xs
xsm
sm
md
lg

เป้าหมายใหม่ของสนธิ ลิ้มฯ

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ทันทีที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศยุติบทบาท และสนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศชูธงเปลี่ยนประเทศ และพร้อมร่วมมือกับทุกกลุ่มทุกสีที่มีจุดยืนเดียวกัน เพียงแต่สำหรับเสื้อแดงนั้นมีเงื่อนไขคือ ต้องก้าวข้ามทักษิณ และต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งนำไปบิดเบือนอย่างสนุกสนานว่า สนธิประกาศจับมือกับเสื้อแดงบ้าง สนธิจะจูบปากเสื้อแดงบ้าง ทำให้คนที่เสพเฉพาะหัวข่าวบรรทัดเดียวเกิดความเข้าใจผิดอย่างมาก

แต่ถ้าใครที่ได้ฟังคำสัมภาษณ์ทั้งหมดแบบคำต่อคำ ก็จะเข้าใจจุดยืนและบริบทที่สนธิ ลิ้มทองกุลต้องการนำเสนอ และจะเห็นได้ว่า สื่อที่ฝักใฝ่พรรคการเมืองบางพรรคนำไปบิดเบือนเพื่อต้องการทำลายสนธิ ลิ้มทองกุลเท่านั้นเอง

ผมตั้งใจนำคำสัมภาษณ์ของคุณสนธิในครั้งนั้นมานำเสนออีกครั้งเพื่อให้คนที่ไม่อ่านได้อ่านความเห็นทั้งหมดให้ครบถ้วนกระบวนความ ดังต่อไปนี้

สนธิ : อย่างที่ได้แถลงไปแล้ว การยุติบทบาทก็คือว่า เราเปิดโอกาสให้พวกพันธมิตรฯ ทั้งหลายซึ่งมันเป็นนามธรรมสามารถจะเลือกตัดสินใจได้ว่าจะเข้าไปต่อสู้เรื่องอะไรบ้าง สำหรับเราแล้ว เราสู้เรื่องเดียวเท่านั้นเอง คือเรื่องการปฏิรูปการเมือง เราต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ไม่เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วพังพินาศหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วการปฏิรูปการเมืองที่รัฐบาลทำนั้น เป็นเรื่องหลอกลวงคน ในที่สุดแล้วก็กลับไปสู่ความพินาศฉิบหายเหมือนเดิม

ประเทศต้องรื้อใหม่หมด ระบบการเมืองต้องเปลี่ยน การแบ่งชนชั้นต้องลดน้อยลง ความไม่เท่าเทียมกันในทางด้านเรื่องรายได้ต้องแคบลง คนไทยจะต้องมีโอกาสมากขึ้นในการทำมาหากิน แล้วก็บริบทของทุนจะต้องถูกกำจัดลงไป แล้วการที่จะมีตัวแทนของประชาชนเข้าไปนั้น ไม่ใช่จะมีจากการเลือกตั้งอย่างเดียว เพราะการเลือกตั้งอย่างเดียวนั้นคือการสะสมคะแนน สะสมตัวเลข เพื่อไปบวกลบคูณหารกันในสภาฯ แล้วทำอย่างไรที่จะให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัตินั้นต้องแยกจากกันโดยเด็ดขาด เพราะว่าโดยพื้นฐานแล้ว บริหารกับนิติบัญญัติต้องเป็นคนละพวกกัน แต่การเมืองเมืองไทยเป็นมาหลายสิบปีแล้ว บริหารกับนิติบัญญัติเป็นพวกเดียวกันหมด ประธานรัฐสภาก็เป็นพวกเดียวกัน

เพราะฉะนั้นแล้วอนาคตทางการเมืองแบบนี้จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความพินาศฉิบหาย พันธมิตรฯ แกนนำพันธมิตรฯ เห็นแล้วว่ามันไปไม่ได้ เราก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นแล้ว เรายุติบทบาทของเราก่อนเป็นยุทธวิธี แล้ววันหนึ่งข้างหน้าถ้าคนเห็นด้วยกับเราก็จะกลับมาหาเรา ถ้าวันนั้นถ้าเขาพร้อม เราพร้อม เราก็จะเข้าร่วมกับเขา ไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำอีก ไม่จำเป็น อันหนึ่งที่แน่นอนคือแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ได้มีเงินรายได้พิเศษมาจากทักษิณ ชินวัตร เหมือนคนอื่นเขามี เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างที่เราทำ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จบไหม

นักข่าว : แล้วในเรื่องของที่ตอนนี้มันมีหลายกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว

สนธิ : ก็ต้องปล่อยเขาว่ากันไป จะกลุ่มไหนก็ตาม แต่สำหรับพวกเราแล้ว ผมในขณะนี้เป็นแค่พันธมิตรฯ คนหนึ่ง ถ้าผมจะเข้าร่วมกับใครนั้น กลุ่มนั้นจะต้องเป็นชูธงการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศ ผมต้องการความเปลี่ยนแปลง ผมต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเหลือง การเปลี่ยนแปลงสำคัญมาก เปลี่ยนแปลงให้ลูกหลานเราได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น เปลี่ยนแปลงยังไงที่จะทำให้เด็กบ้านนอกเรียนหนังสือได้สู้เด็กในกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงยังไงจะทำให้คนจนมีโอกาสทำมาหากิน ได้รับทุนอุดหนุนสนับสนุนให้เขาเจริญเติบโตได้ เปลี่ยนแปลงยังไงที่จะให้คนจน เวลาไปรักษาพยาบาลไม่ต้องกินยาพาราเซตามอล เพื่อแลกกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยนแปลง

และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งซึ่งไม่มีสี ถ้าเสื้อแดงก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตร ไปได้ ต้องก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตรให้ได้ แล้วถ้าเสื้อแดงก้าวข้ามเรื่องสถาบันกษัตริย์ไปได้ ผมคิดว่าสิ่งที่เสื้อแดงกับพวกเราเรียกร้องไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะประชาธิปไตยของผมไม่ได้ว่าเป็นประชาธิปไตยที่จะเอาทักษิณกลับบ้าน หรือประชาธิปไตยของผมไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยที่จะให้รัฐบาลมีอยู่ต่อแล้วก็คดโกง แล้วนักการเมืองร่ำรวย แล้วใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ นั่นคือสิ่งที่ผมต่อสู้ให้

นักข่าว : ก็หมายความว่าถ้าสมมติว่าเสื้อแดงก้าวข้ามทักษิณอะไรได้ ถ้ามีจุดประสงค์เดียวกันเราก็พร้อมที่จะร่วม

สนธิ : ผม ส่วนตัวผมพร้อม ถ้าเขาก้าวข้ามทักษิณได้ ก้าวข้ามเรื่องสถาบันกษัตริย์ได้ เขายังเทิดทูนสถาบันกษัตริย์เหมือนกัน ผมคิดว่าสิ่งที่เขาสู้ไม่ได้ต่างอะไรกัน เราสู้เรียกร้องให้เอา ปตท.กลับคืนมาสู่ประเทศไทย คนไทยมันบ้ากันไปแล้ว น้ำมัน 2 ลิตรร้อยบาทมันอยู่กันได้ยังไง แล้วให้ไอ้พวก ปตท.มันรวย ให้พวกนักการเมืองที่ถือหุ้น ปตท.อยู่รวย แล้วคนไทยลำบากถ้วนหน้า นี่คือสิ่งที่ผมสู้ ถ้าไม่อยากเห็นด้วย ไม่อยากจะร่วมด้วยก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้ชาติบ้านเมืองมันฉิบหายไปเลย ชัดเจนไหม

คำสัมภาษณ์ของคุณสนธิข้างบนนั้น หลายคนมองว่า เป็นเรื่องที่เพ้อฝัน คนเสื้อแดงที่ไม่เอาทักษิณและเทิดทูนสถาบันนั้น แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยคำสัมภาษณ์นี้ก็ช่วยให้คนเสื้อแดงฉุกคิดว่า ที่พวกเขาถูกแกนนำเสื้อแดงหลอกให้ต่อสู้โดยอ้างเพื่อความเหลื่อมล้ำนั้น หลังคนเสื้อแดงได้อำนาจรัฐแล้วสิ่งเหล่านั้นได้หายไปจริงๆ หรือ

คุณสนธิพูดชัดเจนว่า เป้าหมายการปฏิรูปประเทศของเขาคือ ประเทศต้องรื้อใหม่หมด ระบบการเมืองต้องเปลี่ยน การแบ่งชนชั้นต้องลดน้อยลง ความไม่เท่าเทียมกันในทางด้านเรื่องรายได้ต้องแคบลง คนไทยจะต้องมีโอกาสมากขึ้นในการทำมาหากิน แล้วก็บริบทของทุนจะต้องถูกกำจัดลงไป

จริงๆ กลับเป็นเรื่องยากที่เราจะดึงคนเสื้อแดงให้ถอยห่างจากทักษิณ แต่การที่เรามีข้อเสนอให้พวกเขาย่อมดีกว่าคนในประเทศนี้แบ่งฝักแบ่งฝ่ายและตั้งเป้าที่จะเป็นศัตรูไปตลอดกาล

ต้องยอมรับนะครับว่า ประเทศนี้มีคนเสื้อแดงมากกว่าฝ่ายตรงข้ามทักษิณ ไม่นั้นเลือกตั้งเสื้อแดงชนะไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้ กทม.แม้ฝ่ายตรงข้ามทักษิณจะยังมากกว่า แต่ดูผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็จะเห็นคะแนนที่ห่างกันไม่มาก ดังนั้น เลือกตั้งเมื่อไหร่เขาก็ชนะอีก อยู่ที่ว่าทักษิณจะส่งใครมาเป็นนายกฯ เท่านั้น นี่เป็นโจทย์ข้อใหญ่ว่าเราจะต้านระบอบทักษิณอย่างไร ให้กลับมาชนะระบอบทักษิณได้ ทำอย่างไรให้คนเสื้อแดงกลับใจก้าวข้ามทักษิณ หันมาเทิดทูนสถาบัน ถ้าทำได้นี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าผลักไสพวกเขาออกไปเรื่อยๆ

ถามว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องยากไหม คำตอบเป็นเรื่องที่ยากครับ

แม้ว่าจะยาก แต่สิ่งที่คุณสนธิบอกกับพนักงานเอเอสทีวีในวันเรียกประชุมเพื่อแจ้งให้ทราบหลังจากยุติบทบาทแกนนำพันธมิตรฯ ว่า เข็มมุ่งของเขานับแต่นี้คือการชูธงเปลี่ยนประเทศเพื่อคน 65 ล้านคน
กำลังโหลดความคิดเห็น