รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในและขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม อาชญากรหนีคุกน่าจะมองเห็นชะตากรรมรออยู่ข้างหน้าแล้วว่าจุดจบต้องไม่สวย แม้ยังแสดงความผยองอำนาจ กุมองค์กรต่างๆ เช่น ตำรวจ อัยการ ข้าราชการ กองทัพ และมีม็อบเสื้อแดงถ่อย ตำรวจเทียมเอาไว้คุกคาม ใช้อิทธิพลมืดปรามฝ่ายต่อต้าน
แม่นางโพยยังสนุกสนานร่าเริงกับการเดินทางแสวงหาประสบการณ์ ความสุขต่างประเทศ ล้างผลาญเงินภาษีประชาชน ขนพวกขี้ข้านักเชลียร์ไปประดับบารมี หาเหตุว่าไปสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ตามคำเชิญ
เป็นความพิสดารอย่างมาก ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมากกว่า 20 คน แต่ละคนมีความรู้ สติปัญญาเหนือกว่าแม่นางโพย แต่ไม่มีใครได้รับคำเชิญมากขนาดนี้ แม้แต่ตัวบักเหลี่ยมเองก็ตาม ยังไม่มีคำเชิญถี่ยิบแทบทุกเดือน
ถ้าแม่นางโพยยังมีโอกาสได้เดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลัง ตรวจพลต้อนรับในประเทศต่างๆ นางจะต้องได้รับการจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองของโลกว่า เป็นผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด มีผลงานน้อยที่สุด
เป็นคนใช้เงินล้างผลาญงบประมาณมากที่สุด แต่ไม่เคยโผล่หน้าแฉล้มไปยิ้มแย้มหยาดเยิ้มให้พวก ส.ส.ขี้ข้า และฝ่ายค้านได้รับรู้ระดับสติปัญญา ทั้งๆ ที่จะต้องเก็บเงินกว่า 3 แสนล้านบาทเอาไว้ในงบกลางเพื่อให้นางใช้จ่าย
แม่นางชมชอบหากิจกรรม เช่น การไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหาร หว่านเสน่ห์นารีสัมผัสให้ผู้นำต้องพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจ เปิดเพลงหวานกล่อมยามที่แม่นางเปิบอาหาร เพื่อไม่ให้ท้องอืด จะทำให้พุงป่อง โอนามิเอาไม่อยู่!
แค่ 2 เพลง “ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ” และ “รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา” ที่ลูกน้องของพี่บิ๊กขุนทหารแก้มยุ้ยตาวาว คนรู้ใจเปิดให้ฟังกล่อมอารมณ์ ก็คงทำให้แม่นางเคลิ้ม ตาลอยเจ๊าะแจ๊ะ เพ้อหาห้องสวรรค์วิมานแมนบนดินเป็นแน่แท้!
บ้านเมืองจะล่มจม ข้าวเน่า 17-18 ล้านตันเต็มโกดัง ขายไม่ออก แต่พวกขุนทหารนักกล่าวคำปฏิญาณทำตัวเป็นกองทัพเฉย พร่ำพูดอย่างเดียวว่าเป็นกองทัพของรัฐบาล ลืมไปว่าต้องเป็นรั้วของชาติ ไม่ใช่รั้วบ้านนักการเมือง
สู้พวกนักเรียนช่างกล อาชีวะ ก่อสร้างไม่ได้ ยังมีจิตสำนึกรักบ้านเมืองมากกว่าพวกมีหน้าที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่เป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม ยกย่องเชิดชูนักการเมืองกำมะลอสติไม่เต็มเต็งในฐานะผู้บังคับบัญชา
ก่อนหน้าโน้น พวกเด็กอาชีวะ ช่างกล ถูกประณามว่าเป็นตัวป่วน ยกพวกตีกัน เป็นอันธพาลในเครื่องแบบนักเรียน! มาบัดนี้รับบทคนรักชาติ ลืมความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ไม่ต้องเอาอย่างพวกเฒ่ารกโลก เสียเงินจ้างฝรั่งมังค่าให้บินมาบอกว่าคนไทยควรแก้ปัญหาของตัวเองอย่างไร! ทุเรศสุดๆ
ยังดีที่ไม่จ้างให้ฝรั่งมาสอนว่าคนไทยควรกินข้าว ใช้ช้อนส้อมอย่างไร!
