xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” ยก พธม.เตือน ปชป.ไม่จริงใจ เห็นแก่ได้ ทำให้มิตรห่างหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (แฟ้มภาพ)
“อำมาตย์เต้น”ระบุแกนนำพันธมิตรฯ ประกาศยุติบทบาท มีความเป็นลูกผู้ชาย และตรงไปตรงมาเกินกว่าจะไปร่วมงานกับ ปชป. และยังเป็นการเตือน ปชป. ไม่จริงใจ เห็นแก่ได้ ทำให้มิตรและประชาชนห่างหาย ด้าน “จตุพร” เชื่อที่สุดพันธมิตรฯ จะกลับมาอีกรอบ “นพดล” อ้าง“นช.แม้ว” ไม่เคยมองพันธมิตรฯ เป็นศัตรู

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยุติบทบาทว่า ส่วนตัวคิดว่าการแถลงยุติบทบาทครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอะไรมากในภาพรวม เพราะพันธมิตรฯ ลดการเคลื่อนไหวมาระยะหนึ่งแล้ว และการประกาศยุติบทบาทก็ไม่ได้หมายความว่าแกนนำทุกคนจะยุติบทบาททางการเมือง แต่แกนนำจะยิ่งมีความคล่องตัวและเป็นอิสระในการเคลื่อนไหวมากขึ้น เกิดการรวมตัวจับมือกันเป็นกลุ่มใหม่ได้ตลอดเวลา

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ต้องมีการบ้านเพิ่มว่าทำไมการขับเคลื่อนการเมืองระยะหลังจึงไม่เป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกสภาฯ โดยการขับเคลื่อนการเมืองในสภาฯ ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนได้ยินจากปากของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคที่เคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้ามีทางเลือกเขาไม่มีทางที่จะร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการเมืองนอกสภาฯ กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคยจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด วันนี้สิ่งที่พันธมิตรฯ เรียกร้องเพียงข้อเดียวคือความจริงใจ ก็ชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีให้ นี่คือภาพสะท้อนแนวทางการเมืองทั้งหมดของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาว่า เดินเกมโดยไม่ยึดหลักการ ไม่จริงใจ และเห็นแต่ประโยชน์ที่ตัวเองจะได้ ทำให้วันนี้ห่างจากมิตร ห่างจากประชาชนมากขึ้นทุกที

อย่างไรก็ตามแม้ว่าตนจะไม่ยอมรับอุดมการณ์การเมืองของพันธมิตรฯ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรู เราเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองที่มีสิทธิที่จะยอมรับการตัดสินใจกันได้ การตัดสินใจของพันธมิตรฯ ครั้งนี้คิดว่ามีความเป็นลูกผู้ชาย ตรงไปตรงมาเกินกว่าที่จะไปร่วมทางกับพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงนั้น คงจะเคลื่อนไหวตามแนวทางต่อไป และไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปกระแนะกระแหนการตัดสินใจของพันธมิตรฯ เพราะในสนามการต่อสู้ การเคารพและให้เกียรติคู่ต่อสู้ถือว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่ง

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ แกนนำ นปช. หรือคนเสื้อแดงอีกคน ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ เคยแถลงยุติบทบาทมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2549 หรือหลังยึดอำนาจหนึ่งวัน แต่การประกาศครั้งที่ 2 เป็นคนละบริบทคือกลุ่มพันธมิตรฯ เดินมาถึงจุดหนึ่งและรู้ว่าการต่อสู้ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา พันธมิตรฯ เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต้องคดีก่อการร้ายอยู่ฝ่ายเดียว ตกอยู่ในสถานภาพเดียวกับคนเสื้อแดง ล่าสุดเมื่อทดสอบจิตใจพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการยื่นเงื่อนไขให้ลาออกจาก ส.ส.มาเป็นฝ่ายนำ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ปฏิบัติตามเพราะเห็นว่าความเป็น ส.ส.คือภูมิคุ้มกัน

แต่ในฐานะนักเคลื่อนไหวการเมืองด้วยกัน และดูจากบรรยากาศการเมือง เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะกลับมาเป็นครั้งที่สาม เพราะไม่ได้ประกาศยุติ เลิกขาด โดยระหว่างนี้แกนนำแต่ละคนก็กลับไปเคลื่อนไหวอิสระในองค์กรที่ตัวเองสังกัดอยู่ก่อนหน้า ในส่วนของคนเสื้อแดง หรือกลุ่ม นปช.ไม่จำเป็นต้องปรับแผนการเคลื่อนไหวใดๆ จะดำเนินกิจกรรมต่อไปโดยมีกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นบทเรียนสำคัญว่าจะต้องเดินอย่างไรจึงจะรักษาแนวทางไว้ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการยุติบทบาทของกลุ่มพันธมิตรฯจะไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการเมืองไทยไม่ว่าจะร้อนขึ้นหรือเย็นลง

ส่วน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ไม่ทราบนัยยะการประกาศยุติบทบาทของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ก็เคารพการตัดสินใจ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มองกลุ่มพันธมิตรฯคือคนไทยด้วยกัน ไม่เคยมองเป็นศัตรู และไม่มีผลต่อการต่อสู้ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เพราะการเมืองจะนิ่งหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีกลุ่มการเมืองกี่กลุ่ม แต่อยู่ที่การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายและกติกา จะมีกี่กลุ่มจึงไม่ใช่ปัญหา


กำลังโหลดความคิดเห็น