ผู้ชนะเท่านั้น..จะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์!
หลัง “เหลี่ยม” ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แบบเผาเป็นเผา-ฆ่าเป็นฆ่า และใช้เงินเอาชนะการเลือกตั้งแล้ว “เหลี่ยม” ก็พยายามจะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ ชนิดกลับดำเป็นขาว-ขาวเป็นดำทันที
จาก “เหลี่ยม” หัวหน้าผู้ก่อการร้าย ถูกศาลออกหมายจับ และพิพากษาให้จำคุก 2 ปี จนเข้าหลายประเทศไม่ได้..รวมทั้งอเมริกา!
แต่ “เหลี่ยม” ก็ใช้รัฐบาล “ปูแตหลอ” แจ้งต่อนานาชาติว่า คดีความ “เหลี่ยม” ทั้งหมด ล้วนถูกรัฐบาล “สุรยุทธ์” และ “อภิสิทธิ์” ยัดข้อหาให้อย่างอยุติธรรม อีกทั้ง “เหลี่ยม” มิใช่นักโทษหนีคุก หากแต่เป็นเจ้าของรัฐบาล “ปูแตหลอ” ที่มีอำนาจเต็มในการเจรจากับทุกชาติ และทุกเรื่องที่ “เหลี่ยม” ตกลง “ปูแตหลอ” จะทำให้ถูกกฎหมายในฐานะรัฐบาลไทยโดยไว
ดังนั้น ทุกชาติที่อยากโกยผลประโยชน์ ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมืองในชาติไทย จึงเปิด “ประตูชาติ” อ้าซ่ารับ “เหลี่ยม” กันใหญ่ ทั้งที่รู้ว่า “เหลี่ยม” เป็นนักการเมืองชั่ว ปล้นชาติไทยไปหลายแสนล้านบาทแล้ว
รัฐบาลขี้โกงต้องมี “แมงดา” คุ้มครอง รัฐบาล “ปูแตหลอ” ของทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ได้เลือกอเมริกาเป็น “แมงดา” อารักขา เพื่อการปล้นชาติปล้นประชาชนคนไทย!
ห้วง “เหลี่ยม” ถูกรัฐประหารและเป็นฝ่ายค้าน “เหลี่ยม” ได้ใช้แผน “โลกล้อมไทย” โดยใช้เงินสกปรกที่โกงชาติ จ้างสำนักงานกฎหมาย “เบเก” (Baker Botts) ของ “นายเจมส์ เบเกอร์” อดีตรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยุค “บุชผู้พ่อ” เป็นประธานาธิบดี และ “Amsterdam & Peroff” ของ “นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ให้ช่วยในข้อกฎหมายและการล็อบบี้ หรือทำให้รัฐบาลต่างชาติผู้ละโมบ สนับสนุน “มหาโจรการเมืองเหลี่ยม” ไงล่ะ
ส่วนใหญ่ “เบเกอร์ บอตต์ส” จะทำงานอยู่ในอเมริกา เพื่อล็อบบี้สื่อมวลชน-รัฐสภา-รัฐบาลอเมริกัน!
ส่วน “อัมสเตอร์ดัม” เคยเดินทางเข้าไทย ให้ร้ายป้ายสีชาติไทยสารพัด เช่น อ้างการเผาบ้านเผาเมือง-ฆ่าทหารของ “เหลี่ยม” กับพวกเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อีกทั้งบิดเบือนว่า ทหารฆ่าประชาชนคนไทย รวมทั้งโกหกต่อชาวโลกว่า “เหลี่ยม” ถูกกลั่นแกล้งยัดข้อหาโกงชาติ ฯลฯ
เริ่มจากบริษัทน้ำมันอเมริกันได้วางแผนจะฮุบบ่อน้ำมันมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท ใต้ทะเลไทย-กัมพูชาแบบสามานย์
หลายคนเชื่อว่า อเมริกามีส่วนสำคัญที่ทำให้รัฐบาลยุค นายชวน หลีกภัย ให้รมช.ต่างประเทศ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เซ็น MOU 2543 ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร ทำให้ไทยเสียเปรียบเขมร เพราะดินแดนของไทยผู้เดียวแต่โบราณ กลายเป็นดินแดนเขมรกินลึกเข้ามาในแผ่นดินไทยดื้อๆ
อะไรทำให้นักกฎหมายมือฉมังอย่าง นายชวน หลีกภัย ทำเรื่องไม่ดีไม่งามเช่นนี้ได้?
