xs
xsm
sm
md
lg

ตั๋วจองทองทะลัก-ตจว.ปิดร้านหนี-หวั่นบาทแข็งกดซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - หวั่นบาทแข็งพ่นพิษ กดทองคำร่วงต่อ ล่าสุดผันผวนจัดเปิดร่วงอีก 350 บาท แต่พอปิดกลับบวกอีก 50 บาท จากความต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไรล้นหลาม และตัวเลขเศรษฐกิจจีนช่วยหนุน ลุ้นหากผ่าน 1,400 เหรียญ/ออนซ์ อาจฟื้นต่อ "กิตติรัตน์"มั่นใจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนต่างจังหวัดคนยังแห่เข้าคิวซื้อ ตั๋วจองทองสะพัดแทนของจริงที่มีไม่พอบางร้านเริ่มเจ๊งจากต้นทุนที่สูงกว่าขาย พบบางจังหวัดร้านทองพร้อมใจปิด ประชาชนโวย

ราคาทองคำวานนี้ (18เม.ย.) ยังผันผวนจัด โดยช่วงเช้าเปิดตลาด สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำประกาศปรับราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 18,500 บาท ขายออกบาทละ 18,600 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 18,237.48 บาท ขายออกบาทละ 19,000 บาท ลดลง 350 บาท เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.58 น. (ปรับราคาครั้งที่ 8 ในรอบวัน) ซึ่งทองแท่ง รับซื้อที่บาทละ 18,850 บาท ขายออก 18,950 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 18,571 บาท ขายออกบาทละ 19,350 บาท

ต่อมาระหว่างวัน สมาคมค้าทองคำมีทยอยปรับเพิ่มราคาทองคำถึง 9 ครั้งล่าสุด 16.30น. ราคาทองคำแท่งมาอยู่ที่ขาย 19,000 บาท รับซื้อ 18,900 บาท บวกเพิ่ม 50 บาท ขณะที่รูปพรรณขาย 19,400 บาท รับซื้อ 18,631 บาท

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ส่วนหนึ่งที่ช่วงเช้ามีการปรับลดลงมาก เพราะกองทุนต่างประเทศยังขายทองคำออกมาขณะเดียวกันค่าเงินบาทวานนี้ก็มีความผันผวน โดยแข็งค่าขึ้นมาทำสถิติใหม่จึงกดดันให้ราคาทองคำตอนเปิดตลาดปรับตัวลดลง แต่พอจีนประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมาดีขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจต่อนักลงทุนจนราคาปรับตัวสูงขึ้น บวกกับความต้องการทองคำเพื่อสะสมเก็งกำไรของนักลงทุนที่มีขึ้นมามาก จนสินค้าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ และบางร้านต้องออกใบจองเพื่อมารับทองคำในสัปดาห์หน้า

*"โต้ง" ย้ำราคาทองจะกลับสู่ภาวะปกติ
 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลัง ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเรียกรัฐมนตรีและคณะทำงานนโยบายเศรษฐกิจหารือและติดตามสถานการณ์ราคาทองคำผันผวนรุนแรงว่า ราคาทองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วที่สุด ขณะนี้ราคาทองคำเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ออมทองสนใจเข้ามาซื้อจำนวนมาก แต่จำเป็นต้องมีการติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด

"ปริมาณทองที่ประชาชนถือครองยังมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับปริมาณเงินออมทั้งหมด
และเชื่อว่าผู้ที่ออมทองเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความพร้อมในการออมสูงจึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม" นายกิตติรัตน์กล่าว

ส่วนสาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นลงรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากปัจจัยทางด้านจิตวิทยา
หลังจากนักลงทุนมีความกังวลกรณีสมาชิกในกลุ่มอียูบางประเทศเทขายทองคำในคลังสำรองเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้ให้กับประเทศของตนเอง

**แม่ทองสุกย้ำสถานะแกร่ง ลูกค้ามั่นใจได้

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงภาพรวม ณ ขณะนี้ว่า ราคาทองคำที่ปรับลงช่วงเช้า 350 บาท ก็รีบาวด์ขึ้นมา 400 บาท รวมคือราคาปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 50 บาทแล้ว จากความต้องการทองคำของนักลงทุนที่มากขึ้น และความผันความผันผวนของค่าเงินบาทด้วย ซึ่งตอนนี้ราคาทองคำโลกเริ่มมาทดสอบแนวต้านที่ 1,395 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,400 เหรียญ ที่ขึ้นไปทดสอบถึง 2 ครั้ง

"สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาคือ การปรับตัวของราคาทองคำคืนนี้ หากทะลุ 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ได้ ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอีกเล็กน้อย หากไม่สำเร็จ ทิศทางและแนวโน้มยังอยู่ขาลง ซึ่งแนวรับต่ำสุดเรามองไว้ที่ 1,375 เหรียญ และ 1,330 เหรียญ โดยด้านปัจจัยพื้นฐาน กองทุนทองคำ SPDR และเฮดจ์ฟันด์ รวมถึงกองทุนต่างๆ ที่ถือทองคำอยู่ยังขายทองคำออกมา ทำให้โอกาสปรับตัวลดลงยังมีอยู่มาก จึงต้องเตือนนักลงทุนถือเงินสดรอดูสถานการณ์ "

