หลังประธานาธิบดี “บารัค โอบามา” ประกาศจะมาโกยผลประโยชน์ในเอเชียฯ!
รัฐบาล “พญาอินทรี” ก็ส่ง “ขาใหญ่” มาเพ่านพ่านในภูมิภาคนี้มากมาย เพื่อร่วมกันกอบโกย-รักษาผลประโยชน์ให้กลุ่มทุน “บูชาเงินเป็นพระเจ้า” ได้ปล้นสะดมชาติในเอเชียอย่างสะดวกดาย
อเมริกันจึงขนกำลังมาบุกทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ที่สำคัญได้สั่งสายลับทั้งเก่าใหม่ทำงานกันชนิดเต็มอัตราศึก เพื่อเดินหน้านโยบาย “จัดระเบียบโลก” ให้กับกลุ่นทุนสามานย์อเมริกา จะได้ “ค้าเสรี-โกยประโยชน์ทุกประเทศได้ตามใจชอบ” นั่นเอง
มีคนเล่าว่า..มหาเศรษฐีการเกษตรของอเมริกาคนหนึ่ง นั่งเครื่องบินส่วนตัวผ่านรัฐฟลอริดา บรรดาที่ปรึกษาของมหาเศรษฐีได้รายงานว่า ดินรัฐฟลอริดาดีมาก..เหมาะลงทุนธุรกิจด้านการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกส้ม ท่านมหาเศรษฐีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“ตกลง..แต่ผู้ว่ารัฐนี้ต้องเป็นคนของเราก่อน และรัฐบาลส่วนกลางต้องสนับสนุนการลงทุนของเราอย่างเต็มที่..ถ้าทำสิ่งที่ผมบอกได้..ลงทุนซื้อที่ดินและปลูกส้มได้เลย”
วันนี้..รัฐฟลอริดาเป็นดินแดนที่อเมริกันปลูกลำใยออกขายแล้ว..ผมได้กินลำไยที่ปลูก ณ ฟลอริดาแล้ว ลูกโต-เม็ดเล็ก-เนื้อหนา-หอมหวาน อร่อยไม่แพ้ลำไยเชียงใหม่ ฟลอริดายังปลูกข้าวและพืชหลายชนิดที่จะขายแข่งกับชาติไทยอีกด้วย!
ดังนั้น เมื่ออเมริกาจะกลับมาใหญ่ในเอเชีย งานแรก..อเมริกาต้องลดหรือกำจัดบทบาท “เจ้าถิ่น” ที่ทำมาหากินอยู่ในเอเชียก่อน “มังกรจีน” จึงเป็นเป้าหมายที่อเมริกาต้องจัดการ แม้จีนจะด้อยกว่าอเมริกาด้านการทหาร แต่จีนเป็นผู้นำเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก และเป็นเจ้าหนี้อันดับ 1 ของอเมริกาอีกด้วย
แถมอเมริกาและชาติตะวันตกเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่นายทุนสามานย์ของตนเอง ปั่นกำไรจากธุรกิจเทียมหลอกผู้คนในตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดการเงินและการลงทุนในหลายมิติ จึงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำหลายระลอก จนยากจะฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพปกติหรือดีขึ้นในเวลาอันสั้นได้
อีกทั้งการปล้นสะดมของอเมริกา ในทั่วทุกมุมโลกยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประชาชนประเทศต่างๆ ตื่นตัวทางการเมือง และรับรู้ความชั่วช้าสามานย์ของการเอาเปรียบ จากกลุ่มนายทุน “บูชาเงินเป็นพระเจ้า” ของอเมริกามากขึ้น
รวมทั้งคนอเมริกันส่วนใหญ่ก็รู้ถึงการใช้รัฐบาล-กองทัพ-เงินภาษีของชาวอเมริกันทั้งชาติ ไปอย่างไม่ชอบธรรมกับการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับนักการเมืองและกลุ่มทุนอเมริกันหยิบมือเดียว จนเกิดการประท้วงในอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะรัฐบาลและกลุ่มทุนสามานย์อเมริกันเพียงน้อยนิดนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ก่อวิกฤตหนี้ให้รัฐบาลกลางเป็นเงินถึง $16.4 ล้านล้าน เทียบเท่ากับ 103% ของผลิตภัณฑ์ประชาชาติ เรียกว่า..หากอเมริกามิใช่มหาอำนาจพิมพ์แบงก์เองได้ ชาติอเมริกาคงต้องล้มละลายไปนานแล้ว!
