xs
xsm
sm
md
lg

ตามพิสูจน์ "ล้างพิษตับ" ความจริงยิ่งกว่าเดิม 224 คน กับผลตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ล่าสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ด้วยความกรุณาจากคุณณิชาภา พงศานรากุล เจ้าของศูนย์ล้างพิษตับของกลุ่มบุญคณา จังหวัดขอนแก่น ได้จัดหลักสูตรล้างพิษตับขึ้น โดยได้ทำการตรวจผลเลือดและอัลตร้าซาวด์ทั้งก่อนและหลังล้างพิษตลอดจนติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ได้ร่วมกับ รศ.นพ.อนัน ศรีพนัสกุล อาจารย์แพทย์จาก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดตับ ได้เป็นผู้ตรวจสอบและวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อรวมบรวมข้อมูลแสวงหาข้อเท็จจริงทางสถิติด้วยเครื่องมือทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ตลอดจนเพื่อที่จะได้พัฒนาต่อไปในอนาคต

หลังการดำเนินการรวบรวมจำนวนผู้เข้าหลักสูตรล้างพิษตับ 8 รุ่น ของศูนย์ล้างพิษตับ บุญคณา จังหวัดขอนแก่น ระหว่างเดือนมีนาคม 2556 - กันยายน 2556 มีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 224 คนมีข้อมูลและผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

1. เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophils ซึ่งสร้างจากไขกระดูก สามารถเคลื่อนที่ไปยังเนื้อเยื่อที่เกิดการอักเสบอีกด้วยโดยปกติ Eosinophil มีหน้าที่เกี่ยวข้องการตอบสนองต่อการติดเชื้อพยาธิ การแพ้ หรือ การอักเสบ โดยภาวะที่พบ Eosinophil สูงนั้น อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ เช่น ร่างกายเกิดอาการแพ้ (Allergic disorders) การติดเชื้อพยาธิ โรคผิวหนังบางชนิด เป็นต้น

Eosinophil มีหน้าที่ขจัดฤทธิ์ Histamine ในเลือด ซึ่ง Histamine นี้มักจะหลั่งออกมาเมื่อร่างกายได้รับสารที่แพ้เข้าไปในคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือเมื่อพยาธิเดินผ่านเข้าไปในเนื้อเยื่อทำให้มีHistamine ออกมามากในบริเวณเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ค่าปกติอยู่ที่ 1% - 5% ถ้าสูงกว่าเกณฑ์ปกติหมายถึงเป็นพยาธิหรืออาจเกิดอาการแพ้

ผลปรากฏว่าในจำนวนผู้เข้าคอร์สล้างพิษตับจำนวน 224 ราย มีอยู่ 27 ราย ที่สูงกว่าเกณฑ์ปกติ แต่เมื่อเข้าหลักสูตรแล้วจากจำนวน 27 รายนี้ได้ผลการวัดค่า Eosinophil ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติถึง 25 ราย และมี 2 รายเท่าเดิม

2. จำนวนเม็ดเลือดขาว (W.B.C.)
เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญ คือ ต่อต้านการติดเชื้อ และกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายถ้าจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติจะบอกถึงภาวะการติดเชื้อการอักเสบในร่างกาย หรือถ้าสูงมากๆ จะตรวจพบในโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สำหรับจำนวนเม็ดเลือดขาวที่ต่ำกว่าปกติ อาจพบได้ในภาวะการติดเชื้อในร่างกาย จำนวนเม็ดเลือดขาว ที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะอยู่ในช่วง 4,000-12,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร

ผลปรากฏว่าในจำนวนผู้เข้าคอร์สล้างพิษตับจำนวน 224 ราย มีอยู่ 12 ราย ที่มีเม็ดเลือดข่าวต่ำกว่าปกติ แต่เมื่อเข้าคอร์สแล้วผลปรากฏว่าจากจำนวน 12 คน ที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกตินั้นได้มีจำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มจำนวนมากขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ปกติถึง 10 ราย และมีจำนวน 2 รายเท่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีข้อน่าสังเกตว่าผู้ที่เข้าคอร์สที่มีเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดอยู่ในเกณฑ์ปรกติก่อนเข้าคอร์สถึง 95% จะมีเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดสูงขึ้นหลังล้างพิษตับ และมีเพียง 5% เท่านั้นที่มีเม็ดเลือดขาวเท่าเดิม

3. เกล็ดเลือด (Platelet)
เป็นส่วนหนึ่งของเม็ดเลือดที่อยู่ในกระแสเลือด (ในกระแสเลือดมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด) มีหน้าที่สำคัญทำให้เลือดอยู่ในภาวะปกติ ถ้าเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติจะหมายถึงว่าเลือดหยุดยาก แต่ถ้าเกล็ดเลือดสูงกว่าปกติจะหมายถึงเลือดแข็งตัวง่าย แต่ถ้าแข็งตัวง่ายไปก็อาจเป็นสาเหตุการอุดตันของเส้นเลือดได้ ทั้งนี้ค่าปกติของเกล็ดเลือดคือ 150,000 ถึง 450,000 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร เมื่อเกล็ดเลือดต่ำกว่า 100,000 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร จะมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะเลือดออก โอกาสที่เลือดจะออกได้เองโดยไม่มีบาดแผล เกิดเมื่อเกล็ดเลือดเหลือน้อยกว่า 20,000 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร

