xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ลั่นจุดยืน “สนธิ” ปฏิรูปประเทศ 65 ล้านสู้กับนักการเมือง ลดเหลื่อมล้ำ-หยุดการเมืองล้มเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำและโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ภาพจากแฟ้ม)
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ชี้มีความพยายามตัดต่อคำสัมภาษณ์ “สนธิ” จูบปากเสื้อแดง ยันข้อเสนอคือปฏิรูปประเทศไทย ให้คน 65 ล้านคนสู้กับนักการเมือง ชี้เป้าหมายเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้อยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำ หยุดการเมืองที่ล้มเหลว ถามสามัคคีคน 12 ล้านสู้กับฝ่ายหนุนแม้ว 15 ล้านได้อะไรนอกจากสงครามกลางเมือง



วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.43 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ในหัวข้อ “ขยายความแทนคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทำไมต้องสามัคคีคน 65 ล้านคนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย” มีข้อความดังนี้

“ผมเห็นหลายวันนี้มีความพยายามเหลือเกินที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยวิธีการตัดต่อคำสัมภาษณ์ข้อความว่าสนธิจูบปากเสื้อแดงแล้ว ผมเห็นพฤติกรรมแบบนี้ซ้ำชากหลายครั้งแล้วเป็นที่น่าเอือมระอาอย่างยิ่ง

คุณสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าเราต้องการการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นไม่ว่าใครเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำ และหยุดการเมืองที่ล้มเหลว นั่นคือเป้าหมายที่คุณสนธิจะไปให้ถึง และคนเสื้อแดงถ้าก้าวข้ามเรื่องทักษิณ และก้าวข้ามเรื่องการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็สามารถเดินหน้าปฏิรูปด้วยกันได้ถ้ามีเป้าหมายเดียวกัน

เพราะคุณสนธิเห็นแล้วว่าผู้มีอำนาจทางการเมืองฝ่ายต้านทักษิณล้มเหลวที่จะปฏิรูปการเมืองให้ได้ใจคน 65 ล้านคนกลับคืนมา การตั้งธงโค่นล้มระบอบทักษิณท่ามกลางการโฆษณาชวนเชื่อทั้งจากฝ่ายทักษิณและฝ่ายต่อต้านที่ไม่มีใครฟังใคร ผลก็คือเราได้สามัคคีกับคนที่ต่อต้านทักษิณ 12 ล้านคน ให้ไปสู้กับฝ่ายสนับสนุนทักษิณ 15 ล้านคน ผมเกิดคำถามว่าเราจะสู้ด้วยอะไรให้ได้รับชัยชนะในศึกที่เป็นแบบนี้ครับ

นอกจากสงครามระหว่างประชาชนที่ประชาชนไม่เคยได้ประโยชน์นอกจากนักการเมืองที่เข้าสู่อำนาจและไม่เคยเห็นหัวประชาชน

ผมถึงถามบ่อยครั้งไงว่า มีนักการเมืองฝ่ายไหนบ้างที่สู้เอาผลประโยชน์พลังงานมาคืนให้กลับคนไทย 65 ล้านคน?

คำตอบคือ “ไม่มีแม้แต่ฝ่ายเดียว”

มีนักการเมืองฝ่ายไหนบ้างตรากฎหมายทุจริตให้ไม่มีอายุความ ให้ตรวจสอบภาษีว่าสอดคล้องกับทรัพย์สินนักการเมืองหรือไม่?

คำตอบคือ “ไม่เคยมี”

มีบางคนบอกว่าจะปฏิรูป ถ้าไม่โค่นล้มระบอบทักษิณก่อนจะโค่นได้อย่างไร? ผมขอตอบว่า แค่ตั้งธงโค่นระบอบทักษิณคุณก็จะหมดโอกาสพูดดึงใจคนเสื้อแดงกลับมาฟังว่าคุณจะปฏิรูปอะไร และต่อให้โค่นได้จริงในบริบทแบบนี้ เขาก็เลือกตั้งใหม่และชนะอยู่ดี

คุณจะกำจัดความคิดคน 15 ล้านคน ที่ชื่นชอบระบอบทักษิณ เขาเปิดทีวีรัฐ ดูเอเชียอัพเดท ทุกวัน ด้วยวิธีไหน?