ด้วยชาวอเมริกันและชาวโลกตื่นตัวนี่แหละ ทำให้รัฐบาลและกลุ่มนายทุนอเมริกาจะทำอะไรชั่วๆ ไม่ได้แบบเต็มร้อยดังก่อน จนประธานาธิบดีโอบาเตรียมจะถอนทหารออกจากประเทศอิรักหลังบุกเข้าไปยึด และเข่นฆ่าผู้นำและประชาชนอิรักตายเป็นเบือ เพื่อให้นายทุนสามานย์ของพวกตน ขนน้ำมันออกมาขายด้วยการโกหกว่า-อิรักมีอาวุธนิวเคลียร์
แต่อเมริกายึดประเทศอิรักมาจนบัดนี้ ยังไม่เคยค้นพบอาวุธนิวเคลียร์เลย แต่อเมริกาก็ยังยึดอิรักและขนน้ำมันออกขายจนทุกวันนี้ โดยองค์การสหประชาชาติและชาติตะวันตก ที่ชอบอ้างตนมีความเป็นธรรมและมีมนุษยธรรม ไร้ความรับผิดชอบต่อความผิดของตนแม้แต่น้อย
ส่วนการยึดประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งประธานาธิบดี “จอร์จ บุช” ของอเมริกา มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจน้ำมัน เพราะนักล่าอาณานิคมอเมริกาได้ส่ง “นายคามิส คาไซ” อดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมัน “ยูโนแคล” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทน้ำมัน “เชฟรอน” ที่ตระกูล “บุช” มีเอี่ยวอยู่ด้วย เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของอัฟกานิสถาน ซึ่งมีทั้งก๊าซและน้ำมันให้ทุนอเมริกันสวาปาม
งานยึดประเทศอิรักและอัฟกานิสถานนี้ ของรัฐบาลอเมริกันและกลุ่มทุนสามานย์ ทำให้ชาวอเมริกันและประชาชนอิรัก-อัฟกานิสถานต้องบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายกันมากมายก่ายกอง
ผลประโยชน์อเมริกันย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อหลายรัฐบาลในตะวันออกกลางและละตินอเมริกากับรัฐบาลอีกหลายแห่งในโลก ลุกขึ้นต่อรอง-ต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติตนเองมากขึ้น
หลายประเทศในตะวันออกกลางและละตินอเมริกา ในฐานะเจ้าบ่อน้ำมันและก๊าซได้ลุกขึ้นต่อรองกับพวกนายทุนค้าน้ำมันของอเมริกา จากการได้ค่าสัมปทานเพียงแค่ 20-30% ขอขึ้นเป็น 80-90%
แน่นอน..มีรัฐบาลที่ดีและประชาชนชาติใด ร่วมกันทำเพื่อส่วนรวมหรือชาติเช่นนี้ แม้จะไม่พอใจ..แต่นายทุนค้าน้ำมันอเมริกา..ก็จำต้องยอมครับ!
ความตกต่ำทางเศรษฐกิจเช่นนี้ของอเมริกา ทำให้นักวิเคราะห์ฟันธงว่า จีนจะขึ้นครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ทางเศรษฐกิจโลก แทนอเมริกาในอนาคตอันไม่ไกลนักอย่างแน่นอน!
สถานการณ์แบบนี้แหละ..ที่ทำให้ชาติไทยเป็น “สาวเนื้อหอม” โดยนายกฯ “ปูกลวง” ไม่ต้องทำ “ตาเยิ้ม” ใส่ “โอบามา” หรอก เพราะ “โอบามา” อยากอยู่แล้วครับ!