ผลปรากฏว่าในจำนวนผู้เข้าคอร์สล้างพิษตับจำนวน 224 ราย มีอยู่ 15 ราย ที่มีเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ แต่เมื่อเข้าคอร์สแล้วผลปรากฏว่าจากจำนวน 15 ราย ที่มีเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกตินั้นได้มีจำนวนเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นจนกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติถึง 12 ราย และมีเกล็ดเลือดดีขึ้นแต่ยังต่ำกว่าปกติอยู่ 2 ราย และลดลงเล็กน้อย 1 ราย

4. นิ่วถุงน้ำดี อัลตร้าซาวด์จากจำนวน 224 ราย พบนิ่วในถุงน้ำดีจำนวน 19 ราย หลังเข้าคอร์ส นิ่วหายไป 9 ราย
(โดยเฉพาะเม็ดเล็กๆ) แต่ทั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่าในจำนวนนี้มีนิ่วขนาด 3.7 เซนติเมตรหายไป 1 ราย นิ่วมีขนาดเล็กลงและหรือลดจำนวนลง 7 ราย (ในจำนวนนี้มีนิ่วขนาด 2.2 เซนติเมตรลดลงเหลือ 1.2 เซนติเมตร จำนวน 1 ราย) และมี 3 รายมีจำนวนนิ่วและขนาดเท่าเดิม

5. ไขมันพอกตับ/แทรกตับ จากจำนวน 224 ราย ก่อนเข้าคอร์สพบผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ/แทรกตับจำนวน 68 ราย หลังเข้าหลังเข้าคอร์สล้างพิษตับแล้วปรากฏว่าในจำนวน 68 รายนี้ มีไขมันพอกตับลดลงไป 42 ราย และเท่าเดิม 26 ราย

6. เนื้องงอกที่ตับ จากจำนวน 224 ราย ในจำนวนนี้ก่อนเข้าคอร์สพบผู้ที่มีเนื้องอกที่ตับจำนวน 4 ราย หลังเข้าคอร์สแล้วปรากฏว่าเนื้องอกมีขนาดเล็กลง 3 ราย และมีขนาดเท่าเดิม 1 ราย อย่างไรก็ตามกรณีนี้ถือว่าตัวอย่างที่เก็บกลุ่มตัวอย่างยังมีจำนวนน้อยอยู่ จำเป็นต้องสะสมตัวอย่างกรณีนี้ต่อไปให้เพียงพอเพื่อให้ผลการสำรวจมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

7. นิ่วในไต จากจำนวน 224 ราย ในจำนวนนี้ก่อนเข้าคอร์สพบผู้ที่มีนิ่วในไตจำนวน 7 ราย แต่หลังจากเข้าคอร์สแล้วปรากฏว่าในจำนวน 7 รายนี้ ตรวจไม่พบ 1 ราย และมีนิ่วในไตเล็กลงจำนวน 6 ราย

8. เนื้องอกในมดลูกไมโอม่า จากจำนวน 224 ราย ในจำนวนนี้ก่อนเข้าคอร์สพบผู้ที่มีเนื้องอกในมดลูกไมโอม่า จำนวน 3 ราย หลังเข้าคอร์สแล้วปรากฏว่าเนื้องอกในมดลูกไมโอม่ามีขนาดเล็กลงทั้ง 3 ราย อย่างไรก็ตามกรณีนี้ถือว่าตัวอย่างที่เก็บยังมีจำนวนน้อยอยู่ จำเป็นต้องสะสมตัวอย่างกรณีนี้ต่อไปให้เพียงพอเพื่อให้เกิดผลสำรวจที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

9. เบาหวาน จากจำนวน 224 ราย ได้มีการเปรียบเทียบผู้ป่วยเบาหวาน 3 ราย ที่เข้าคอร์สแล้วไม่รับประทานยาเบาหวานต่อเลย หลังจากนั้นมาล้างพิษตับครั้งที่ 2 พบมีค่าน้ำตาลในเลือดลง 2 ราย และอีก 1 รายสูงขึ้น

จากผลการสำรวจสถิติทางการแพทย์เบื้องต้นทำให้เราสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้นจากการล้างพิษตับ แม้ว่าในบางกรณีจำเป็นต้องมีการเก็บสำรวจเพิ่มเติม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการล้างพิษตับ ที่จะได้พัฒนาและต่อยอดจากผลสำรวจครั้งนี้

จึงนำเรียนมาให้ผู้อ่านได้รับทราบผลดังกล่าว และขอกราบขอบพระคุณคุณณิชาภา พงศานรากุล เจ้าของศูนย์ล้างพิษตับของกลุ่มบุญคณา จังหวัดขอนแก่น รศ.นพ.อนัน ศรีพนัสกุล อาจารย์แพทย์จาก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้ทำการตรวจและสำรวจผลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และขอกราบขอบพระคุณผู้เข้าอบรมหลักสูตรทุกท่านที่เสียสละในการเป็นกลุ่มตัวอย่างเพื่อการแสวงหาข้อเท็จจริงพัฒนาในเรื่องนี้ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น