ศักดิ์ศรีตำรวจดียังมีเหลือ

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

ตำรวจกองปราบและหน่วยคอมมานโดได้ล้อมจับกุมนาย “กิม แซ่ตั้ง” หรือ “กำนันเป๊าะ” หรือสมชาย คุณปลื้ม คาด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์ขาออกไปชลบุรีวันพุธ สร้างความตื่นเต้นให้สังคมคนมีเส้น ทรงอิทธิพล และบรรดาเจ้าพ่อ เป็นความน่าประหลาดใจระดับหนึ่ง ตำรวจแสดงความกล้าหาญไม่กลัวการเมือง

เมื่อเห็นนายตำรวจผู้นำทีมจับกุมอภิมหาเจ้าพ่อภาคตะวันออก คือ พล ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ หรือ “เดอะกิ๊ก” ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็หายสงสัย รู้กันว่าฝีมือไม่ธรรมดาทั้งด้านบู๊ บุ๋น เป็นตำรวจนักวิชาการอ่านตำราฝรั่งเป็นตั้งๆ มีผลงานเด่นจนอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ผู้พ่อขอดูตัว

การที่ “เดอะกิ๊ก” กล้าจับกุมกำนันเป๊าะ นอกจากจะทำให้นักการเมืองและผู้ทรงอิทธิพลงงงวย อ้าปากค้าง เร่งปรับท่าทีกันแล้ว คำถามสนั่นเมืองก็คือ “ทำไม” กินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหน เมื่อกำนันเป๊าะก็ไม่ใช่ระดับธรรมดา

นอกจากเป็นเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลย่านตะวันออกมานานหลายสิบปี กำนันเป๊าะเป็นบิดาของนักการเมือง เช่นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายก. อบจ. ชลบุรี นายกฯ เมืองพัทยา และนายกฯ เมืองแสนสุข และตัวเองก็ได้สร้างทั้งพระเดชพระคุณมายาวนาน เป็นที่ครั่นคร้ามของคนดีและวงการนักเลง

ในพื้นที่ภาคตะวันออก ใครจะใหญ่กว่ากำนันเป๊าะไม่ได้! แม้จะหลบเข้ามาใช้ชีวิตตามปกติ ตำรวจในชลบุรีก็ไม่จับกุม รู้ทั้งรู้ แต่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เพราะเกรงบารมีและอิทธิพลของกำนันเป๊าะ แม้จะเป็นอาชญากรหนีคุก

นี่เป็นพฤติกรรมด้านหนึ่งของตำรวจไทย ซึ่งทำได้ทุกอย่างภายไต้ดวงอาทิตย์ เก่งฝีมือขั้นเซียนสะสางคดียากๆ ก็ทำได้ ยัดข้อหาให้ผู้บริสุทธิ์ก็ทำได้หรือเป่าคดี ช่วยคนร้ายให้รอดจากคดีด้วยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ทำได้เช่นกัน

แต่การที่กำนันเป๊าะโดนจับ เพราะไปประกอบอาชญากรรมที่ถูกพิสูจน์ในศาลอาญาว่าผิดจริง กรณีการฮุบที่ดินเขาไม้แก้ว และเป็นผู้จ้างวานผู้อื่นให้ฆาตกรรมกำนันรายหนึ่งซึ่งเป็นปรปักษ์ด้านอิทธิพลท้องถิ่น และเป็นคนหนีคุก

กำนันเป๊าะอายุ 74 ปี หนีคุกไป 7 ปีโดยใช้หนังสือเดินทางกัมพูชา เร่ร่อนไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน และออสเตรเลีย การที่ต้องกลับมาเมืองไทยเพราะรัฐบาลเป็นพวกเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าถ้าอยู่ในเมืองชล ไม่มีตำรวจหน้าไหนจะกล้าจับกุม เพราะเกรงอิทธิพลการเมือง ระดับชี้เป็นชี้ตายได้นั่นเอง

แต่ไม่ใช่ “เดอะกิ๊ก” ซึ่งมองว่าการที่กำนันเป๊าะ หรือ “กิม แซ่ตั้ง” ได้เพ่นพ่านในชลบุรี ใช้ชีวิตมีกิจกรรมปกติเหมือนคนไม่มีคดีติดตัว เท่ากับหยามเกียรติภูมิของตำรวจเกินกว่าที่จะทนได้ จึงต้องจับกุม เพื่อแสดงให้สังคมได้เห็นว่าอาชญากรจะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ไม่ว่าคนนั้นจะยิ่งใหญ่มีอิทธิพลแค่ไหน