รัฐบาล “พญาอินทรี” ก็ส่ง “ขาใหญ่” มาเพ่านพ่านในภูมิภาคนี้มากมาย เพื่อร่วมกันกอบโกย-รักษาผลประโยชน์ให้กลุ่มทุน “บูชาเงินเป็นพระเจ้า” ได้ปล้นสะดมชาติในเอเชียอย่างสะดวกดาย
อเมริกันจึงขนกำลังมาบุกทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ที่สำคัญได้สั่งสายลับทั้งเก่าใหม่ทำงานกันชนิดเต็มอัตราศึก เพื่อเดินหน้านโยบาย “จัดระเบียบโลก” ให้กับกลุ่นทุนสามานย์อเมริกา จะได้ “ค้าเสรี-โกยประโยชน์ทุกประเทศได้ตามใจชอบ” นั่นเอง
มีคนเล่าว่า..มหาเศรษฐีการเกษตรของอเมริกาคนหนึ่ง นั่งเครื่องบินส่วนตัวผ่านรัฐฟลอริดา บรรดาที่ปรึกษาของมหาเศรษฐีได้รายงานว่า ดินรัฐฟลอริดาดีมาก..เหมาะลงทุนธุรกิจด้านการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกส้ม ท่านมหาเศรษฐีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า
“ตกลง..แต่ผู้ว่ารัฐนี้ต้องเป็นคนของเราก่อน และรัฐบาลส่วนกลางต้องสนับสนุนการลงทุนของเราอย่างเต็มที่..ถ้าทำสิ่งที่ผมบอกได้..ลงทุนซื้อที่ดินและปลูกส้มได้เลย”
วันนี้..รัฐฟลอริดาเป็นดินแดนที่อเมริกันปลูกลำใยออกขายแล้ว..ผมได้กินลำไยที่ปลูก ณ ฟลอริดาแล้ว ลูกโต-เม็ดเล็ก-เนื้อหนา-หอมหวาน อร่อยไม่แพ้ลำไยเชียงใหม่ ฟลอริดายังปลูกข้าวและพืชหลายชนิดที่จะขายแข่งกับชาติไทยอีกด้วย!
ดังนั้น เมื่ออเมริกาจะกลับมาใหญ่ในเอเชีย งานแรก..อเมริกาต้องลดหรือกำจัดบทบาท “เจ้าถิ่น” ที่ทำมาหากินอยู่ในเอเชียก่อน “มังกรจีน” จึงเป็นเป้าหมายที่อเมริกาต้องจัดการ แม้จีนจะด้อยกว่าอเมริกาด้านการทหาร แต่จีนเป็นผู้นำเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก และเป็นเจ้าหนี้อันดับ 1 ของอเมริกาอีกด้วย
แถมอเมริกาและชาติตะวันตกเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่นายทุนสามานย์ของตนเอง ปั่นกำไรจากธุรกิจเทียมหลอกผู้คนในตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดการเงินและการลงทุนในหลายมิติ จึงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำหลายระลอก จนยากจะฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพปกติหรือดีขึ้นในเวลาอันสั้นได้
อีกทั้งการปล้นสะดมของอเมริกา ในทั่วทุกมุมโลกยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประชาชนประเทศต่างๆ ตื่นตัวทางการเมือง และรับรู้ความชั่วช้าสามานย์ของการเอาเปรียบ จากกลุ่มนายทุน “บูชาเงินเป็นพระเจ้า” ของอเมริกามากขึ้น
รวมทั้งคนอเมริกันส่วนใหญ่ก็รู้ถึงการใช้รัฐบาล-กองทัพ-เงินภาษีของชาวอเมริกันทั้งชาติ ไปอย่างไม่ชอบธรรมกับการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับนักการเมืองและกลุ่มทุนอเมริกันหยิบมือเดียว จนเกิดการประท้วงในอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะรัฐบาลและกลุ่มทุนสามานย์อเมริกันเพียงน้อยนิดนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ก่อวิกฤตหนี้ให้รัฐบาลกลางเป็นเงินถึง $16.4 ล้านล้าน เทียบเท่ากับ 103% ของผลิตภัณฑ์ประชาชาติ เรียกว่า..หากอเมริกามิใช่มหาอำนาจพิมพ์แบงก์เองได้ ชาติอเมริกาคงต้องล้มละลายไปนานแล้ว!
