ASTVผู้จัดการรายวัน - สป.จี้ 2 ล้านล้านต้องโปร่งใส จับตาประมูลถึงตรวจรับงาน หวั่นแผนเวนคืน-พัฒนา ไม่สอดคล้องผังเมือง กังวลเปิดช่องนายทุนกว้านซื้อที่ดินเก็งกำไร “ชัชชาติ”ทำหนังสือแจงศาลรธน. ด้าน“ปู” จัดแถงข่าวใหญ่โตขายฝันกู้สร้างอนาคต ยืนอ่านโพยไม่มีข้อมูลใหม่ ทำสื่อทำเนียบเซ็ง บ่นไม่คุ้มค่าจ้างออกาไนซ์ ถ่ายทอดช่อง 9
วานนี้(26 ก.ย.56)คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อศึกษาโครงการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลกการลงทุนของประชาชนเพื่อประชาชน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) นำโดย นางภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อหารือถึงการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท
โดยนายชัชชาติเปิดเผยว่า ทางสศช. ได้แนะนำถึงมาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการโดยต้องมีมาตรการสร้างความโปร่งใส ความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับสังคม โดยเฉพาะในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบโครงการ และการตรวจรับงานแนวทางปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการเอาเปรียบของเอกชนบางกลุ่มในการหาซื้อที่ดินล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไรจากเส้นทางที่รถไฟความเร็วสูงผ่าน รวมถึงขอให้รัฐบาลชี้แจ้งขั้นตอนการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจระหว่างรถไฟความเร็วสูง กับรถไฟทางคู่ และความแตกต่างของการลงทุนทั้งสองระบบ แผนการเวนคืนพื้นที่
แนวทางการพัฒนาและจัดสรรพื้นที่ และการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการได้อย่างแท้จริงพร้อมๆกัน รวมถึงการจัดทำแผนพัฒนาด้านผังเมืองให้สอดคล้องกับศักยภาพในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าอย่างเต็มที่
ส่วนในการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนและระบบโลจิสติกส์นั้น ทาง สศช.ได้แนะนำถึงแนวทางการเชื่อมโยงและเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางจากต้นทางถึงปลายทาง แนวทางการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบเชิงบูรณาการโดยเฉพาะแผนการพัฒนาทางน้ำ การพัฒนาโลจิสติกส์ทั้งเครือข่ายภายในและเชื่อมโยงสู่ต่างประเทศโดยการพัฒนาระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และแนวทางการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ของโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย
และโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. 2556-2563 ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคม จะจัดทำหนังสือชี้แจงในแต่ละประเด็นต่อ สศช. อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วและขั้นตอนต่อไปจะอยู่ในกระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งนายชัชชาติคาดว่า วุฒิสภาจะบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาได้ภายในวันที่ 7 ตุลาคมนี้
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงเปิดโครงการ “สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อชี้แจงถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะมีการจัดเสวนาและนิทรรศการ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการดังกล่าวใน 12 จังหวัด เริ่มที่ จ.หนองคาย เป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ ตามด้วย จ.นครราชสีมา วันที่ 11-13 ต.ค.56 จ.ชลบุรี วันที่ 15-17 ต.ค.56 จ.อุบลราชธานี วันที่ 18-20 ต.ค.56
จ.ขอนแก่น วันที่ 25-27 ต.ค.56 จ.นครสวรรค์ วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.เพชรบุรี วันที่ 8-10 พ.ย.56 จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8-11 พ.ย.56 จ.เชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย.56 จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 22-24 พ.ย.56 และปิดท้ายที่ จ.สงขลา วันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.56
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง เปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่เป็นจุดเริ่มต้น ให้ความหวังของคนสามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งถือว่า พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อสร้างอนาคตประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นใจกับนักลงทุน อีก 7 ปีข้างหน้า เมื่อมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกัน เชื่อมโยงสู่เมือง สร้างความเจริญอย่างเท่าเทียมกัน และสร้างความอบอุ่นของครอบครัว จึงอยากให้คนไทยทุกคน ร่วมวาดภาพโครงสร้างพื้นฐานในอีก 7 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ และอนาคตที่จับต้องได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงอนาคตไทย 2020 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ก่อนหน้านี้ โฆษกรัฐบาลแถลงข่าวแจ้งสื่อมวลชน ว่านายกรัฐมนตรี จะแถลงข่าวเปิดใจครั้งใหญ่ ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท ทำให้สื่อมวลชนหลายสำนักต่างเฝ้าจับตา ประเด็นใหม่ๆ ในการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ถึงวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ในการลงทุนงบมหาศาล เพื่อสร้างอนาคตประเทศ แต่ปรากฏว่าการแถลงข่าวเปิดใจดังกล่าว นายกฯ ได้ใช้เวลาแถลง โดยยืนอ่านเอกสารประกอบ ประมาณ 30 นาที ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ล้วนแต่เคยพูดผ่านสื่อมาแล้ว ทำให้สื่อต่างวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นไม่แตกต่างจากที่เคยนายกฯเคยพูดมา ที่สำคัญไม่คุ้มกับการลงทุนถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ช่อง 9 รวมถึงการจ้างบริษัทมาจัดงานแถลงข่าวดังกล่าวอย่างเอิกเกริก
