xs
xsm
sm
md
lg

“เหลี่ยม” จับมือกับ “อเมริกา” ยึดชาติไทย! (ตอนสอง)

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ประวัติศาสตร์จริงที่ไม่บิดเบือนเท่านั้น จะทำหน้าที่บอกมนุษย์ให้รู้อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตว่า คนใดดี-คนใดเลว ชาติใดเป็นธรรม-ชาติใดก่ออธรรมไว้บนโลก!

ชาติมหาอำนาจทุนสามานย์ ชอบสร้างภาพเสมือน “รักและพิทักษ์ประชาธิปไตย” แต่พฤติกรรมจริงกลับน่าขยะแขยง เพราะไม่เคยสนใจเลยว่า กำลังสมคบและสนับสนุนผู้นำชาติที่ชั่วร้าย ซึ่งได้อำนาจรัฐมาโดยไม่ชอบธรรม เพียงแต่ผู้นำชาติที่ชั่วร้ายเหล่านั้น เอื้อประโยชน์ให้กับชาติของพวกตนเท่านั้น

หลักการของผู้นำรัฐชาติทุนสามานย์ ที่อยู่ภายใต้อำนาจเงินของกลุ่มทุนสามานย์ใหญ่ ด้านธุรกิจน้ำมัน-อุตสาหกรรมผลิตอาวุธ-อิเล็กทรอนิกส์การสื่อสาร-การเงินการธนาคาร ฯลฯ!

แต่ต้องขอบอกไว้ ณ ที่นี้ว่า ชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกา และชาติตะวันตกอื่นๆ รวมทั้งจีน-รัสเซีย-อินเดีย-ญี่ปุ่น ฯลฯ ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งชาติไทยควรนำข้อดีของพวกเขามาพัฒนาข้อด้อยของชาติเราได้อย่างไร? และจะระมัดระวังข้อเสียของพวกเขา มิให้เกิดผลเสียหายต่อประชาชนและชาติไทย

รวมทั้งต้องวางสัมพันธภาพกับชาติมหาอำนาจเช่นไร จึงไม่เป็นผลลบ..แต่เป็นผลบวกให้กับประชาชนและชาติไทย

ดังนั้น..ทุกครั้งก่อนจะตัดสินใจในเรื่องใด หากผู้นำไทยรักชาติและรักประชาชน จะต้องชั่งตรองอยู่เสมอว่า ประชาชนและชาติไทยจะได้ผลบวกที่คุ้มค่าต่อผลประโยชน์ชาติและประชาชน จากการคบค้าหรือทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับชาติมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่งครับ

เพราะทุนสามานย์ทุกชาติ จะยึดผลประโยชน์ของพวกเขาเป็นหลักเสมอ อีกทั้งพวกเขาจะทำทุกวิธีการ เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดเท่านั้นครับ

มหาอำนาจอเมริกาและชาติตะวันตกในอดีตนั้น ใช้กองเรือ-ใช้อาวุธทันสมัย-ใช้ผู้คนที่ฉลาดกว่า ออกไล่ล่าทรัพยากรสารพัดจากชาติที่อ่อนแอกว่าทั่วทุกมุมโลก เรามาดูผลงานหัวโจกมหาอำนาจอเมริกา ไล่ล่าทรัพยากรต่อชาติที่อ่อนแอกว่ากันหน่อยดีไหม?

วันนี้...หลายชาติในละตินอเมริกาได้แข็งข้อกับชาติอเมริกา ที่เข้าไปปล้นสะดมก๊าซ-น้ำมัน-แร่ธาตุ-ไม้-อัญมณี และทรัพยากรอันมีค่าอื่นๆ ซึ่งทำให้นายทุนกลุ่มหนึ่งของสหรัฐฯ ร่ำรวยเงินทองและทรัพย์สินติดอันดับโลกมาจนทุกวันนี้

ขณะที่ชาวอเมริกาส่วนใหญ่ลำบากในการดำรงชีวิต แต่พวกเขากลับถูกรีดภาษีให้รัฐบาล และกองทัพขนสรรพกำลังไปทั่วโลก เพื่อไล่ล่าและปกป้องผลประโยชน์ ของมหาเศรษฐีอเมริกาไม่กี่ตระกูล ที่ทำให้ชาวละตินอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรต้องจมปลักอยู่กับความยากจนอย่างแสนสาหัส

ถึงขนาดชาวละตินอเมริกา ส่วนใหญ่ขาดแคลนปัจจัย 4 ทั้งอาหาร- เครื่องนุ่งห่ม-ที่อยู่อาศัย-ยารักษาโรคซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้