ด้วยชาวอเมริกันและชาวโลกตื่นตัวนี่แหละ ทำให้รัฐบาลและกลุ่มนายทุนอเมริกาจะทำอะไรชั่วๆ ไม่ได้แบบเต็มร้อยดังก่อน จนประธานาธิบดีโอบาเตรียมจะถอนทหารออกจากประเทศอิรักหลังบุกเข้าไปยึด และเข่นฆ่าผู้นำและประชาชนอิรักตายเป็นเบือ เพื่อให้นายทุนสามานย์ของพวกตน ขนน้ำมันออกมาขายด้วยการโกหกว่า-อิรักมีอาวุธนิวเคลียร์
แต่อเมริกายึดประเทศอิรักมาจนบัดนี้ ยังไม่เคยค้นพบอาวุธนิวเคลียร์เลย แต่อเมริกาก็ยังยึดอิรักและขนน้ำมันออกขายจนทุกวันนี้ โดยองค์การสหประชาชาติและชาติตะวันตก ที่ชอบอ้างตนมีความเป็นธรรมและมีมนุษยธรรม ไร้ความรับผิดชอบต่อความผิดของตนแม้แต่น้อย
ส่วนการยึดประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งประธานาธิบดี “จอร์จ บุช” ของอเมริกา มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจน้ำมัน เพราะนักล่าอาณานิคมอเมริกาได้ส่ง “นายคามิส คาไซ” อดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมัน “ยูโนแคล” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทน้ำมัน “เชฟรอน” ที่ตระกูล “บุช” มีเอี่ยวอยู่ด้วย เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของอัฟกานิสถาน ซึ่งมีทั้งก๊าซและน้ำมันให้ทุนอเมริกันสวาปาม
งานยึดประเทศอิรักและอัฟกานิสถานนี้ ของรัฐบาลอเมริกันและกลุ่มทุนสามานย์ ทำให้ชาวอเมริกันและประชาชนอิรัก-อัฟกานิสถานต้องบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายกันมากมายก่ายกอง
ผลประโยชน์อเมริกันย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อหลายรัฐบาลในตะวันออกกลางและละตินอเมริกากับรัฐบาลอีกหลายแห่งในโลก ลุกขึ้นต่อรอง-ต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติตนเองมากขึ้น
หลายประเทศในตะวันออกกลางและละตินอเมริกา ในฐานะเจ้าบ่อน้ำมันและก๊าซได้ลุกขึ้นต่อรองกับพวกนายทุนค้าน้ำมันของอเมริกา จากการได้ค่าสัมปทานเพียงแค่ 20-30% ขอขึ้นเป็น 80-90%
แน่นอน..มีรัฐบาลที่ดีและประชาชนชาติใด ร่วมกันทำเพื่อส่วนรวมหรือชาติเช่นนี้ แม้จะไม่พอใจ..แต่นายทุนค้าน้ำมันอเมริกา..ก็จำต้องยอมครับ!
ความตกต่ำทางเศรษฐกิจเช่นนี้ของอเมริกา ทำให้นักวิเคราะห์ฟันธงว่า จีนจะขึ้นครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ทางเศรษฐกิจโลก แทนอเมริกาในอนาคตอันไม่ไกลนักอย่างแน่นอน!
สถานการณ์แบบนี้แหละ..ที่ทำให้ชาติไทยเป็น “สาวเนื้อหอม” โดยนายกฯ “ปูกลวง” ไม่ต้องทำ “ตาเยิ้ม” ใส่ “โอบามา” หรอก เพราะ “โอบามา” อยากอยู่แล้วครับ!