วานนี้(26 ก.ย.56)คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อศึกษาโครงการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลกการลงทุนของประชาชนเพื่อประชาชน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) นำโดย นางภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อหารือถึงการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท
โดยนายชัชชาติเปิดเผยว่า ทางสศช. ได้แนะนำถึงมาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการโดยต้องมีมาตรการสร้างความโปร่งใส ความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับสังคม โดยเฉพาะในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบโครงการ และการตรวจรับงานแนวทางปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการเอาเปรียบของเอกชนบางกลุ่มในการหาซื้อที่ดินล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไรจากเส้นทางที่รถไฟความเร็วสูงผ่าน รวมถึงขอให้รัฐบาลชี้แจ้งขั้นตอนการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจระหว่างรถไฟความเร็วสูง กับรถไฟทางคู่ และความแตกต่างของการลงทุนทั้งสองระบบ แผนการเวนคืนพื้นที่
แนวทางการพัฒนาและจัดสรรพื้นที่ และการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการได้อย่างแท้จริงพร้อมๆกัน รวมถึงการจัดทำแผนพัฒนาด้านผังเมืองให้สอดคล้องกับศักยภาพในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าอย่างเต็มที่
ส่วนในการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนและระบบโลจิสติกส์นั้น ทาง สศช.ได้แนะนำถึงแนวทางการเชื่อมโยงและเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางจากต้นทางถึงปลายทาง แนวทางการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบเชิงบูรณาการโดยเฉพาะแผนการพัฒนาทางน้ำ การพัฒนาโลจิสติกส์ทั้งเครือข่ายภายในและเชื่อมโยงสู่ต่างประเทศโดยการพัฒนาระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และแนวทางการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ของโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย
และโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. 2556-2563 ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคม จะจัดทำหนังสือชี้แจงในแต่ละประเด็นต่อ สศช. อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วและขั้นตอนต่อไปจะอยู่ในกระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งนายชัชชาติคาดว่า วุฒิสภาจะบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาได้ภายในวันที่ 7 ตุลาคมนี้
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงเปิดโครงการ “สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อชี้แจงถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะมีการจัดเสวนาและนิทรรศการ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการดังกล่าวใน 12 จังหวัด เริ่มที่ จ.หนองคาย เป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ ตามด้วย จ.นครราชสีมา วันที่ 11-13 ต.ค.56 จ.ชลบุรี วันที่ 15-17 ต.ค.56 จ.อุบลราชธานี วันที่ 18-20 ต.ค.56
จ.ขอนแก่น วันที่ 25-27 ต.ค.56 จ.นครสวรรค์ วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 1-3 พ.ย.56 จ.เพชรบุรี วันที่ 8-10 พ.ย.56 จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8-11 พ.ย.56 จ.เชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย.56 จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 22-24 พ.ย.56 และปิดท้ายที่ จ.สงขลา วันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.56
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง เปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่เป็นจุดเริ่มต้น ให้ความหวังของคนสามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งถือว่า พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อสร้างอนาคตประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นใจกับนักลงทุน อีก 7 ปีข้างหน้า เมื่อมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกัน เชื่อมโยงสู่เมือง สร้างความเจริญอย่างเท่าเทียมกัน และสร้างความอบอุ่นของครอบครัว จึงอยากให้คนไทยทุกคน ร่วมวาดภาพโครงสร้างพื้นฐานในอีก 7 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ และอนาคตที่จับต้องได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงอนาคตไทย 2020 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ก่อนหน้านี้ โฆษกรัฐบาลแถลงข่าวแจ้งสื่อมวลชน ว่านายกรัฐมนตรี จะแถลงข่าวเปิดใจครั้งใหญ่ ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท ทำให้สื่อมวลชนหลายสำนักต่างเฝ้าจับตา ประเด็นใหม่ๆ ในการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ถึงวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ในการลงทุนงบมหาศาล เพื่อสร้างอนาคตประเทศ แต่ปรากฏว่าการแถลงข่าวเปิดใจดังกล่าว นายกฯ ได้ใช้เวลาแถลง โดยยืนอ่านเอกสารประกอบ ประมาณ 30 นาที ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ล้วนแต่เคยพูดผ่านสื่อมาแล้ว ทำให้สื่อต่างวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นไม่แตกต่างจากที่เคยนายกฯเคยพูดมา ที่สำคัญไม่คุ้มกับการลงทุนถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ช่อง 9 รวมถึงการจ้างบริษัทมาจัดงานแถลงข่าวดังกล่าวอย่างเอิกเกริก