น้ำท่วม คิดถึง “นายกฯ ปู” โหยหา “คุณชายหมู”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ชั่วโมงนี้ ใครที่เคยประสบชะตากรรมกับมหาอุทกภัยในปี 2554 คงกำลังหวาดผวาและขวัญเสียอยู่ไม่น้อย เพราะทำไปทำมาทำท่าว่า ฟ้าฝนที่โหมกระหน่ำอย่างไม่เว้นแต่ละวันในช่วงนี้จะก่อปัญหาในหลายพื้นที่ กระทั่งเกรงว่า อาจเกิดเหตุซ้ำรอยอย่างที่ไม่คาดฝันขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้

และแน่นอนว่า เมื่อภัยกำลังจะมาเยือน ชาวบ้านคงจะอดนึกถึงผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ของบ้านนี้เมืองนี้ไม่ได้ว่า พวกเขาได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือเหตุการณ์มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ที่ชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

แถมยิ่งคิดถึงก็ยิ่งขนหัวลุก เพราะที่ผ่านมาแทบไม่ได้เห็นทั้งกรุงเทพมหานครและรัฐบาลทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย การกู้เงิน 3.5 แสนล้านที่รัฐบาลอ้างนักหนาว่าเร่งด่วนเพื่อใช้ลงทุนบริหารจัดการกับปัญหาน้ำท่วม

มาจนบัดนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า แทบยังทำท่าว่าจะขัดรัฐธรรมนูญอีกต่างหาก ส่วนคุณชายหมูหลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.สมัยที่ 2 ก็เงียบหายจนคนกรุงลืมไปแล้วว่าเลือกใครมาเป็นผู้ว่าฯ กระทั่งหลายคนอดนึกเสียใจไม่ได้ว่า การตัดสินใจเพื่อสั่งสอนระบอบทักษิณในคราวนั้น ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ

วันนี้ กรมชลประทานรายงานว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ๆและ รมชลประทานรายงานว่า กำลัง ธานีก็คงไม่แคล้วที่จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน้น ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆหลายพื้นที่ของจังหวัดอยุธยาเริ่มประสบปัญหาแล้ว ขณะที่ปทุมธานีก็คงไม่แคล้วที่จะต้องเผชิญกับมวลน้ำก้อนมหึมาที่กำลังไหล่บ่ามาเยือน ส่วนกรุงเทพฯ ถ้าฝนยังคงตกเช่นนี้อีกไม่ช้าคงได้เห็นดำเห็นแดงกัน

ไปที่เรื่องอื่นกันบ้าง เริ่มจาก รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรี ที่ร่วมแสดงความยินดีกับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1โครงการแข่งขันหุ่นยนต์ ซีอาร์ยู โรบอทเกมส์ ระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา ครั้งที่ 4….ก็ต้องขอชื่นชมและปรบมือได้ด้วยนะจ๊ะ

ตามต่อด้วย “บุญเกียรติ โชควัฒนา” กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ และ มร. Bon-Keul Koo ประธาน และ CEO บริษัท LG Fashion Corp. ร่วมลงนามในพิธีเซ็นสัญญานำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังสัญชาติเกาหลี ‘HAZZYS’ (แฮซซิส) ณ สำนักงานใหญ่ LG Fashion Corp. กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อไม่นานมานี้ โดยมีกำหนดการเปิดร้านค้าแห่งแรกในประเทศไทย ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาชิดลมในเดือนตุลาคม และ Flagship store ที่ห้างสรรพสินค้าสาขาเซ็นทรัลเวิร์ล ในเดือนธันวาคม ศกนี้

และปิดท้ายกับ Tan Sri Muhyiddin Bin MohdYassin (ตันศรี มูยิดดีนบินมูฮัมมัด ยัสซิน) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย และ Dato’ Paduka Haji MukhrizTun Mahathir (ดาโต๊ะ ปาดูกา ฮัจญีมูคีร ตุน มะฮะเดร์) มุขมนตรีรัฐเคดาห์ Mr. Azlan Man (มัซลัน มาน) มุขมนตรีรัฐเปอร์ลิส Dato’ NazirahbintiHussain (ดาโต๊ะ นาซีเราะฮ์ บินตี ฮูเซน) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลมาเลเซียรวม 52 คนเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าเยี่ยมชมศักยภาพกิจการฮาลาลไทยตามแนวทางศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ และร่วมประชุมกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย โดยมี ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมนางสาวลดาวัลย์ คำภา รองเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ, พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและ รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน
Eating Out

