xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

มาตรการคิวอีกับราคายาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมคณะกรรมการครั้งล่าสุด ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่อเดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

การคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้ในการกำหนดในการดำเนินนโยบายการเงิน หรือ US Federal Fund Rate แสดงให้เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดหวังมากนัก โดยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดก็คือ ธนาคารากลางสหรัฐฯ ได้ประกาศลดการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงจาก 2.3-2.6% มาอยู่ที่ 2.0-2.3%

นั่นทำให้ เฟดสร้างความประหลาดให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ คิวอี ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่อเดือน และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง หรือ เอ็มบีเอส วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ต่างคาดว่า เฟดน่าจะเริ่มใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ด้วยการลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือนลง โดยจะทยอยลดวงเงินไปจนกระทั่งกลางปีหน้า แต่แถลงการณ์ดังกล่าวของเฟด แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีความไม่แน่นอนในประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาของเฟด จะส่งผลโดยตรงต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทันที กล่าวคือ หลังจากที่มีการปรับคงอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวอ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินตราสกุลอื่น เนื่องจากผลตอบแทนจากการฝากเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ คงที่ เงินทุนย่อมไหลออก ทำให้นักลงทุนต้องการแลกเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินตราสกุลอื่นจำนวนมาก เพื่อนำเงินดังกล่าวไปลงทุน ทำให้ ราคาของเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง เพราะอุปทานสูงขึ้น ในขณะที่อุปสงค์ ลดลง

นั่นจึงทำให้คาดการณ์กันว่า ค่าเงินบาทอาจจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง เพราะจะมีเงินทุนไหลเข้าประเทศจำนวนมากขึ้น เพราะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสหรัฐฯ

นั่นทำให้ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อธิบาย ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น หลังจากการคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) คงขนาดมาตรการ QE ไว้ที่เดิม

อย่างไรก็ตาม ธปท.คาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะขยายตัวดีกว่าทุกไตรมาส แต่อาจไม่สูงเท่าไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา

จะยิ่งทำให้เงินทุนไหลเข้าประเทศไทยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลง ราคาโลหะมีค่า (ในราคาของเงินดอลลาร์) ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นเงินตรามาก่อน เช่น ทองคำ หรือ เงิน ย่อมปรับตัวสูงขึ้น และข้อเท็จจริงของการซื้อขายทองคำ และเงิน ก็บ่งบอกสถานการณ์เหล่านั้น

ราคาทองคำปรับขึ้นทันทีจาก 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 1,359 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเฟด คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ยางแผ่น (RSS3 Futures)ที่ซื้อขายกันในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

นั่นทำให้การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาจจะมีผลกระทบที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก และอาจจะไม่มีความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมาว่า การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ จะส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไร

แตกต่างกับการเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นย่านเอเชีย เพราะดัชนีตลาดหุ้นในย่านต่างพากันปรับตัวสูงขึ้นทันที

ที่สำคัญราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางพารา แม้จะมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็เพียงเล็กน้อย

โดยราคายางแผ่นดิบ และยางแผ่นรมควันตลาดกลางยางพาราสงขลา เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นกิโลกรัมละ 0.73 บาท และ 1.05 บาท แตะระดับ 78.13 บาท/กก. และ 80.29 บาท/กก. ในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีกต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมทั้งยางพารา

แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นคนละเรื่องเดียวกันกับการเรียกร้องของชาวสวนยาง ให้รัฐบาลรับซื้อยางพารากิโลกรัมละ 100 บาท 

            "ตอนนี้ผมพูดได้เลยว่า คนที่นี่ยอมตาย พร้อมสู้กันเต็มที่ นี่คือความใจกล้าของคนในพื้นที่ ที่ผ่านมารัฐมองเราผิด อย่าคิดว่าคนที่นี่รวมตัวกันเพราะการเมือง หากคิดเช่นนั้นจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ท่าทีของคนในพื้นที่แล้ว มันเหมือนกับว่าเราขอหมู รัฐบาลให้สุนัข มันคนละเรื่อง สิ่งที่เราขอคือ การประกันราคา เรารับไม่ได้ กับมาตรการ 2,520 บาทต่อไร่ เพื่อช่วยเรื่องปัจจัยการผลิต" ทศพล ขวัญรอด ผู้ประสานเกษตรกรสวนยางพารา 16 จังหวัด อธิบายความรู้สึกของชาวสวนยางไว้อย่างชัดเจน

