ASTVผู้จัดการรายวัน - ฟ้องศาลปกครองระงับขึ้นราคาก๊าซ LPG 1ก.ย ชี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อปตท.เพียงรายเดียว ศาลสั่งไต่สวน 10 ก.ย. เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทยประกาศรวม 5 หมื่นรายชื่อปลด "พงษ์ศักดิ์" พ้นรมว.พลังงาน นัดชุมนุมใหญ่ 9 ก.ย.ด้านกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ จี้รัฐทบทวนเหตุซ้ำเติมประชาชนทั่วประเทศ ด้าน "เพ้ง" ยันกระทบเฉพาะคนรวยเท่านั้น เล็งเอาไฟฟ้าฟรีกลับมาใช้
วานนี้ ( 29 ส.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร น.ส.สารี อ๋องสมหวังในฐานะมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และพวกรวม 5 คน นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา น.ส.บุญยืน ศิริธรรม นายชาลี ลอยสูง ผู้ฟ้องคดี1-5เข้ายื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโบบายพลังงานแห่งชาติ รมว.พลังงาน คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี 1-5 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติครม.วันที่ 13 ส.ค. ที่เห็นชอบให้มีการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน ที่ให้ปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/กิโลกรัมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท/กิโลกรัม และเห็นชอบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาคครัวเรือน ทั้งในส่วนของภาคเรือนรายได้น้อย และร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร โดยให้คงราคาขายปลีก LPGภาคครัวเรือนไว้ที่กิโลกรับมละ 18.13 บาท จนกว่าจะมีมติที่ชอบด้วยกฎหมายให้ปรับขึ้นราคา
ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดียังได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาครัวเรือนในวันที่ 1 ก.ย.นี้ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพาษาคดี โดยให้สั่งคงราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาคครัวเรือนไว้ที่กิโลกรัมละ 18.13 บาทไปพลางก่อน จนกกว่าจะมีการปรับโครงสร้างพลังงานให้ถูกต้องเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานคดีได้แจ้งไปยังทนายความของผู้ฟ้องคดีว่าศาลนัดไต่สวนคดีในวันที่ 10 ก.ย.เวลา 09.30 น.
** ล่า5หมื่นรายชื่อปลด “เสี่ยเพ้ง”
ที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี แกนนำเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย เปิดแถลงข่าวเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย เตรียมจัดตั้งโต๊ะหน้า บริษัท ปตท. ระหว่างวันที่ 1-8 กันยายนนี้ ให้ประชาชนร่วมลงชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อปลด นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน และข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ออกจากตำแหน่ง โดยจะยื่นผ่านองค์กรอิสระและวุฒิสภา พร้อมนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 9 กันยายนนี้ เพื่อต่อต้านการขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลในการปรับขึ้นราคาแอลพีจีที่นำโดยกลุ่มรวมพลคนรักพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี พร้อมด้วยกลุ่มวิทยุชุมชน ได้รวมตัวกันประมาณ 50 คน เพื่อยื่นหนังสือต่อนายพงษ์ศักดิ์ ในการสนับสนุนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีใน 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลขายแอลพีจีตามราคาที่เป็นจริง 2.รัฐบาลไม่ต้องนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนราคาแอลพีจี และ3.สนับสนุนนโยบายรัฐบาลปกป้องการลักลอบขายก๊าซฯเถื่อนเถื่อนอย่างจริงจัง โดยกระทรวงพลังงานได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือเพื่อยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ได้มีการประกาศยุติการชุมนุมเนื่องจากบรรลุวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 ส.ค. 2556 แกนนำผู้ชุมนุมดังกล่าวจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงงานเพื่อสนับสนุนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีต่อไป
