ส.ส.พัทลุง ขอบคุณแกนนำพันธมิตรฯ อ้างต่อไปนี้มีแต่เสรีชนรวมตัว แนวคิด “สนธิ” เดินคนละเส้นแต่ปลายทางเดียวกัน ยันไม่ต้องการเปลี่ยนขั้ว โว “เทือก” พร้อมลาออก ส.ส.อยู่แล้ว โวมวลชนโค่นระบอบแม้วจะไม่ต่ำกว่าสองแสน เผยแกนนำพรรคสั่งอย่ากระแนะกระแหน เวลาถูกด่า “สลิ่ม-แมลงสาบ” ให้อดทน
วันนี้ (25 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขอบคุณแกนนำพันธมิตรฯที่ประกาศยุติบทบาทเพื่อเปิดโอกาสให้มวลชนกลุ่มได้เคลื่อนไหวกับประชาธิปัตย์อย่างเต็มตัว ซึ่งหลายคนยอมรับกับตนว่ารู้สึกสบายใจ ตนจึงบอกว่าต่อไปนี้เวทีการชุมนุมจะเป็นการต่อสู้ระหว่าง ปชป.กับพันธมิตรจากการรวมตัวของเสรีชนที่ไม่ต้องผูกพันกับกลุ่มใด แต่เป็นประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ไปเราจะได้มวลชนมาร่วมขับเคลื่อนกันมากขึ้น
ส่วนกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ตั้งเงื่อนไขว่าจะกลับมาร่วมต่อสู้อีกครั้งถ้าไม่ใช่แค่โค่นล้มระบอบทักษิณ แต่เป็นการปฏิรูปการเมืองนั้น นายนิพิฏฐ์ กล่าวเปรียบเทียบว่า ในขณะนี้เหมือนกับเราเดินบนถนนคนละเส้น คือพรรคก็เคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการให้ปฏิรูปการเมือง แต่ถนนสองเส้นนี้มันไปจบที่ปลายทางเดียวกัน แต่ยืนยันว่าเรายังจำเป็นต้องอยู่ในสภาพของ ส.ส.เพื่อต่อสู้ในเวทีสภา เพราะจะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ทำให้ประชาชนได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการในขณะนี้ เพราะยังมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังแลอันตรายที่แฝงอยู่ในกฎหมายแต่ละฉบับที่รัฐบาลเสนอคืออะไร พรรคจึงจำเป็นต้องตีแผ่ออกมา โดยหวังว่าสิ่งที่พรรคทำจะทำให้ประชาชนตื่นรู้อย่างที่นายสนธิต้องการ
“ผมยืนยันว่าที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ส.ส.พรรคไม่ได้ต้องการเปลี่ยนขั้วการเมืองตามที่มีการกล่าวหา เพราะแม้จะลาออกไปเล่นการเมืองนอกสภา รัฐบาลก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เราก็แพ้อยู่ดี แต่เราต้องการต่อสู้ให้ถึงที่สุดก่อน เมื่อถึงจุดนั้นแล้วประชาธิปัตย์พร้อมนำมวลชนแน่นอน ที่แน่ๆ คือ มีผมและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พร้อมจะลาออกจากการเป็นส.ส.เพื่อมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน ตอนที่คุยกันคือ ถ้าเราออกมาแล้ว นำเอามวลชนมาแล้วจะยังไงต่อ เพราะเราเคลื่อนไหวแบบสงบภายใต้กฎหมาย การขับเคลื่อนจะเป็นอย่างไรจากนั้น มันต้องถึงขั้นอียิปต์นะถึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แล้วเราจะเอายังไง รับตรงนี้ได้มั้ย ซึ่งตรงนี้แกนนำพันธมิตรฯก็ยังตอบไม่ได้ การพูดคุยกันตอนนั้นมันยังไม่ตกผนึกในเรื่องนี้ ก็พอดีพวกท่านออกมาแถลงการณ์ยุติบทบาทเสียก่อน ตอนแรกผมก็แปลกใจกับการประกาศยุติบทบาทครั้งนี้ แต่ก็มองว่าเป็นทางออกที่ดีและฉลาดของแกนนำเพราะท่านมีประสบการณ์ในการเคลื่อนไหวต่อสู้มายาวนาน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ ยังเชื่อว่า การเผยแพร่ความจริงผ่านเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ จะเริ่มมีมวลชนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้มีถึง 12 กลุ่ม แต่กระจัดกระจายกันอยู่ หากมารวมกันจะมีมวลชนไม่ต่ำกว่าสองแสน ทั้งจากพันธมิตรฯ หน้ากากขาว คณะเสนาธิการร่วม ฯลฯ แม้เราจะมีฐานเสียงอยู่ในมือนับสิบล้าน แต่ยอมรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯมีพลังเข้มแข็ง มีความอดทนสูงมาก อีกทั้งยังมีความไว้เนื้อเชื่อใจต่อแกนนำสูง เช่น การเลือกตั้งครั้งที่มีการณรงค์โหวตโนหลายคนอยากลงโหวตให้ผู้สมัครของพรรค แต่เมื่อแกนนำกลุ่มบอกโหวตโน พวกเขาก็พร้อมที่จะทำตาม หลายเขตที่เราแพ้อยู่พันกว่าคะแนน แต่มีโหวตโนกว่าแปดพันคะแนน ที่ตนมั่นใจว่าถ้าเราได้ส่วนนี้มาก็จะชนะเลือกตั้ง ตอนนั้นทำให้ตนยอมรับในพลังของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างมาก
“ตอนนี้ผู้ใหญ่ในพรรคกำชับสมาชิกทุกคนว่าจากนี้ไปอย่าได้ตอบโต้ หรือพูดจากระแหนะกระแหนกระทบกระทั่งกับมวลชนพันธมิตร ส.ส.คนไหนออกมาด่า หรือวิจารณ์รุนแรงจะต้องโดนตบปาก เพราะเราต้องสำนึกในบุญคุณของเขาที่ยอมปล่อยมวลชนในมือมาให้เราขนาดนี้แล้ว ฝ่ายเขาจะด่า จะว่าเรียกแมลงสาบ เรียกสลิ่มอย่างไรก็ต้องทนเพื่อเป้าหมายคือชาติบ้านเมือง” นายนิพิฏฐ์ กล่าว