ที่สำคัญเป็นการบ่งบอกว่า การชุมนุมที่ ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้กลายเป็นการชุมนุมที่แสดง “ความเกลียดชัง”ต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างสุดๆ

เกลียดแม้กระทั่งคนเนรคุณบ้านเกิดแบบ ไอ้เต้น ไอ้ตู่ ไอ้ก่อแก้ว แม้กระทั่ง พร้อมพงศ์

คนเหล่านี้ เป็นคนใต้ทั้งสิ้น แต่ไม่เคยกรีดยาง ไม่รู้ว่าการที่ต้องตื่นตี 3 เพื่อไปกรีดยางนั้น มีความลำบากอย่างไร

บรรพบุรุษคนพวกนี้ คงเสียใจที่มีคนไม่รู้จักบุญคุณเช่นนี้ เพราะมีการกล่าวหาว่า ไม่ใช่ชาวสวนยาง แต่เป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ถูกยุยงมา
            
เหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจและชาวสวนยาง ระเบิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยตำรวจประสบความสำเร็จ ยึดพื้นที่คืน พร้อมกับการเข้าจับกุม "ชญานิน คงสง" 1 ใน 11 แกนนำ ที่ถูกออกหมายจับ แต่เป็นไปในช่วงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น

หลังจากนั้นในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 16 ก.ย. ผู้ชุมนุมที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่นำมาเพื่อการปะทะ และจำนวนของผู้ชุมนุม ที่มีมากกว่ากำลังเจ้าหน้าที่ มีผลให้ เจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นกลับไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายชาวสวนยางพารา 16 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 50 คน นำโดย นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดตรัง ได้มีการหารือถึงสถานการณ์ปัญหาราคายางพารา โดยได้ประณามรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่บริเวณควนหนองหงษ์ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา และมีข้อเสนอ 6 ข้อ คือ

1.ให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ

2.ให้ถือว่าการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพารา บริเวณควนหนองหงษ์ เป็นสิทธิโดยชอบธรรม ให้รัฐบาลพิจารณาการช่วยเหลืออย่างจริงจัง

3.ให้เครือข่ายชาวสวนยางพารา มีสิทธิ์ทุกจังหวัด ส่งตัวแทนเข้าเจรจากับผู้ว่าฯ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ให้ยุติการใช้อำนาจรัฐ ข่มขู่ คุกคาม จับคุม กุมขัง อย่างไม่เป็นธรรม

4.ให้รัฐบาลออกคำสั่งให้มีการประกันตัวกับผู้ต้องหาที่ถูกกุมขังจากกรณีได้ชุมนุมประท้วงทุกคน

5. ให้รัฐยุติการแทรกแซง และความขัดแย้งในหมู่เกษตรกร รวมทั้งการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อใส่ร้ายผู้ชุมนุมประท้วง

6. หากรัฐบาลใช้ความรุนแรง และใช้กำลังเข้าสลายม็อบบ้านควนหนองหงษ์ เครือข่ายจะยกระดับการชุมนุมทั้ง 16 จังหวัดภาคใต้ทันที

ด้านสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนในสถานการณ์ความรุนแรง จากการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงตระหนักว่า ในพื้นที่การชุมนุมยังคงมีความตึงเครียด โอกาสที่จะเกิดความรุนแรง เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยระหว่างการเข้าไปทำหน้าที่ ให้สื่อมวลชนทุกแขนงระมัดระวังการนำเสนอข่าว ภาพข่าว ด้วยการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน รอบด้าน และพยายามหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าว ภาพข่าว ในลักษณะที่เป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และให้กลุ่มผู้ชุมนุมฯ และตำรวจ เข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ที่ต้องการเสนอข้อเท็จจริงออกสู่สาธารณะอย่างถูกต้อง รอบด้าน โดยไม่ต้องการตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายใช้การพูดคุย การเจรจาเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาของทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ปมปัญหาสำคัญของราคายางพารายังคงมีเสมอ ตราบใดที่รัฐบาลแสดงพฤติกรรมกะล่อน เอาเงินสนับสนุน 2,520 บาท ไปกลบเกลื่อนการประกันราคา




กำลังโหลดความคิดเห็น