xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.อ้างแกนนำ พธม.ยุติบทบาทปลดพันธนาการ ทำมวลชนผนวกพรรคสบายใจขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“องอาจ” อวยแกนนำพันธมิตรฯ สร้างคุโณปการต่อการต่อสู้ภาคประชาชน ชูยุติบทบาทปลดพันธนาการ อ้างมวลชนเริ่มติดต่อผนวกพรรคสู้ระบอบแม้วสบายใจขึ้น เชื่อสุดท้ายทำความเข้าใจได้



วันนี้ (25 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเปิดโอกาสให้มวลชนที่สนับสนุนไปดำเนินกิจกรรมใดๆ อย่างเสรีว่า เป็นสิ่งที่พรรคน้อมรับข้อเสนอและความเห็นต่างๆ ด้วยความเคารพ แม้วันนี้แกนนำจะประกาศยุติความเคลื่อนไหว แต่เชื่อว่าจิตใจการต่อสู้ยังดำรงอยู่ และเมื่อใดก็ตามที่มีเงื่อนไขที่พันธมิตรฯ คิดว่าพร้อมจะออกมาต่อสู้เพื่อประชาชน ทางแกนนำและมวลชนก็คงจะออกมายืนเคียงข้างประชาชนในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง สิ่งที่พันธมิตรฯได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เป็นการกระทำที่สูญเปล่า และได้สร้างคุณูปการให้กับการต่อสู้ของภาคประชาชน ซึ่งเป็นแบบอย่างของการต่อสู้ภายใต้กฎหมายและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญโดยสงบสันติ ปราศจากอาวุธ ซึ่งแตกต่างจากการต่อสู้ของมวลชนบางกลุ่มในประเทศไทย เป็นแบบอย่างในการดำเนินการของมวลชนต่อไป

นายองอาจ กล่าวว่า หลังการประกาศจุดยืนดังกล่าวมีมวลชนและพันธมิตรฯทั่วประเทศไทย ทั้งใน กทม.ในภาคกลางและภาคใต้เริ่มมีการประสานงานระดับแกนนำกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในหลายพื้นที่ที่จะร่วมมือกันทำงานต่อสู้กับระบอบทักษิณต่อไป ซึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเคลื่อนไหวภาคประชาชนในอนาคต และเชื่อว่าหากประชาชนได้ร่วมมือกันอย่างแท้จริงแล้ว ระบอบทักษิณคงไม่สามารถขยายตัวออกไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และการรวมพลังของประชาชนทุกภาคส่วนจะมีส่วนสำคัญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองได้ว่าการยุติบทบาทดังกล่าวเป็นผลบวกต่อการเคลื่อนไหวของพรรคหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ามวลชนพันธมิตรฯเริ่มเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนของพรรคอย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องเกรงใจแกนนำ เพราะก่อนหน้านี้มีท่าทีที่ไม่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้านการเคลื่อนไหวของพรรค แต่เมื่อมีการประกาศให้มวลชนพันธมิตรฯเคลื่อนไหวได้อย่างเสรีก็เป็นการปลดพันธนาการ ยกตัวอย่างในพื้นที่ของตนมีการจัดเสวนาทางการเมือง มีพันธมิตรฯมาร่วมงานและแสดงความคิดเห็นอย่างเข้มข้น

เมื่อถามว่า เงื่อนไขการจะกลับมาร่วมเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯคือต้องปฏิรูปการเมือง ขณะที่แกนนำพรรคยืนยันการเคลื่อนไหวโค่นล้มระบอบทักษิณ จะทำให้โอกาสที่มาร่วมกันเกิดขึ้นได้อย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวมีหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านรัฐบาล การล้มระบอบทักษิณ การปฏิรูปการเมือง ถ้ามีความพร้อมตรงไหนก็สามารถดำเนินการได้ ตราบใดที่มีเป้าหมายเดียวกัน การล้มระบอบทักษิณก็เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการเมืองและประเทศไทยยังต้องปฏิรูปอีกหลายด้าน รวมถึงเศรษฐกิจสังคมด้วย เป้าหมายสูงสุดคือการปฏิรูปประเทศไทย ขณะนี้ใครพร้อมที่จะทำอะไรตรงจุดไหนหากมีเป้าหมายใหญ่เดียวกันควรดำเนินไปตามความพร้อมของแต่ละคน

ส่วนคนไทยจะมีโอกาสเห็นแกนนำสองฝ่ายขึ้นเวทีร่วมกันหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เราต่างทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมือนกัน และเป้าหมายไม่ได้แตกต่างกัน แต่วิธีการอาจเป็นไปตามความถนัดของแต่ละคน ส่วนภาคปฏิบัติจะได้แค่ไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทั้งนี้หากร่วมมือกันความสำเร็จอาจเกิดขึ้นได้ ส่วนปัญหามวลชนสองฝ่ายที่ยังไม่สามารถเป็นเนื้อเดียวกันได้นั้น ตนคิดว่าระยะเวลาจะช่วยทำให้ทุกอย่างพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้ ตราบใดที่มีเป้าหมายไม่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจกันไม่ใช่อุปสรรค เท่าที่ได้สัมผัสในพื้นที่ตนเชื่อว่าทั้งสองกลุ่มจะทำความเข้าใจกันได้ไม่ยาก



กำลังโหลดความคิดเห็น