ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาในคดี ทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. ให้จำคุก นายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย เป็นเวลา 12 ปี และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. 10 ปี
แต่ทั้งคู่ได้หายตัวไป ไม่มาฟังคำพิพากษา และยังไม่สามารถจับกุมให้มารับโทษได้ ไม่ต่างจากคดีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย หรือกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็หนีคำพิพากษาในคดีที่ดินรัชดา
จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเกิดความรู้สึกว่า เรื่องการทุจริตกับนักการเมืองเป็นของคู่กัน และเมื่อมีการทุจริตแล้วแม้จะสามารถเอาผิดได้ แต่ก็ไม่สามารถจับตัวมาลงโทษได้
ขณะที่ความเสียหายได้เกิดขึ้น และสำเร็จแล้ว อย่างกรณีทุจริตรถและเรือดับเพลิงของกทม.นี้ ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างกว่า 6 พันล้นบาท แต่ไม่สามารถนำมาใช้ได้เลย จอดไว้เฉยๆเป็นเวลา 7 ปีแล้ว จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่สามารถนำมาใช้งานได้
ปัญหาเหล่านี้ ทำให้ถูกมองว่า กระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายในการจัดการกับพวกนักการเมืองที่คอร์รัปชันนั้น มีความล่าช้า ไม่ศักดิ์สิทธิ์ บางคดีใช้เวลานานจนหมดอายุความ บางคดีแม้ศาลจะตัดสินแล้วว่าผิด แต่ก็ไม่สามารถเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้
ทำให้นักการเมืองไม่เกรงกลัว และก็จะเป็นตัวบ่อนทำลายคุณธรรมของสังคมไทย เพราะพากันคิดว่า เรื่องคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติ แม้จะถูกจับได้ไล่ทัน แต่ก็ไม่ติดคุก ไม่น่ากลัว
ปัญหานี้ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ในฐานะรองประธาน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เห็นว่าเป็นเรื่องที่นำไปสู่การกัดเซาะ บ่อนทำลายประเทศชาติ อย่างน่ากลัวที่สุด จึงได้เสนอแนวทางการป้องกัน หรือแก้ไขปัญหา เพื่อให้ภาครัฐ และภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันพิจารณา และนำไปสู่การปฏิบัติ อาทิ
หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องเปิดเผยข้อมูลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างสู่สาธารณะและการประมูลโครงการใหญ่ มีบังคับใช้กฎหมายทางด้านภาษี และระบบงบประมาณอย่างจริงจัง เพื่อควบคุมเรื่องรายได้ รายรับ รายจ่าย ของหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจน
สนับสนุนแนวทางการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ พร้อมมีการเสนอสินบนหรือรางวัลในวงเงินที่จำกัดและเหมาะสมในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การกำหนดโทษและบทลงโทษผู้ทุจริต คอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐให้รุนแรงขึ้น และให้มีอายุความยาวนานขึ้น ไม่ใช่หมดอายุความแค่ 20 ปี
สนับสนุนการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชน ในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบโครงการ เช่น การจัดระบบประชาพิจารณ์โครงการ การกำหนดกฎจรรยาบรรณและการส่งเสริมให้มีการใช้จรรยาบรรณในวิชาชีพทั้งในภาคราชการและธุรกิจเอกชน
ในยุคของรัฐบาลที่อ้างประชาธิปไตย แต่ลุอำนาจ คิดทำโครงการขนาดใหญ่ ใช้งบประมาณมหาศาล อย่างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม 3.5 หมื่นล้านบาท โครงการรับจำนำข้าว ที่ใช้ไปแล้ว 7 แสนล้านบาท ล้วนมีข้อครหา และถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน
และ ที่กำลังจะกู้มาเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีก 2 ล้านล้านบาท ก็หนีไม่พ้นปัญาทุจริต คอร์รัปชันเช่นกัน
ถึงเวลาหรือยังที่เราคนไทย เอาจริง ไม่ปล่อยให้นักการเมืองโกงลอยนวล !!