**กมธ.เศรษฐกิจ จี้ทบทวน เหตุซ้ำเติม
ที่รัฐสภา นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้กมธ.ได้ลงพื้นที่ ตลาดรุ่งเจริญ เขตยานนาวา กทม. สำรวจผลกระทบของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะที่รัฐบาลจะทำการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าขายของสด และประชาชนผู้บริโภค ซึ่งได้รับข้อมูลว่ามีผลกระทบเรื่องการไม่พร้อมของปัญหาการขึ้นทะเบียนเยียวยา โดยรัฐบาลควรทบทวนการขึ้นราคาก๊าซเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ตลาดรุ่งเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางใจเมือง เมื่อได้สอบถามประชาชนเกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลจะขึ้นก๊าซ LPG พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ทราบเรื่องนี้และปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือข้าวของแพง อย่างเช่นอาหารสดมีราคาแพงกว่าราคากลางที่กรมคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดไว้ เมื่อสอบถามร้านค้าอาหารตามสั่ง พบว่าเมื่อราคาก๊าซขึ้นราคา พ่อค้าแม่ค้าก็อยากจะปรับราคาขึ้นแต่คงทำไม่ได้ ทำได้เพียงลดปริมาณอาหารลง นอกจากนี้ในการประชุมกมธ.สัปดาห์หน้า ทางกมธ.จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการรับมือผลกระทบกับข้าวของที่แพงขึ้นด้วย เพราะมาตรการของรัฐบาลในขณะนี้ยังไม่เป็นรูปธรรม
**แรมโบ้ ถกแท็กซี่วอน ปั๊มแก๊สติดราคา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เลขาธิการสำนักงานนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับ ผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ ที่นำโดย นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม ถึงมาตรการช่วยเหลือ กรณีที่ขอให้รัฐบาลชะลอการขึ้นราคาแก๊สLPG โดยเฉพาะ แก๊สLPVที่ใช้กับรถยนต์ เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากกระทรวงพลังงานเป็นผู้ประกาศว่าจะขายในราคาเท่าไหร่ และเข้าใจว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ควบคุมราคา แต่วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงเราว่าสินค้าแก๊สLPGที่ใช้กับรถยนต์ไม่ใช่สินค้าควบคุมขึ้นอยู่กับสถานประกอบการที่จะกำหนดราคาขาย แต่ต้องอยู่ในราคาที่กำหนด ทั้งนี้ตัวเลขที่กระทรวงพลังงาน ประกาศวันนี้ อยู่ที่ กก.ละ 11.55 บาท แต่เราเติมในราคา 13 บาท ซึ่งในแต่ละวันแท็กซี่ส่วนใหญ่จะเติมวันละประมาณ 60 กก. ดังนั้นเงินมีส่วนต่างที่ต้องเพิ่มจากราคาที่ประกาศไว้ อยู่ที่คันละ100กว่าบาท ซึ่งในวันนี้ นายสุภรณ์ ก็ได้รับปากว่า จะหามาตรการร่วมกับกรมการค้าภายในในการแก้ปัญหาต่อไป
ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า เรื่องสถานประกอบการแก๊ส LPG ขายเกินราคานั้น ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากแก๊ส LPG ไม่ใช้สินค้าควบคุม แต่หลังจากนี้จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการติดป้ายราคาให้ชัดเจน เพื่อให้แท็กซี่สามารถตัดสินใจว่าจะใช้บริการหรือไม่ และหากไม่มีการติดป้ายราคาที่ชัดเจนจะถือว่ามีความผิด
**ยันกระทบเฉพาะคนรวยเท่านั้น
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ตอบกระทู้สดนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดกรณีเคยเสนอตั้งญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และกมธ.วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาค่าครองชีพสูงและมีราคาแพง ว่า การใช้ไฟฟ้าฟรี จะรับไปพิจารณาว่าให้กลับไปใช้ตามเดิมได้อย่างไร ทั้งนี้ เหตุผลในการเพิ่มค่าไฟฟ้า เนื่องจากประเทศใช้พลังงานแก๊สธรรมชาติ 70% ของประเทศ ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนลง ราคาแก๊สแพงขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ยังมีการเรียกร้องไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งมีไฟฟ้าราคาถูก และให้สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ยิ่งมีพลังงานไฟฟ้าทดแทนมาเท่าไหร่ ค่าไฟก็เป็นภาระที่ต้องแพงขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพยายามเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน หากอนาคตก๊าซในอ่าวไทยหมดลง การซื้อก๊าซจากต่างประเทศ ก็ยิ่งทำให้ค่าไฟแพงขึ้นทวีคูณ ทำให้ความสามารถการแข่งขันระหว่างประเทศ เช่น ส่งออก อุตสาหกรรม ต้นทุนธุรกิจแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนก๊าซครัวเรือนขึ้นราคาที่เกรงว่าจะกระทบคนจนนั้น ยืนยันว่าขึ้นราคาสำหรับคนรวย และผู้มีรายได้น้อยใช้ก๊าซราคาเดิมทั้งหมด และเหตุผลขึ้นราคา เพราะมีผู้ลักลอบนำก๊าซครัวเรือนมาจำหน่ายในแก๊สรถยนต์