“เหลี่ยม” มีผลประโยชน์ทั้งเรื่องน้ำมัน และอื่นๆ ซ่อนเร้นอยู่ อีกทั้ง “เหลี่ยม”และพวกเสื้อแดงเคยลี้ภัยการเมืองไปซุกใต้เท้าเขมรฮุนเซน “เหลี่ยม” เคยเป็นถึงที่ปรึกษาของเขมรฮุนเซน “เหลี่ยม” ได้เช่าเกาะกง 99 ปี เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันจากเขมรฮุนเซน ฯลฯ
รวมทั้ง “เหลี่ยม” กับ “ฮุนเซน” และรัฐบาลอเมริกัน อ้อ..ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของอเมริกันด้วย ที่เดินเข้าเดินออกทำเนียบรัฐบาลไทยและกัมพูชาเป็นว่าเล่น เพื่อวางแผนประสานงานกันทั้งลับและเปิดเผย ในเรื่องการฮุบบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา รวมทั้งการยกดินแดนไทยให้เขมรฮุนเซน เพื่อให้เขมรนำตัวปราสาทพระวิหารและผืนดินข้างเคียงไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย
งานนี้คนไทยจึงมีคำถามมากมายว่า ทำไมทหารไทยจึงงอมืองอตีนนิ่งเฉย ปล่อยให้ทหารเขมรยึดดินแดนไทยแบบหน้าด้านๆ แถมให้เขมรอ้างต่อชาวโลกว่า ดินแดนไทยที่บุกเข้ามายึดนี้เป็นของกัมพูชา
รัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” นั้น ไม่อยากขับไล่ทหารเขมรออกจากดินแดนไทยอยู่แล้ว จึงยกข้ออ้างบังหน้าเพื่อมิตรภาพที่ดีต่อเพื่อนบ้าน และเพื่อสันติภาพของสองประเทศ ทหารไทยจึงต้องเสียดินแดนไทยด้วยการเป็นทหารเฉย เพราะรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” มีผลประโยชน์ทับซ้อนซ่อนลึกอยู่ไงล่ะ
รัฐธรรมนูญต้องอยู่เหนือรัฐบาล หากรัฐบาลใดมีนโยบายผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐบาลมีนโยบายปล่อยให้ต่างชาติยกทหารเข้ามายึดดินแดนไทยแบบดื้อๆ เพราะรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับต่างชาติ ทหารไทยทุกคนจะต้องบอกรัฐบาลชั่วว่า รัฐบาลกำลังทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทหารไม่อาจทำตามคำสั่งรัฐบาลได้ เนื่องจากเป็นการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุเอาไว้
นั่นคือ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทหารมีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเอกราชอธิปไตยของชาติไทย มิใช่ปกป้องผลประโยชน์รัฐบาลชั่ว!
แต่ที่ทหารไทยต้องนิ่งเฉยต่อการถูกยึดดินแดนจากเขมร เพราะนอกจากรัฐบาลสั่งแล้ว นักการทูตบางคนยังเชื่อว่า รัฐบาลอเมริกันกับนายทุนบริษัทน้ำมันที่มีอิทธิพลทั้งลับและแจ้งต่อทหารไทย ได้ขอให้นายทหารระดับผู้ใหญ่ในกองทัพไทยนิ่งเฉยไว้ เพื่อให้รัฐบาล “เหลี่ยม” กับ “ฮุนเซน” บรรลุแผนร้าย นั่นคือ
ไทยต้องเสียดินแดนให้เขมรก่อน จึงค่อยนำบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา มูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท ไปแบ่งกันสวาปามระหว่าง “เหลี่ยม-ฮุนเซน-บริษัทน้ำมันอเมริกัน” ไงล่ะครับ
วิธีเสียดินแดนของนักการเมืองชั่วและ “เหลี่ยม” ที่ไม่โดนก่นด่าประณามว่า “ขายชาติ” คือ
“ยืมมือศาลโลก” ยกดินแดนไทยให้เขมรในปลายปีนี้ไงล่ะครับ!
