได้ มีสีหน้าสดชื่นยิ้มแย้ม อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ฝากขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่โทรศัพท์มาแสดงความเป็นห่วงและยังได้สอบถามตนเกี่ยวกับงานในพื้นที่ว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ทั้งนี้ ตนได้นำพระพุทธรูปหลวงพ่อเกษร วัดบางบอน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ร.ต.อ.เฉลิม เคารพนับถือมามอบให้ด้วย

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) กล่าวว่า อาการ ร.ต.อ.เฉลิม ปลอดภัยดี และแข็งแรงดี เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้

ส่วนงานด้านการปราบปรามยาเสพติดที่ ร.ต.อ.เฉลิมเป็น ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) นั้นการทำงานยังเดินหน้าต่อไป ไม่สะดุดอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ร.ต.อ.เฉลิม ได้มอบนโยบายให้แก่ตนเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันในวันนี้ขณะที่ตนไปส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้คุยกันโดยนายกรัฐมนตรีได้ฝากความเป็นห่วงมายัง ร.ต.อ.เฉลิม และขอให้หายป่วยไวๆ ส่วนเรื่องปรับครม. คงไม่มีการปรับ แต่ช่วงนี้หมอคงไม่ให้ ร.ต.อ.เฉลิม ทำงานหนัก

ด้าน นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ตนได้คุยกับภรรยาของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เฝ้าอาการอยู่ บอกว่าการผ่าตัดแค่เจาะเป็นแผลเล็กๆ ที่บริเวณท้ายทอยเท่านั้น ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ อีกไม่นานคงหายเป็นปกติ ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลวันไหน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ สำหรับงานในกระทรวงแรงงาน ขณะนี้ รมว.แรงงาน ได้ให้ นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน และนายอาทิตย์ อิสโม อดีตอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มาเป็นทีมที่ปรึกษา ทีมงานจึงแข็งแรงไม่มีปัญหา และที่ผ่านมารัฐมนตรีก็ดูด้านนโยบาย และให้ข้าราชการได้ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีบุคคลสำคัญในวงการต่างๆ ทยอยมาเยี่ยมให้กำลังใจ เช่น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการปปส. นายวิบูลย์ เลาหพงศ์ชนะ ผู้บริหารบริษัทกรุงไทยแทรคเตอร์ จำกัด นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกกจ. นอกจากนี้ มีกระเช้าดอกไม้จากบุคคลและหน่วยงานต่างๆ เช่น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และส.ส.สงขลา ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เลขานุการรมว.ยุติธรรม รวมถึงตัวแทนจากกองบัญชาการกองทัพบก ทั้งนี้ บริเวณชั้น1 และชั้น 9 มีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจาก รปภ.ของทางโรงพยาบาลยังมีทีมงานของร.ต.อ.เฉลิม เฝ้าอยู่ตลอดเวลา โดยบริเวณชั้น 9 เปิดให้เยี่ยมมอบกระเช้าและลงชื่อในสมุดเยี่ยมเท่านั้น ห้ามส่วนสื่อมวลชนทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์ เฝ้าถ่ายภาพบริเวณหน้าห้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น