จากนี้ไป กลุ่มมวลชนต่างๆ จะขับเคลื่อน รุกคืบ เพื่อให้รัฐบาลกังฉิน อาชญากรขี้ข้าบักเหลี่ยมให้พ้นจากอำนาจ! ถ้าขี้ข้าบักเหลี่ยมอยู่ได้ คนดี รวมทั้งบ้านเมืองคงไปไม่รอด ด้วยแรงอาฆาต การทุจริตงาบคำโตไม่เลิกรา
บอกได้เลยว่านี่เป็นช่วงของการนับถอยหลังสู่จุดจบไม่สวยแน่นอนของขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม จะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ แต่ไม่ควรจะเกินสิ้นปีนี้ ถ้าปล่อยไว้ บ้านเมืองต้องเสี่ยงกับการล้มละลาย วินาศสันตะโรด้วยวิกฤต
เห็นพวกขี้ข้าบักเหลี่ยมเร่งพิธีกรรมในรัฐสภา ดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ผ่านกฎหมายงบประมาณ สร้างกิจกรรมเอาพวกเฒ่ารกโลกมานั่งสุมหัวหาทางออกให้บ้านเมืองยื้อเวลา ทั้งๆ ที่รู้ว่าปัญหาเกิดจากความชั่วร้ายกังฉินกินเมืองของโคตรเหง้า 3 ตระกูล ซึ่งพยายามใช้เงินขยายฐานเครือข่ายคนชั่ว
คนดีเป็นคนเฉย กองทัพก็เป็นไปกับเขาด้วย เพราะความอยากได้ใคร่มี ลืมภาระหน้าที่ว่าต้องปกป้อง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังดีที่ประชาชนไม่พึ่งพา ไม่อย่างนั้นต้องเสียเวลาไปหลงเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง
เราเห็นการชุมนุมของมวลชนในสวนลุมฯ เป็นไฟสุมขอน สุมหัวอกเครือข่ายขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม ต้องยอมรับว่าคนรักชาติมีมากหรือน้อยก็ตาม แต่ความกล้าแสดงออกยังไม่มาก ขี้ข้าบักเหลี่ยมดูหมิ่นหยามเหยียด
การเริ่มต้น มักจะเริ่มจากคนแรก การเดินทางไกลต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกฉันใด ดังนั้นไฟสุมขอนย่อมมีโอกาสลุกโชนเผาผลาญขบวนการบักเหลี่ยม ซึ่งตัวอภิมหาวายร้ายตกอยู่ในสภาพโลกกว้างทางแคบ แทบไม่มีที่ยืนบนโลก
ถ้าไม่อยู่นอกโลก ก็ต้องลาโลกไป ถ้าขบวนการอัลกออิดะห์สำเร็จภารกิจตามคำประกาศไล่ล่าเพื่อล้างแค้นให้เหยื่อโหด ด้วยน้ำมือขี้ข้าบักเหลี่ยม! สภาพคนไม่มีแผ่นดินอยู่ ทำให้ต้องดิ้นรนหนัก หาทางให้พ้นโทษ
ความหวังของคนรักชาติอยู่กับความกล้าหาญของศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ป.ป.ช. ว่าจะวินิจฉัยคดีว่าอย่างไร! รัฐบาลแม่นางโพยจะอยู่หรือจะไป ต้องให้ชัดเจน! ให้รู้กันไปว่าถ้าพวกขี้ข้าบักเหลี่ยมไม่ผิด คนดีคงรับชะตากรรมแทน
ถ้าหลักฐานชี้ว่าขี้ข้าบักเหลี่ยมผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือการทุจริตจำนำข้าว ก็ต้องเร่งว่าไปตามนั้น อย่ายึกยักทำให้บ้านเมืองเสียหาย!