วานนี้ ( 29 ส.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร น.ส.สารี อ๋องสมหวังในฐานะมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และพวกรวม 5 คน นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา น.ส.บุญยืน ศิริธรรม นายชาลี ลอยสูง ผู้ฟ้องคดี1-5เข้ายื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโบบายพลังงานแห่งชาติ รมว.พลังงาน คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี 1-5 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติครม.วันที่ 13 ส.ค. ที่เห็นชอบให้มีการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน ที่ให้ปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/กิโลกรัมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท/กิโลกรัม และเห็นชอบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาคครัวเรือน ทั้งในส่วนของภาคเรือนรายได้น้อย และร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร โดยให้คงราคาขายปลีก LPGภาคครัวเรือนไว้ที่กิโลกรับมละ 18.13 บาท จนกว่าจะมีมติที่ชอบด้วยกฎหมายให้ปรับขึ้นราคา
ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดียังได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับการปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาครัวเรือนในวันที่ 1 ก.ย.นี้ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพาษาคดี โดยให้สั่งคงราคาขายปลีกก๊าซLPG ภาคครัวเรือนไว้ที่กิโลกรัมละ 18.13 บาทไปพลางก่อน จนกกว่าจะมีการปรับโครงสร้างพลังงานให้ถูกต้องเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานคดีได้แจ้งไปยังทนายความของผู้ฟ้องคดีว่าศาลนัดไต่สวนคดีในวันที่ 10 ก.ย.เวลา 09.30 น.
** ล่า5หมื่นรายชื่อปลด “เสี่ยเพ้ง”
ที่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี แกนนำเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย เปิดแถลงข่าวเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย เตรียมจัดตั้งโต๊ะหน้า บริษัท ปตท. ระหว่างวันที่ 1-8 กันยายนนี้ ให้ประชาชนร่วมลงชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อปลด นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน และข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ออกจากตำแหน่ง โดยจะยื่นผ่านองค์กรอิสระและวุฒิสภา พร้อมนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 9 กันยายนนี้ เพื่อต่อต้านการขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลในการปรับขึ้นราคาแอลพีจีที่นำโดยกลุ่มรวมพลคนรักพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี พร้อมด้วยกลุ่มวิทยุชุมชน ได้รวมตัวกันประมาณ 50 คน เพื่อยื่นหนังสือต่อนายพงษ์ศักดิ์ ในการสนับสนุนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีใน 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลขายแอลพีจีตามราคาที่เป็นจริง 2.รัฐบาลไม่ต้องนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนราคาแอลพีจี และ3.สนับสนุนนโยบายรัฐบาลปกป้องการลักลอบขายก๊าซฯเถื่อนเถื่อนอย่างจริงจัง โดยกระทรวงพลังงานได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือเพื่อยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ได้มีการประกาศยุติการชุมนุมเนื่องจากบรรลุวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 ส.ค. 2556 แกนนำผู้ชุมนุมดังกล่าวจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงงานเพื่อสนับสนุนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีต่อไป