หลัง “เหลี่ยม” ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แบบเผาเป็นเผา-ฆ่าเป็นฆ่า และใช้เงินเอาชนะการเลือกตั้งแล้ว “เหลี่ยม” ก็พยายามจะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ ชนิดกลับดำเป็นขาว-ขาวเป็นดำทันที
จาก “เหลี่ยม” หัวหน้าผู้ก่อการร้าย ถูกศาลออกหมายจับ และพิพากษาให้จำคุก 2 ปี จนเข้าหลายประเทศไม่ได้..รวมทั้งอเมริกา!
แต่ “เหลี่ยม” ก็ใช้รัฐบาล “ปูแตหลอ” แจ้งต่อนานาชาติว่า คดีความ “เหลี่ยม” ทั้งหมด ล้วนถูกรัฐบาล “สุรยุทธ์” และ “อภิสิทธิ์” ยัดข้อหาให้อย่างอยุติธรรม อีกทั้ง “เหลี่ยม” มิใช่นักโทษหนีคุก หากแต่เป็นเจ้าของรัฐบาล “ปูแตหลอ” ที่มีอำนาจเต็มในการเจรจากับทุกชาติ และทุกเรื่องที่ “เหลี่ยม” ตกลง “ปูแตหลอ” จะทำให้ถูกกฎหมายในฐานะรัฐบาลไทยโดยไว
ดังนั้น ทุกชาติที่อยากโกยผลประโยชน์ ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมืองในชาติไทย จึงเปิด “ประตูชาติ” อ้าซ่ารับ “เหลี่ยม” กันใหญ่ ทั้งที่รู้ว่า “เหลี่ยม” เป็นนักการเมืองชั่ว ปล้นชาติไทยไปหลายแสนล้านบาทแล้ว
รัฐบาลขี้โกงต้องมี “แมงดา” คุ้มครอง รัฐบาล “ปูแตหลอ” ของทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ได้เลือกอเมริกาเป็น “แมงดา” อารักขา เพื่อการปล้นชาติปล้นประชาชนคนไทย!
ห้วง “เหลี่ยม” ถูกรัฐประหารและเป็นฝ่ายค้าน “เหลี่ยม” ได้ใช้แผน “โลกล้อมไทย” โดยใช้เงินสกปรกที่โกงชาติ จ้างสำนักงานกฎหมาย “เบเก” (Baker Botts) ของ “นายเจมส์ เบเกอร์” อดีตรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยุค “บุชผู้พ่อ” เป็นประธานาธิบดี และ “Amsterdam & Peroff” ของ “นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ให้ช่วยในข้อกฎหมายและการล็อบบี้ หรือทำให้รัฐบาลต่างชาติผู้ละโมบ สนับสนุน “มหาโจรการเมืองเหลี่ยม” ไงล่ะ
ส่วนใหญ่ “เบเกอร์ บอตต์ส” จะทำงานอยู่ในอเมริกา เพื่อล็อบบี้สื่อมวลชน-รัฐสภา-รัฐบาลอเมริกัน!
ส่วน “อัมสเตอร์ดัม” เคยเดินทางเข้าไทย ให้ร้ายป้ายสีชาติไทยสารพัด เช่น อ้างการเผาบ้านเผาเมือง-ฆ่าทหารของ “เหลี่ยม” กับพวกเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อีกทั้งบิดเบือนว่า ทหารฆ่าประชาชนคนไทย รวมทั้งโกหกต่อชาวโลกว่า “เหลี่ยม” ถูกกลั่นแกล้งยัดข้อหาโกงชาติ ฯลฯ
เริ่มจากบริษัทน้ำมันอเมริกันได้วางแผนจะฮุบบ่อน้ำมันมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท ใต้ทะเลไทย-กัมพูชาแบบสามานย์
หลายคนเชื่อว่า อเมริกามีส่วนสำคัญที่ทำให้รัฐบาลยุค นายชวน หลีกภัย ให้รมช.ต่างประเทศ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เซ็น MOU 2543 ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร ทำให้ไทยเสียเปรียบเขมร เพราะดินแดนของไทยผู้เดียวแต่โบราณ กลายเป็นดินแดนเขมรกินลึกเข้ามาในแผ่นดินไทยดื้อๆ
อะไรทำให้นักกฎหมายมือฉมังอย่าง นายชวน หลีกภัย ทำเรื่องไม่ดีไม่งามเช่นนี้ได้?