โดยรัฐบาลอเมริกาและชาติตะวันตก จะสมคบและร่วมมือกับรัฐบาลเผด็จการทหาร หรือรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาในชาติละตินอเมริกา ทำการปล้นทรัพยากรจากภูมิภาคในละตินอเมริกามาโดยตลอด

นั่นทำให้ประชาชนหลายประเทศในละตินอเมริกา ต้องลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของพวกตน และต่อสู้กับชาติมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตกผู้ไล่ล่าอาณานิคมมาจนทุกวันนี้

การลุกขึ้นสู้ของประชาชนชาวละตินอเมริกา จึงเป็นตำนานการปฏิวัติมากมาย โดยเฉพาะการปฏิวัติของ “ฟิเดล คาสโตร” ผู้นำชาวคิวบาที่ลุกขึ้นต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร “ฟุลเคนเซียว บาติสต้า” ที่มหาอำนาจชาติอเมริกาหนุนหลังอยู่

การต่อสู้ของชาวคิวบาประสบชัยชนะ จนเกิดรัฐสังคมนิยมเป็น “หอกข้างแคร่”อยู่ข้างประเทศอเมริกา ชนิดที่บ่อขุดเจาะน้ำมันแห่งแรกของจีนที่ได้รับสัมปทานจากคิวบานั้น อยู่ห่างจากชายฝั่งรัฐฟลอริดาไม่ถึง 100 กม.

อดีตประธานาธิบดี ดิค เชนีย์ ของอดีตประธานาธิบดี “บุชผู้ลูก” ยอมรับในปี 2551 ว่า จีนกำลังจะขุดเจาะน้ำมันในน่านน้ำคิวบา ที่อยู่ห่างจากรัฐฟลอริดาแค่ 96 กม.เท่านั้น!

แต่การปฏิวัติ “คิวบา” ครั้งนั้น นักปฏิวัติและผู้นำชาวคิวบา “ฟิเดล คาสโตร” กลับไม่โด่งดังขจรขจายไปทั่วโลก เท่ากับนักปฏิวัติชายผู้หนึ่งที่สวมชุดทหารใส่หมวกเบเร่ต์ติดดาวแดง ใบหน้าที่หล่อเข้ม ไว้ผมกับหนวดเครายาวรุงรัง ที่ชื่อ “เช กูวารา” ผู้เดินเคียงคู่กับ “ฟิเดล คาสโตร” แทบทุกฝีก้าว

แม้ชาวคิวบาจะรักผู้นำชาติเดียวกับตนอย่าง “คาสโตร” ที่ปราศรัยเก่งฉกาจแบบหาตัวจับยากแล้ว ชาวคิวบาก็รัก “เช” ที่มิใช่ชาวคิวบาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะนักปฏิวัติชาวอาร์เจนตินาผู้นี้ ได้ลงเรือจากอ่าวเม็กซิโกในวันที่ 25 พฤศจิกายน 1956 (พ.ศ. 2499) พร้อมกับ “คาสโตร”และเพื่อนนักปฏิวัติอีก 80 ชีวิต เพื่อมาปลดปล่อยประชาชนในคิวบา จากเผด็จการชั่วๆ “บาติสต้า” ขี้ข้าชาติอเมริกานั่นเอง

ความหล่อและประวัติการต่อสู้ที่กล้าหาญของ “เช” ทำให้ “เช” เป็น “ไอดอล” ของนักปฏิวัติทั้งโลก อีกทั้งยังเป็นที่หลงใหลของชายหญิงทั่วไป โดยเฉพาะศิลปินนักร้องนักดนตรีระดับโลกอีกด้วย ถึงขนาดนักดนตรีหลายวงนำภาพ “เช” ขนาดใหญ่ ไปติดหราไว้หน้าตู้แอมพลิไฟเออร์ หรือแขวนไว้บนเวทีงานคอนเสิร์ตระดับโลกอีกด้วย

ชีวประวัติการต่อสู้และภาพถ่ายหน้าตรงของ “เช กูวารา” ยังถูกผลิตเป็นสินค้ามากมายออกขายไปทั่วโลก ในรูปแบบต่างๆ ทั้งหนังสือ โปสเตอร์ โปสการ์ด ถ้วยกาแฟ เสื้อยืด แม็กเน็ต เข็มกลัด ฯลฯ จนถึงขั้นมีผู้นำเรื่องราวการปฏิวัติคิวบาของ “เช” ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดออกฉายทั่วโลก

ติดตามอ่านเรื่องราวของ “คิวบา-คาสโตร-เช-อเมริกา” ในบทความต่อไปครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น