**กมธ.เศรษฐกิจ จี้ทบทวน เหตุซ้ำเติม
ที่รัฐสภา นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้กมธ.ได้ลงพื้นที่ ตลาดรุ่งเจริญ เขตยานนาวา กทม. สำรวจผลกระทบของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะที่รัฐบาลจะทำการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าขายของสด และประชาชนผู้บริโภค ซึ่งได้รับข้อมูลว่ามีผลกระทบเรื่องการไม่พร้อมของปัญหาการขึ้นทะเบียนเยียวยา โดยรัฐบาลควรทบทวนการขึ้นราคาก๊าซเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ตลาดรุ่งเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางใจเมือง เมื่อได้สอบถามประชาชนเกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลจะขึ้นก๊าซ LPG พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ทราบเรื่องนี้และปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือข้าวของแพง อย่างเช่นอาหารสดมีราคาแพงกว่าราคากลางที่กรมคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดไว้ เมื่อสอบถามร้านค้าอาหารตามสั่ง พบว่าเมื่อราคาก๊าซขึ้นราคา พ่อค้าแม่ค้าก็อยากจะปรับราคาขึ้นแต่คงทำไม่ได้ ทำได้เพียงลดปริมาณอาหารลง นอกจากนี้ในการประชุมกมธ.สัปดาห์หน้า ทางกมธ.จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการรับมือผลกระทบกับข้าวของที่แพงขึ้นด้วย เพราะมาตรการของรัฐบาลในขณะนี้ยังไม่เป็นรูปธรรม
**แรมโบ้ ถกแท็กซี่วอน ปั๊มแก๊สติดราคา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เลขาธิการสำนักงานนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับ ผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ ที่นำโดย นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม ถึงมาตรการช่วยเหลือ กรณีที่ขอให้รัฐบาลชะลอการขึ้นราคาแก๊สLPG โดยเฉพาะ แก๊สLPVที่ใช้กับรถยนต์ เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากกระทรวงพลังงานเป็นผู้ประกาศว่าจะขายในราคาเท่าไหร่ และเข้าใจว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ควบคุมราคา แต่วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงเราว่าสินค้าแก๊สLPGที่ใช้กับรถยนต์ไม่ใช่สินค้าควบคุมขึ้นอยู่กับสถานประกอบการที่จะกำหนดราคาขาย แต่ต้องอยู่ในราคาที่กำหนด ทั้งนี้ตัวเลขที่กระทรวงพลังงาน ประกาศวันนี้ อยู่ที่ กก.ละ 11.55 บาท แต่เราเติมในราคา 13 บาท ซึ่งในแต่ละวันแท็กซี่ส่วนใหญ่จะเติมวันละประมาณ 60 กก. ดังนั้นเงินมีส่วนต่างที่ต้องเพิ่มจากราคาที่ประกาศไว้ อยู่ที่คันละ100กว่าบาท ซึ่งในวันนี้ นายสุภรณ์ ก็ได้รับปากว่า จะหามาตรการร่วมกับกรมการค้าภายในในการแก้ปัญหาต่อไป
ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า เรื่องสถานประกอบการแก๊ส LPG ขายเกินราคานั้น ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากแก๊ส LPG ไม่ใช้สินค้าควบคุม แต่หลังจากนี้จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการติดป้ายราคาให้ชัดเจน เพื่อให้แท็กซี่สามารถตัดสินใจว่าจะใช้บริการหรือไม่ และหากไม่มีการติดป้ายราคาที่ชัดเจนจะถือว่ามีความผิด
**ยันกระทบเฉพาะคนรวยเท่านั้น
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ตอบกระทู้สดนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดกรณีเคยเสนอตั้งญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และกมธ.วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาค่าครองชีพสูงและมีราคาแพง ว่า การใช้ไฟฟ้าฟรี จะรับไปพิจารณาว่าให้กลับไปใช้ตามเดิมได้อย่างไร ทั้งนี้ เหตุผลในการเพิ่มค่าไฟฟ้า เนื่องจากประเทศใช้พลังงานแก๊สธรรมชาติ 70% ของประเทศ ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนลง ราคาแก๊สแพงขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ยังมีการเรียกร้องไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งมีไฟฟ้าราคาถูก และให้สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ยิ่งมีพลังงานไฟฟ้าทดแทนมาเท่าไหร่ ค่าไฟก็เป็นภาระที่ต้องแพงขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพยายามเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน หากอนาคตก๊าซในอ่าวไทยหมดลง การซื้อก๊าซจากต่างประเทศ ก็ยิ่งทำให้ค่าไฟแพงขึ้นทวีคูณ ทำให้ความสามารถการแข่งขันระหว่างประเทศ เช่น ส่งออก อุตสาหกรรม ต้นทุนธุรกิจแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนก๊าซครัวเรือนขึ้นราคาที่เกรงว่าจะกระทบคนจนนั้น ยืนยันว่าขึ้นราคาสำหรับคนรวย และผู้มีรายได้น้อยใช้ก๊าซราคาเดิมทั้งหมด และเหตุผลขึ้นราคา เพราะมีผู้ลักลอบนำก๊าซครัวเรือนมาจำหน่ายในแก๊สรถยนต์