แม่นางโพยยังสนุกสนานร่าเริงกับการเดินทางแสวงหาประสบการณ์ ความสุขต่างประเทศ ล้างผลาญเงินภาษีประชาชน ขนพวกขี้ข้านักเชลียร์ไปประดับบารมี หาเหตุว่าไปสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ตามคำเชิญ
เป็นความพิสดารอย่างมาก ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมากกว่า 20 คน แต่ละคนมีความรู้ สติปัญญาเหนือกว่าแม่นางโพย แต่ไม่มีใครได้รับคำเชิญมากขนาดนี้ แม้แต่ตัวบักเหลี่ยมเองก็ตาม ยังไม่มีคำเชิญถี่ยิบแทบทุกเดือน
ถ้าแม่นางโพยยังมีโอกาสได้เดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลัง ตรวจพลต้อนรับในประเทศต่างๆ นางจะต้องได้รับการจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองของโลกว่า เป็นผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด มีผลงานน้อยที่สุด
เป็นคนใช้เงินล้างผลาญงบประมาณมากที่สุด แต่ไม่เคยโผล่หน้าแฉล้มไปยิ้มแย้มหยาดเยิ้มให้พวก ส.ส.ขี้ข้า และฝ่ายค้านได้รับรู้ระดับสติปัญญา ทั้งๆ ที่จะต้องเก็บเงินกว่า 3 แสนล้านบาทเอาไว้ในงบกลางเพื่อให้นางใช้จ่าย
แม่นางชมชอบหากิจกรรม เช่น การไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหาร หว่านเสน่ห์นารีสัมผัสให้ผู้นำต้องพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจ เปิดเพลงหวานกล่อมยามที่แม่นางเปิบอาหาร เพื่อไม่ให้ท้องอืด จะทำให้พุงป่อง โอนามิเอาไม่อยู่!
แค่ 2 เพลง “ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ” และ “รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา” ที่ลูกน้องของพี่บิ๊กขุนทหารแก้มยุ้ยตาวาว คนรู้ใจเปิดให้ฟังกล่อมอารมณ์ ก็คงทำให้แม่นางเคลิ้ม ตาลอยเจ๊าะแจ๊ะ เพ้อหาห้องสวรรค์วิมานแมนบนดินเป็นแน่แท้!
บ้านเมืองจะล่มจม ข้าวเน่า 17-18 ล้านตันเต็มโกดัง ขายไม่ออก แต่พวกขุนทหารนักกล่าวคำปฏิญาณทำตัวเป็นกองทัพเฉย พร่ำพูดอย่างเดียวว่าเป็นกองทัพของรัฐบาล ลืมไปว่าต้องเป็นรั้วของชาติ ไม่ใช่รั้วบ้านนักการเมือง
สู้พวกนักเรียนช่างกล อาชีวะ ก่อสร้างไม่ได้ ยังมีจิตสำนึกรักบ้านเมืองมากกว่าพวกมีหน้าที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่เป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม ยกย่องเชิดชูนักการเมืองกำมะลอสติไม่เต็มเต็งในฐานะผู้บังคับบัญชา
ก่อนหน้าโน้น พวกเด็กอาชีวะ ช่างกล ถูกประณามว่าเป็นตัวป่วน ยกพวกตีกัน เป็นอันธพาลในเครื่องแบบนักเรียน! มาบัดนี้รับบทคนรักชาติ ลืมความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ไม่ต้องเอาอย่างพวกเฒ่ารกโลก เสียเงินจ้างฝรั่งมังค่าให้บินมาบอกว่าคนไทยควรแก้ปัญหาของตัวเองอย่างไร! ทุเรศสุดๆ
ยังดีที่ไม่จ้างให้ฝรั่งมาสอนว่าคนไทยควรกินข้าว ใช้ช้อนส้อมอย่างไร!