นายณัฐพงศ์ กล่าวเสริมว่า นักลงทุนไทยกำลังโดยปัจจัยลบกดดัน 2 ทาง คือ การเทขายทองคำจากกองทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศกดราคาทองคำลดลง ขณะเดียวกัน ปัจจัยลบในประเทศขณะนี้คือ การแข็งค่าของเงินบาทที่มาอยู่ที่ 28.73 บาท/เหรียญสหรัฐ เข้ามากดดันราคาให้ปรับตัวลดลงเพิ่ม โดยหากบาทยังแข็งค่าต่อไปอีกก็จะมีผลต่อราคาทองคำยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนภาพรวมธุรกิจของกลุ่มแม่ทองสุก นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ได้เตรียมรับมือกับเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ลูกค้าของบริษัททั้งในการลงทุนทองคำแท่ง และโกลด์ ฟิวเจอร์ส ได้รับผลกระทบในครั้งนี้น้อยกว่าที่หลายๆ ฝ่ายหวั่นวิตก โดยมีเพียง 5% ของลูกค้าทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำในรอบนี้

**โบรกฯเชื่อทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ เปิดเผยถึง กลยุทธ์การลงทุนทองคำ โดยมองว่า
ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีไว้ในพอร์ต เพื่อวัตถุประสงค์ในการกระจายความเสี่ยงและป้องกันความเสี่ยงกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ หรือหากเกิดภาวะสงคราม โดยแนะนำให้น้ำหนักการลงทุนของทองคำไว้ที่ 5-10% ของพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งหากนักลงทุนมีน้ำหนักการลงทุนในทองคำที่มากกว่านั้น ควรหาจังหวะขายออกในช่วงที่ราคาทองคำรีบาวนด์มาที่ระดับ 1,400-1,420 เหรียญต่อออนซ์

**ตจว.คึกคักคนแห่ซื้อทองล้นหลาม
 

ทางด้านบรรยากาศการซื้อขายทองคำในตลาดต่างจังหวัดก็คึกคักไม่แพ้กัน เช่นที่จ.น่าน น.ส.นิรัชรา ต๊ะแก้ว พนักงานขาย ห้างทองนิยมพรรณ เลขที่ 34 ถนนข้าหลวง ต.ในเวียง อ.เมือง กล่าวว่าทั้งชาวบ้านและนักลงทุนมาซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็บไว้เก็งกำไรจำนวนมากแต่ทางร้านได้ขายจนหมดแล้ว จึงต้องขายออกเป็นตั๋วจองไว้ ซึ่งยอดขายและสั่งจองเฉพาะวันที่ 17 เมษายนมีกว่า 200 บาท

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนโทรศัพท์มาขอบทความวิเคราะห์ตลาดทองคำและข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วยซึ่งทางร้านก็ได้แนะนำให้ชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะมีความผันผวนอย่างมา

นางปทุม นาสวน อายุ 66 ปี นายกสมาคมผู้ค้าทองจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ประชาชนออกมาเลือกซื้อทองรูปพรรณกันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่หาซื้อน้ำหนัก 1-2 บาท บางรายก็มาซื้อเก็บไว้เก็งกำไร รายหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 บาททีเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบางร้านต้องขาดทุน 5-6 ล้านบาท ยิ่งจนถึงขณะนี้ราคาทองคำก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน เนื่องจากต่างประเทศ ทั้งตลาดยุโรป กรีซ ไซปรัส อิตาลี
และสเปนมีแนวโน้มเทขายทองออกมาอีก ทำให้ตลาดทั่วไปเทขายตามเช่นเดียวกัน จึงยังทำให้ราคาผันผวนต่อไปอีก

ส่วนที่จ.ตรัง เกือบเกิดเหตวุ่นวาย เมื่อประชาชนต่างรอซื้อทองคำเพื่อหวังที่จะเก็งกำไร แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะร้านทอง 50 ร้าน พร้อมใจกันปิดร้านตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน และขึ้นป้ายเปิดให้บริการวันที่ 22 เมษายน จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า ต้องการหนีประชาชนที่แห่มาซื้อทองเพื่อเก็งกำไร

อย่างไรก็ตาม นายวรพงษ์ เลาหะสราญ เจ้าของร้านทองวรสุนทร และประธานชมรมร้านทองจังหวัดตรัง ชี้แจงว่า เดือนธันวาคมของทุกปี ทางชมรมจะทำหนังสือเวียนไปยังสมาชิกให้เข้าร่วมประชุมใหญ่และลงมติหาวันหยุดที่เหมาะสมให้ตรงกัน ซึ่งในแต่ละปีร้านทองจะมีวันหยุดเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น เพื่อให้สมาชิกพาครอบครัวไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ดังนั้นไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลงก็ต้องเปิดให้บริการพร้อมกัน เพราะเป็นมติที่ประชุมชมรม และไม่ว่าจะปิดหรือเปิด ร้านก็ไม่ได้กำไรมากนัก แต่กรณีนี้เป็นเหตุบังเอิญประจวบเหมาะพอดีกับช่วงที่ร้านทองหยุดยาวมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น