ที่ผมตั้งคำถามนี้เพราะต้องการให้ได้คิด...ถึงความเป็นไปได้ในแนวทางสันติวิธี คือ 1. ปล่อยให้บ้านเมืองฉิบหาย ล่มสลายจนคนเดือดร้อน ตื่นรู้กันทั้งประเทศ หรือ 2. เสนอทางออกปฏิรูปประเทศไทยเอาประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน 65 ล้านคน เป็นตัวตั้ง

ผมขอยกตัวอย่าง ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี เคลื่อนไหวด้านพลังงาน ก้าวข้ามสีเสื้อ เราแทบไม่ต้องมีการ์ดในการเคลื่อนมวลชนเลย ตราบใดที่ธงทางการเมืองนั้นเอาประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง เมื่อถึงเวลานั้นคนเสื้อแดงจึงมีโอกาสที่จะฟังคุณได้ และไม่มีมวลชนไหนกล้ามาต่อต้าน มีแต่คนทุกสีที่จะมาเข้าร่วมกับคุณ

ผมจะสรุปว่าการตั้งธงโค่นระบอบทักษิณ คือการสามัคคีคน 12 ล้านคน ให้สู้กับ คนอีก 15 ล้านคน ที่ไม่มีใครฟังใคร และจะไม่มีทางนำไปสู่การปฏิรูปประเทศได้ หรือหากปฏิรูปได้ก็ต้องเกิดการสูญเสียของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ (ซึ่งตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว)

แต่สิ่งที่คุณสนธิเสนอ “ปฏิรูปประเทศไทย” คือ การสามัคคีคน 65 ล้านคน ให้สู้กับนักการเมืองไม่กี่ร้อยคน ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ระบอบทักษิณเลย แม้ระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งขั้วไหนก็อยู่ไม่ได้

ผมจึงขอสรุปความคิดคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาขยายความแต่เพียงเท่านี้ครับ”

คำต่อคำ “สนธิ” พร้อมสู้ร่วมกับทุกกลุ่มถ้าชูธงปฏิรูปประเทศ

สนธิ : อย่างที่ได้แถลงไปแล้ว การยุติบทบาทก็คือว่า เราเปิดโอกาสให้พวกพันธมิตรทั้งหลายซึ่งมันเป็นนามธรรมสามารถจะเลือกตัดสินใจได้ว่าจะเข้าไปต่อสู้เรื่องอะไรบ้าง สำหรับเราแล้ว เราสู้เรื่องเดียวเท่านั้นเอง คือเรื่องการปฏิรูปการเมือง เราต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ไม่เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วพังพินาศหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วการปฏิรูปการเมืองที่รัฐบาลทำนั้น เป็นเรื่องหลอกลวงคน ในที่สุดแล้วก็กลับไปสู่ความพินาศชิบหายเหมือนเดิม

ประเทศต้องรื้อใหม่หมด ระบบการเมืองต้องเปลี่ยน การแบ่งชนชั้นต้องลดน้อยลง ความไม่เท่าเทียมกันในทางด้านเรื่องรายได้ต้องแคบลง คนไทยจะต้องมีโอกาสมากขึ้นในการทำมาหากิน แล้วก็บริบทของทุนจะต้องถูกกำจัดลงไป แล้วการที่จะมีตัวแทนของประชาชนเข้าไปนั้น ไม่ใช่จะมีจากการเลือกตั้งอย่างเดียว เพราะการเลือกตั้งอย่างเดียวนั้นคือการสะสมคะแนน สะสมตัวเลข เพื่อไปบวกลบคูณหารกันในสภา แล้วทำอย่างไรที่จะให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัตินั้นต้องแยกจากกันโดยเด็ดขาด เพราะว่าโดยพื้นฐานแล้ว บริหารกับนิติบัญญัติต้องเป็นคนละพวกกัน แต่การเมืองเมืองไทยเป็นมาหลายสิบปีแล้ว บริหารกับนิติบัญญัติเป็นพวกเดียวกันหมด ประธานรัฐสภาก็เป็นพวกเดียวกัน