จากนี้ไป กลุ่มมวลชนต่างๆ จะขับเคลื่อน รุกคืบ เพื่อให้รัฐบาลกังฉิน อาชญากรขี้ข้าบักเหลี่ยมให้พ้นจากอำนาจ! ถ้าขี้ข้าบักเหลี่ยมอยู่ได้ คนดี รวมทั้งบ้านเมืองคงไปไม่รอด ด้วยแรงอาฆาต การทุจริตงาบคำโตไม่เลิกรา
บอกได้เลยว่านี่เป็นช่วงของการนับถอยหลังสู่จุดจบไม่สวยแน่นอนของขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม จะเป็นเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ แต่ไม่ควรจะเกินสิ้นปีนี้ ถ้าปล่อยไว้ บ้านเมืองต้องเสี่ยงกับการล้มละลาย วินาศสันตะโรด้วยวิกฤต
เห็นพวกขี้ข้าบักเหลี่ยมเร่งพิธีกรรมในรัฐสภา ดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ผ่านกฎหมายงบประมาณ สร้างกิจกรรมเอาพวกเฒ่ารกโลกมานั่งสุมหัวหาทางออกให้บ้านเมืองยื้อเวลา ทั้งๆ ที่รู้ว่าปัญหาเกิดจากความชั่วร้ายกังฉินกินเมืองของโคตรเหง้า 3 ตระกูล ซึ่งพยายามใช้เงินขยายฐานเครือข่ายคนชั่ว
คนดีเป็นคนเฉย กองทัพก็เป็นไปกับเขาด้วย เพราะความอยากได้ใคร่มี ลืมภาระหน้าที่ว่าต้องปกป้อง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังดีที่ประชาชนไม่พึ่งพา ไม่อย่างนั้นต้องเสียเวลาไปหลงเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง
เราเห็นการชุมนุมของมวลชนในสวนลุมฯ เป็นไฟสุมขอน สุมหัวอกเครือข่ายขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยม ต้องยอมรับว่าคนรักชาติมีมากหรือน้อยก็ตาม แต่ความกล้าแสดงออกยังไม่มาก ขี้ข้าบักเหลี่ยมดูหมิ่นหยามเหยียด
การเริ่มต้น มักจะเริ่มจากคนแรก การเดินทางไกลต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกฉันใด ดังนั้นไฟสุมขอนย่อมมีโอกาสลุกโชนเผาผลาญขบวนการบักเหลี่ยม ซึ่งตัวอภิมหาวายร้ายตกอยู่ในสภาพโลกกว้างทางแคบ แทบไม่มีที่ยืนบนโลก
ถ้าไม่อยู่นอกโลก ก็ต้องลาโลกไป ถ้าขบวนการอัลกออิดะห์สำเร็จภารกิจตามคำประกาศไล่ล่าเพื่อล้างแค้นให้เหยื่อโหด ด้วยน้ำมือขี้ข้าบักเหลี่ยม! สภาพคนไม่มีแผ่นดินอยู่ ทำให้ต้องดิ้นรนหนัก หาทางให้พ้นโทษ
ความหวังของคนรักชาติอยู่กับความกล้าหาญของศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ป.ป.ช. ว่าจะวินิจฉัยคดีว่าอย่างไร! รัฐบาลแม่นางโพยจะอยู่หรือจะไป ต้องให้ชัดเจน! ให้รู้กันไปว่าถ้าพวกขี้ข้าบักเหลี่ยมไม่ผิด คนดีคงรับชะตากรรมแทน
ถ้าหลักฐานชี้ว่าขี้ข้าบักเหลี่ยมผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือการทุจริตจำนำข้าว ก็ต้องเร่งว่าไปตามนั้น อย่ายึกยักทำให้บ้านเมืองเสียหาย!