สธ.เผยผลตรวจปัสสาวะผู้เก็บกู้คราบน้ำมันทะเลระยอง 50 รายแรก ไม่พบสารก่อมะเร็ง ชี้หากพบเกินมาตรฐาน จะเจาะเลือดดูแลต่อเนื่อง ส่วนผลการตรวจคุณภาพอาหารทะเล ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ทั้งปลาและหอย คาดทราบผล 1-2 วัน ส่วนข้อมูลการเจ็บป่วย พบเฉพาะกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน เพียงอาการวิงเวียน ปวดหัว แต่ไม่พบอาการรุนแรง
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์การกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง ขณะนี้พบว่าดีขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ตั้งวอร์รูมที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง ประชุมติดตามประเมินผลกระทบสุขภาพประชาชนและวางแผนร่วมกันระหว่างสำนักโรคจากการประกอบอาชีพ สำนักควบคุมป้องกันโรคที่ 3 ศูนย์อนามัยที่ 3 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี และบริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล ทุกวัน
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า สำหรับผลการตรวจปัสสาวะผู้ปฏิบัติงานเก็บกู้คราบน้ำมันดิบ เพื่อหาสารเบนซีนตกค้างรวม 3 วัน จำนวน 1,133 คน เบื้องต้นทราบแล้ว 50 คน ยังไม่พบสารอนุพันธ์ของเบนซีน หรือสารที-ที มิวโคนิค แอซิด (t-t muconic acid) เกินค่ามาตรฐานคือ 500 ไมโครกรัมต่อกรัมครีเอตินีน ซึ่งผลการตรวจจะเริ่มทยอยออกมาเรื่อยๆ และหากรายใดพบเกินค่ามาตรฐาน ก็จะทำการเจาะเลือดตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติมต่อไป ซึ่งสารชนิดนี้เป็นสารที่อาจก่อให้เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวในระยะยาว หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน ดังนั้น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณที่มีการปนเปื้อน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานเก็บกู้คราบน้ำมันดิบ ขอให้สวมใส่ชุดปฏิบัติงานอย่างมิดชิด ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสัมผัส หรือสูดดม
“ผลการดูแลปัญหาการเจ็บป่วยที่หน่วยปฐมพยาบาลอ่าวพร้าว และที่ท่าเรือเกาะเสม็ด ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.พบทั้งหมด 159 ราย ส่วนใหญ่เจ็บป่วยทั่วไปคือ มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และอาการปวดเมื่อยทั่วไป ไม่มีรายใดอาการรุนแรง ส่วนการเฝ้าระวังปัญหาการปนเปื้อนในอาหารทะเล ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เก็บตัวอย่างน้ำดื่มและอาหารทะเล ประกอบด้วย ปลาทะเล 5 รายการ เช่น หอยเสียบ หอยแมลงภู่ อีก 3 รายการจากตลาดเพ และตลาด อ.แกลง ส่งตรวจวิเคราะห์โลหะหนัก คือ แมกนีเซียม แมงกานิส สารพีเอเอช (PAH:Polycyclic Aromatic Hydrocarbon) ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะทราบผลใน 1-2 วันนี้ และจะเก็บตรวจซ้ำอีก 15 วัน และ 30 วัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า การตรวจหาสารโลหะหนักในสัตว์ทะเลช่วงนี้จะยังไม่พบการปนเปื้อน เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเข้าห่วงโซ่อาหารในอีก 2-3 เดือน แต่เมื่อถึงระยะดังกล่าวก็ไม่ได้หมายความว่า การพบสารโลหะหนักจะมาจากคราบน้ำมันเสมอไป เนื่องจากอาจเกิดจากแพลงก์ตอนในทะเล ทำให้พบสารดังกล่าว แต่ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งบริโภคได้ไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ถึงการตรวจหาสารโลหะหนักในสัตว์ทะเล ว่าหน่วยงานไหนจะตรวจบริเวณใด หรือลักษณะใดจะได้ไม่เกินความซ้ำซ้อน ซึ่งในส่วนของ สธ.จะตรวจสอบอาหารทะเลสำเร็จเป็นหลัก