เรื่องนี้น่าจะสั่นสะเทือนไปทั้งวงการตำรวจ เริ่มตั้งแต่ผู้การตำรวจชลบุรี ผู้บัญชาการภาค ผบ.ตร. พล ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะต้องมีคำตอบให้ประชาชนว่าทำไมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยอมสยบต่ออิทธิพลนักการเมือง

ถ้าจะไล่ขึ้นไป ก็ต้องให้ถึงบักเฉ-ลิม ซึ่งเป็นประธาน กตร. นั่งหัวโต๊ะดื่มไวน์ และแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน ซึ่งเป็นประธาน กรรมการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายกฯ ว่าจะมีความเห็นอย่างไร! ถ้าไม่อาย ต้องมีคำตอบเข้าท่า

จะมาเล่นสำนวนโวหาร เล่นลิ้นตะแบง หรือเล่นแนวแอ๊บแบ๊ว “หนูไม่รู้” ตีกินด้วยลีลาน้ำเน่าแบบเดิมๆ จะเป็นการหมิ่นสติปัญญาชาวบ้านเกินไป

กำนันเป๊าะร่างกายทรุดโทรม โรคร้ายคุกคามเกินกว่าจะทนหลบหนีอยู่ต่างประเทศ และการรีดไถของบักฮุนเซน อดีตนักจับคนเรียกค่าไถ่ในจังหวัดสะวายเรียงก่อนเป็นใหญ่ ทรราชบ้านนอก จอมเผด็จการรีดนาทาเร้นประชาชน

เพียงแค่ก้าวเข้าประตูคุกได้ไม่นานกำนันเป๊าะก็ต้องป่วยเพื่อใช้สิทธิเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในคุก อย่างน้อยก็สบายกว่านอนทรมานในห้องขัง จากนี้ไปต้องดูว่าสังขารของคนที่ต้องติดคุก 34 ปีนั้นจะอยู่ได้ยืนยาวแค่ไหน

“เดอะกิ๊ก” ได้ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนระดับหนึ่ง! ตำรวจกองปราบชุดนี้ได้ทำงานอย่างไม่หวั่นอิทธิพล ต่างจากนายตำรวจบางนายซึ่งถูกมองว่าเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม ยอมสยบทำตัวเป็นผีโม่แป้ง ปั่นคดีอย่างไร้ยางอาย

นางโพยต้องทำตัวใบ้แด๊กส์ อ้ำอึ้ง ในใจคงนึกถึงบักเหลี่ยมเช่นกัน เพราะสถานภาพของบักเหลี่ยมร้ายก็เป็นคนหนีคุก ทำตัวซ่าอยู่ต่างประเทศ เมื่อเป็นอย่างนี่ต่อให้พวกเสื้อแดงเอาพรมแดงไปปูทางลงบันไดเครื่องบิน แวดล้อมเป็นเกราะกำบัง ก็ต้องคิดหลายตลบว่า “เดอะกิ๊ก” จะกล้าจับมั้ย

ใครตอบไม่ได้ นอกจากว่าบักเหลี่ยมจะเดินทางมาวัดดวงด้วยตัวเอง!

“เสี่ยวัฒนา อัศวเหม” คงเลิกคิดจะมาเสี่ยงกับการโดนจับต่างประเทศ แต่สถานภาพน่าจะดีกว่า บักฮุนเซนคงยอมต่อหนังสือเดินทางให้ ไม่อยากรีดไถมากนักเพราะ “เสี่ยวัฒนา” มีธุรกิจสร้างรายได้ไม่น้อยในกัมพูชา

งานนี้ทำให้นักการเมืองหลายคนกลืนเลือด บักเฉ-ลิม ต้องคิดหน้าคิดหลังเช่นกันว่าการที่ไปเล่นในเรื่องไม่ควรเล่นนั้นผลสุดท้ายน่าจะส่งผลร้ายต่อครอบครัวแน่นอน ตามคำพูดที่ว่า “เบื้องหลังความมั่งคั่งคืออาชญากรรม”

จะเล่นงาน “เดอะกิ๊ก” เรอะ? ไม่ง่ายแน่ ทั้งบักเหลี่ยมและบักเหลิมก็รู้ดีไม่ใช่เรอะ ว่าความพยายามจะเล่นงานด้วยการสกัด และปิดกั้นนั้น นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยังจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออนาคตการเมืองของตัวเองอีกด้วย

ไม่จำเป็นที่พวกหนีคุกจะโดนเล่นงาน แม้แต่นักการเมืองกังฉินทำตัวกร่างขณะนี้ก็มีโอกาสได้คดีติดตัวจนสิ้นอิสรภาพเช่นกัน เมื่อล้ำเส้นต้องห้าม

ถ้าคิดว่าตัวเองแน่ อยู่เหนือกฎหมาย เชิญลองของได้!