“เหลี่ยม” มีผลประโยชน์ทั้งเรื่องน้ำมัน และอื่นๆ ซ่อนเร้นอยู่ อีกทั้ง “เหลี่ยม”และพวกเสื้อแดงเคยลี้ภัยการเมืองไปซุกใต้เท้าเขมรฮุนเซน “เหลี่ยม” เคยเป็นถึงที่ปรึกษาของเขมรฮุนเซน “เหลี่ยม” ได้เช่าเกาะกง 99 ปี เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันจากเขมรฮุนเซน ฯลฯ
รวมทั้ง “เหลี่ยม” กับ “ฮุนเซน” และรัฐบาลอเมริกัน อ้อ..ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของอเมริกันด้วย ที่เดินเข้าเดินออกทำเนียบรัฐบาลไทยและกัมพูชาเป็นว่าเล่น เพื่อวางแผนประสานงานกันทั้งลับและเปิดเผย ในเรื่องการฮุบบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา รวมทั้งการยกดินแดนไทยให้เขมรฮุนเซน เพื่อให้เขมรนำตัวปราสาทพระวิหารและผืนดินข้างเคียงไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย
งานนี้คนไทยจึงมีคำถามมากมายว่า ทำไมทหารไทยจึงงอมืองอตีนนิ่งเฉย ปล่อยให้ทหารเขมรยึดดินแดนไทยแบบหน้าด้านๆ แถมให้เขมรอ้างต่อชาวโลกว่า ดินแดนไทยที่บุกเข้ามายึดนี้เป็นของกัมพูชา
รัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” นั้น ไม่อยากขับไล่ทหารเขมรออกจากดินแดนไทยอยู่แล้ว จึงยกข้ออ้างบังหน้าเพื่อมิตรภาพที่ดีต่อเพื่อนบ้าน และเพื่อสันติภาพของสองประเทศ ทหารไทยจึงต้องเสียดินแดนไทยด้วยการเป็นทหารเฉย เพราะรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” มีผลประโยชน์ทับซ้อนซ่อนลึกอยู่ไงล่ะ
รัฐธรรมนูญต้องอยู่เหนือรัฐบาล หากรัฐบาลใดมีนโยบายผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐบาลมีนโยบายปล่อยให้ต่างชาติยกทหารเข้ามายึดดินแดนไทยแบบดื้อๆ เพราะรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับต่างชาติ ทหารไทยทุกคนจะต้องบอกรัฐบาลชั่วว่า รัฐบาลกำลังทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทหารไม่อาจทำตามคำสั่งรัฐบาลได้ เนื่องจากเป็นการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุเอาไว้
นั่นคือ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทหารมีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเอกราชอธิปไตยของชาติไทย มิใช่ปกป้องผลประโยชน์รัฐบาลชั่ว!
แต่ที่ทหารไทยต้องนิ่งเฉยต่อการถูกยึดดินแดนจากเขมร เพราะนอกจากรัฐบาลสั่งแล้ว นักการทูตบางคนยังเชื่อว่า รัฐบาลอเมริกันกับนายทุนบริษัทน้ำมันที่มีอิทธิพลทั้งลับและแจ้งต่อทหารไทย ได้ขอให้นายทหารระดับผู้ใหญ่ในกองทัพไทยนิ่งเฉยไว้ เพื่อให้รัฐบาล “เหลี่ยม” กับ “ฮุนเซน” บรรลุแผนร้าย นั่นคือ
ไทยต้องเสียดินแดนให้เขมรก่อน จึงค่อยนำบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา มูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท ไปแบ่งกันสวาปามระหว่าง “เหลี่ยม-ฮุนเซน-บริษัทน้ำมันอเมริกัน” ไงล่ะครับ
วิธีเสียดินแดนของนักการเมืองชั่วและ “เหลี่ยม” ที่ไม่โดนก่นด่าประณามว่า “ขายชาติ” คือ
“ยืมมือศาลโลก” ยกดินแดนไทยให้เขมรในปลายปีนี้ไงล่ะครับ!
