xs
xsm
sm
md
lg

โกงแล้วโกยตามสไตล์ “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

คดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.จบลงแล้ว โดยมีผู้เกี่ยวข้องติดบ่วง 2 คนคือ นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.

โทษของนายประชา เจอคุก 12 ปี ส่วนพล.ต.ต.อธิลักษณ์ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี

ผู้ต้องหาคดีนี้ มีนักการเมืองอีก 4 คนคือ นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งศาลตัดสินยกฟ้อง ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม.อีกคน ถูกจำหน่ายคดี เพราะเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งถ้ายังอยู่ ไม่รู้จะติดร่างแหด้วยหรือไม่

คนโกงถูกตัดสินลงโทษแล้ว แต่ปัญหาคือ จำเลยทั้ง 2 คนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินความผิด ไม่ยอมอยู่ชดใช้กรรม โดยเผ่นหนีไปก่อนหน้า

นายประชาและพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ไม่ยอมเดินทางมาฟังคำตัดสิน ซึ่งอาจเป็นเพราะรู้ชะตากรรมตัวเอง แต่สิ่งที่ต้องตั้งคำถาม คือ ทั้งสองคนรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าจะไม่รอด จึงทำตัวเป็นนกรู้

การตัดสินลงโทษนายประชา 12 ปี พล.ต.ต.อธิลักษณ์ 10 ปี ถือว่าสาสมกับพฤติกรรมความผิดแล้ว และอาจน้อยไปด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับวงเงินทุจริต 6.6 พันล้านบาท

แต่โทษจำคุกสิบๆ ปี คงไม่คุ้มเลย ถ้าไม่ได้คนโกงมาลงโทษ

นายประชา มาลีนนท์ อดีตผู้บริหารช่อง 3 และอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มมาลีนนท์แห่งช่อง 3 ได้เผ่นออกนอกประเทศไปแล้ว ข่าวว่าไปลี้ภัยความผิดอยู่แถวยุโรป และคงไม่ยอมกลับมารับโทษแน่ จนกว่าคดีจะหมดอายุความ

ส่วนพล.ต.ต.อธิลักษณ์ยังไม่มีรายงานว่าหลบไปที่ไหน แต่คงหลบออกนอกประเทศเหมือนกัน

ประเพณี “โกง” แล้ว “โกย” เป็นแนวทางปฏิบัตินิยมของนักการเมือง เพราะไม่ได้มีเพียงนายประชาคนแรกที่หนี หลังถูกจับได้ว่าทุจริตและถูกตัดสินลงโทษ โดยคดีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็หนี และป้วนเปี้ยนอยู่แถวเขมรหรือฮ่องกง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หลบไปก่อนที่ศาลจะตัดสิน คดีทุจริตการประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก แต่เป็นนักโทษหนีคดีเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมสยบต่อความผิดที่ก่อไว้ โดยเคลื่อนไหวชักใยสร้างความปั่นป่วนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นายประชากลายเป็นนักการเมืองคนล่าสุดที่หนีอาญาแผ่นดิน และคงจะติดตามจับตัวมาลงโทษไม่ได้ เช่นเดียวกับนายวัฒนาและพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เพราะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คงไม่กล้าดำเนินการติดตาม ไม่มีใครประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือจับกุม และส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาติดคุกในประเทศไทย ทำให้นักการเมืองที่ถูกตราหน้าว่าโกงทั้งหมด สามารถเสวยสุขในต่างประเทศ

เงินที่โกงไปนับพันนับหมื่นล้านบาท ทำให้อยู่ที่ไหนก็ได้ในโลก โดยไม่ต้องกลัวจะถูกตามจับ เพราะเป็นนักการเมืองเสียอย่าง จะได้รับสิทธิยกเว้น ไม่ต้องตามล่าเหมือนผู้กระทำความผิดทั่วไป โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งบงการรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์อยู่

สำหรับนายประชา ชีวิตอาจดับวูบ อนาคตดับวูบ และไม่รู้ว่า ลมหายใจที่เหลือ จะมีโอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ชะตากรรมสุดท้ายของนายประชาจะรันทดขนาดไหน แต่ก็ไม่อาจชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้นกับประเทศได้

เงินที่นักการเมืองปล้นจากประเทศ ทุกบาททุกสตางค์เป็นของประชาชน ไม่ว่าจำนวนพันล้านหมื่นล้านหรือแสนล้านบาท ล้วนมีความหมายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสิ้น

เพราะถ้าไม่ถูกนักการเมืองโกง เงินจากการทุจริตคอร์รัปชัน จะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

การทุจริตเกิดขึ้นตลอดเวลา เกิดในทุกกลไกของรัฐ เกิดขึ้นในทุกหย่อมหญ้า ปีๆ หนึ่งนักการเมืองอาจร่วมกันโกงนับแสนล้านบาท ตระกูลนักการเมืองมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาวบ้านทำงานทั้งชาติก็ยังไม่รวย

การจับนักการเมืองหน้าขี้โกง ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย นานทีจึงมีหลักฐานคาหนังคาเขาถึงขั้นลงโทษได้ แต่ถึงตัดสินลงโทษแล้ว แต่กลับไม่ได้ตัวลงโทษให้สาสมเสียอีก ไม่น่าเจ็บใจหรือ

สำหรับ “ประชา มาลีนนนท์” หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว และอย่าหวังว่า จะได้ตัวกลับมาลงโทษ เพราะมาตรฐานการติดตามตัวนักโทษหนีคดีสำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คงไม่แตกต่างจากนักโทษทักษิณ ชินวัตร โดยจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น

ปล่อยให้คนโกงลอยนวล และลอยหน้าลอยตาเย้ยความรู้สึกของประชาชนเหมือนที่พ.ต.ท.ทักษิณกำลังทำอยู่

ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมประเทศจึงติดอันดับประเทศที่มีการทุจริตสูง ในเมื่อไม่มีใครกลัวความผิด ไม่มีใครกลัวติดคุก

หลายคดีที่โกงกันเห็นๆ แต่เอาโทษนักการเมืองไม่ได้ คดีที่มีหลักฐานมัดตัว ถูกจับได้ ถูกตัดสินลงโทษ มันก็หอบเงินเผ่นหนีไปเสวยสุขต่างประเทศเสียอีก ไม่มีใครกระตือรือร้นตามจับเสียด้วย

นักการเมืองยุคนี้จึงตั้งหน้าตั้งตาโกงกันลูกเดียว ไม่ต้องอายและไม่ต้องกลัว เพราะโกงกันทุกคน ใครจะไปจับใคร ยิ่งรัฐบาลชุดนี้ ยิ่งไม่สนใจจับคนโกงเสียด้วย

เพราะถ้าใส่ใจ “ยิ่งลักษณ์” คงจะไล่ตามจับ “ทักษิณ” ไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น