เพราะฉะนั้นแล้วอนาคตทางการเมืองแบบนี้จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความพินาศชิบหาย พันธมิตรฯ แกนนำพันธมิตรฯ เห็นแล้วว่ามันไปไม่ได้ เราก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นแล้ว เรายุติบทบาทของเราก่อนเป็นยุทธวิธี แล้ววันหนึ่งข้างหน้าถ้าคนเห็นด้วยกับเราก็จะกลับมาหาเรา ถ้าวันนั้นถ้าเขาพร้อม เราพร้อม เราก็จะเข้าร่วมกับเขา ไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำอีก ไม่จำเป็น อันหนึ่งที่แน่นอนคือแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ได้มีเงินรายได้พิเศษมาจากทักษิณ ชินวัตร เหมือนคนอื่นเขามี เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างที่เราทำ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จบไหม

นักข่าว : แล้วในเรื่องของที่ตอนนี้มันมีหลายกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว

สนธิ : ก็ต้องปล่อยเขาว่ากันไป จะกลุ่มไหนก็ตาม แต่สำหรับพวกเราแล้ว ผมในขณะนี้เป็นแค่พันธมิตรฯ คนหนึ่ง ถ้าผมจะเข้าร่วมกับใครนั้น กลุ่มนั้นจะต้องเป็นชูธงการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศ ผมต้องการความเปลี่ยนแปลง ผมต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเหลือง การเปลี่ยนแปลงสำคัญมาก เปลี่ยนแปลงให้ลูกหลานเราได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น เปลี่ยนแปลงยังไงที่จะทำให้เด็กบ้านนอกเรียนหนังสือได้สู้เด็กในกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงยังไงจะทำให้คนจนมีโอกาสทำมาหากิน ได้รับทุนอุดหนุนสนับสนุนให้เขาเจริญเติบโตได้ เปลี่ยนแปลงยังไงที่จะให้คนจน เวลาไปรักษาพยาบาลไมต้องกินยาพาราเซตามอล เพื่อแลกกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยนแปลง

และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งซึ่งไม่มีสี ถ้าเสื้อแดงก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตร ไปได้ ต้องก้าวข้ามทักษิณ ชินวัตรให้ได้ แล้วถ้าเสื้อแดงก้าวข้ามเรื่องสถาบันกษัตริย์ไปได้ ผมคิดว่าสิ่งที่เสื้อแดงกับพวกเราเรียกร้องไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะประชาธิปไตยของผมไม่ได้ว่าเป็นประชาธิปไตยที่จะเอาทักษิณกลับบ้าน หรือประชาธิปไตยของผมไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยที่จะให้รัฐบาลมีอยู่ต่อแล้วก็คดโกง แล้วนักการเมืองร่ำรวย แล้วใช้มวลชนเป็นเครื่องมือ นั่นคือสิ่งที่ผมต่อสู้ให้

นักข่าว : ก็หมายความว่าถ้าสมมติว่าเสื้อแดงก้าวข้ามทักษิณอะไรได้ ถ้ามีจุดประสงค์เดียวกันเราก็พร้อมที่จะร่วม

สนธิ : ผม ส่วนตัวผมพร้อม ถ้าเขาก้าวข้ามทักษิณได้ ก้าวข้ามเรื่องสถาบันกษัตริย์ได้ เขายังเทิดทูนสถาบันกษัตริย์เหมือนกัน ผมคิดว่าสิ่งที่เขาสู้ไม่ได้ต่างอะไรกัน เราสู้เรียกร้องให้เอา ปตท. กลับคืนมาสู่ประเทศไทย คนไทยมันบ้ากันไปแล้ว น้ำมัน 2 ลิตรร้อยบาทมันอยู่กันได้ยังไง แล้วให้ไอ้พวก ปตท. มันรวย ให้พวกนักการเมืองที่ถือหุ้น ปตท. อยู่รวย แล้วคนไทยลำบากถ้วนหน้า นี่คือสิ่งที่ผมสู้ ถ้าไม่อยากเห็นด้วย ไม่อยากจะร่วมด้วยก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้ชาติบ้านเมืองมันชิบหายไปเลย ชัดเจนไหม


กำลังโหลดความคิดเห็น