กินข้าวนอกบ้าน

การกินเป็น 1 ใน 4 กิจกรรมที่มนุษย์มีความสุขมากที่สุด และดูเหมือนจะเป็นอันดับหนึ่งเสียด้วยซ้ำไปเมื่อเทียบกับกิจกรรมที่เหลืออีก 3 กิจกรรม ซึ่งประกอบไปด้วย “อุจจาระ เพศสัมพันธ์และการนอน” หรือที่เรียกกันแบบชาวบ้านๆ ว่า “กิน ขี้ ปี้ นอน”

แต่นั่นก็ไม่ใช่บทสรุปที่ชัดแจ้ง เพราะบางคนอาจเห็นว่า กิจกรรมสุขสุดท้ายมีความสุขที่สุดก็เป็นได้...5555

เอาเป็นว่า บรรทัดนี้มาว่ากันเรื่องกินกับหนังสือที่มีชื่อว่าEating Out กินข้าวนอกบ้าน ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมร้านอาหารโดนๆ จากคอมลัมน์ TO GOในนิตยสารสุดสัปดาห์กันดีกว่า เนื่องจากอาจยังหาข้อสรุปไม่ได้ในชั่วโมงนี้

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ตรงการแบ่งหมวดหมู่ของอาหารประเภทต่างๆ ให้ได้ค้นหาได้ง่าย ทั้งไทย จีน เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาเลียน พร้อมร้านขรมสำหรับคนรักของหวาน ซึ่งนักกินท่านใดขี้เกียจไล่อ่านทีละหน้าก็ขอให้ให้ดูสัญลักษณ์ที่มุมด้านซ้ายของหน้าหนังสือแล้วเลือกเอาว่าจะกินอาหารประเภทไหน เช่น ถ้าอยากสุขสมกับอาหารไทยก็จะมีธงชาติไทยปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับอาหารญี่ปุ่นก็จะมีธงชาติญี่ปุ่นปรากฏให้เห็น

แถมในช่วงท้ายเล่มยังมีแผนที่เส้นทางร้านอาหารในโซนต่างๆ ประกอบการตัดสินใจอีกต่างหาก คือถ้าใครอยู่ในโซนเอกมัย-ทองหล่อ แล้วขี้เกียจไปพลิกดูทีละร้านว่าร้านนั้นร้านนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เราต้องการไปหรือไม่ ก็ไปดูแผนที่แล้วจึงไปเลือกร้านในภายหลัง

แต่ในทัศนคติของ “ลุงอ้วน”แล้ว อ่านตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายเป็นดีที่สุด เพราะแต่ละร้านเขามีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ได้อ่านชนิดวางไม่ลงทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น ร้านแรกที่หนังสือเล่มนี้แนะนำ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ตะลิงปลิง” ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยุสุขุมวิท 34 เป็นร้านอาหารไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ทุกเมนูยังคงยึดวิธีปรุงแบบดั้งเดิมตามภูมิปัญญาไทยที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

เมนูเด็ดของร้านก็คือ มัสมั่นหมู โรตีที่ใช้เครื่องแกงเข้มข้นเข้ากันได้ดีกับเนื้อหมูสุดนุ่มและโรตีบางกรอบ จากนั้นก็สั่งข้าวกล้องมารับประทานคู่กับดอกขจรผัดไข่ หอมกลิ่นกุ้งเสียบและดอกขจร ตามด้วยแกงเหลืองกระเจี๊ยบพุงปลา ที่เครื่องแกงส่งตรงมาจากภาคใต้ เพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกขี้หนูและกระเจี๊ยบที่ช่วยให้น้ำแกงเข้มข้นและอร่อยเด็ดไม่เหมือนใคร

แค่นี้ก็ซี้ดซ้าดและน้ำลายไหลจนไม่อยากให้นักชิมทั้งหลายพลาดการจับ จองเป็นเจ้าของกันเลยนะจะบอกให้

ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com