“สมชาย” มั่นใจฝ่ายค้านไม่กล้ายื้ออภิปรายงบ 57 เกินเดตไลน์ หวั่นไม่ได้แปรญัตติแม้แต่บาทเดียว หากกลับไปใช้ร่างรัฐเดิม เตือน ปชป.จับมือพันธมิตรฯ ร่วมม็อบโค่นแม้ว ระวังติดคุกข้อหากบฏ เล่นลิ้นรู้จักแต่ระบอบทักษิณคือ 30 บาทรักษาทุกโรค อีกด้าน มท.2 เห่ามั่ง หยัน ปชป.นำม็อบสุดท้ายต้องมาสู้กันในสภาอยู่ดี
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 ที่มีผู้แปรญัตติ 202 คนว่า ไม่น่ามีปัญหา น่าจะทำความเข้าใจกันได้ แต่ประธานในที่ประชุมก็ควรกำหนดเวลาอภิปรายให้แต่ละคนไม่ควรเกิน 5-10 นาที ส่วนกรณีที่มี ส.ส.ประมาณ 57 คน แปรญัตติแบบผิดหลักการการแก้ไขที่มาของ ส.ว.นั้น ตนคิดว่าถ้าผิดหลักการมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว ประธานในที่ประชุมก็ไม่ควรให้อภิปราย สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 นั้น รัฐบาลอยากให้พิจารณาจบตั้งนานแล้ว แต่เมื่อฝ่ายค้านอยากพูดก็ว่ากันไป แต่ถ้าสุดท้ายพิจารณาไม่เสร็จภายในวันที่ 26 ส.ค.หรือ 105 วัน ก็จะใช้ร่างเดิมของรัฐบาลที่เสนอเข้ามาตั้งแต่ต้น โดยที่ไม่ได้แปรญัตติส่งให้กับวุฒิสภาดำเนินการได้เลย รัฐบาลก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรด้วย ดังนั้นมั่นใจว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายจบก่อนถึงวันเดตไลน์แน่นอน
นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมกับม็อบ และจับมือกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยว่า ใครจะไปเดินขบวนหรือชุมนุมร่วมกับใครก็ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ เพียงแต่ว่าอย่าทำผิดกฎหมาย อย่าไปเกะกะระรานใครจนทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน ส่วนกรณีที่บอกว่าจะโค่นล้มระบอบทักษิณนั้น ตนยังไม่รู้เลยว่าระบอบทักษิณคืออะไร แต่ถ้ามันคือ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือสิ่งที่ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั้น ก็ควรจะต้องมีอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม การปลุกระดมให้ประชาชนออกมาโค่นล้มระบอบทักษิณนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าประกาศว่าจะโค่นล้มรัฐบาลถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ และผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ด้วย เพราะการล้มล้างอำนาจรัฐนั้นทำไม่ได้ เข้าข่ายเป็นกบฏ ทั้งนี้ ตอนที่มีการรัฐประหารก็จะมีการออกกฎหมายนิรโทษตามมาทุกครั้ง เพราะการล้มรัฐบาลมันเข้าข่ายเป็นกบฏ ตนไม่อยากให้ใครทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นห่วงว่าคนในครอบครัวของท่านจะเดือดร้อน
ด้าน นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า กรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะลาออกจาก ส.ส.มานำม็อบนั้น แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ยอมรับความเป็นจริง ไม่อาจปกปิดตัวตนได้อีกต่อไป เจตนาที่จะใช้มวยหมู่ มวยวัด เล่นนอกกติกาแล้ว คล้ายๆ กับตอนที่บอยคอตการเลือกตั้ง ขอร้องว่าอย่าทำถึงขนาดนั้นเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกหลอก ตั้งหน้าตั้งตาทำงานในสภาอย่างสมศักดิ์ศรีดีกว่า ประชาชนที่เลือกมา เขาเลือกให้มาทำงานในสภา ไม่ใช่ไปทำงานข้างถนน อยากบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถึงไปร่วมม็อบล้มรัฐบาล ก็หนีไม่พ้นต้องกลับไปสู่การเลือกตั้งอยู่ดี ดังนั้นขอให้สู้กันในสภาดีกว่า อย่าพยายามปลุกปั่นหลอกลวงประชาชนให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยืนยันว่าไม่มีถ้อยคำใดเอื้อประโยชน์หรือหมกเม็ดช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 7 ปีมาแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์รุมทึ้งรุมกัดคนๆ เดียว ควรที่จะพอได้แล้วหรือยัง